“ป.ป.ช.” ไม่ลืมคดีทุจริตระบายข้าวยุค “อภิสิทธิ์” จ่อฟันปลายปี 57
“ป.ป.ช.” สรุปเหตุการณ์ความคืบหน้ากรณีทุจริตระบายข้าวสมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์” สั่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 25 ราย บริษัทที่เกี่ยวข้อง 16 แห่ง ส่วนใหญ่อ้างน้ำท่วม – ติดม็อบ รวมหลักฐานยังไม่เสร็จ จ่อปิดคดีปลายปี 2557 นี้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่เอกสารสรุปเหตุการณ์ความคืบหน้ากรณีทุจริตระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลเมื่อปี 2552 – 2553 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเอกสารดังกล่าว ระบุว่า
การรับเรื่อง
1.นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร กล่าวหาร้องเรียน นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และคณะทำงาน เพื่อดำเนการเปิดประมูลระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการประมูลขายข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ เมื่อวันที่ 6 พฤศภาคม 2552 กรณีมีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประมูลซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด และยินยอมให้ผู้ประมูลขนย้ายข้าวออกไปจากสถานที่เก็บข้าว ในขณะที่สัญญาซื้อขายข้าวอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของอัยการสูงสุด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ (เลขดำที่ 52631820)
2.นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ ได้ส่งบัตรสนเท่ห์ ซึ่งเป็นคำกล่าวหาร้องเรียนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธาน กขช. นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร รวม 4 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานร่วมกันอนุมัติให้ความเห็นชอบ ขายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลในราคาต่ำกว่าตลาด และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้ส่งออกบางราย โดยไม่มีการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป อันเป็นการกีดกันบริษัทผู้ส่งออกอื่นไม่ให้มีการเสนอราคาแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้เกิดความเสียหายทางราชการ (เลขดำที่ 54630201)
3.ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) และคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการถอดถอนนางพรทิวา รมว.พาณิชย์ กรณีการทุจริตในโครงการระบายข้าวสารของรัฐบาล (เลขดำที่ 54331658)
4.กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหนังสือ ที่ ยธ 0805/2390 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ส่งสำนวนการสืบสวนที่ 255/2555 กรณีการทุจริตในโครงการระบายสินค้าเกษตร (ข้าวสาร) ในสต็อกของรัฐบาล มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542
5.ดีเอสไอ มีหนังสือ ที่ ยธ 0811/1301 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 ส่งสำนวนการสืบสวนที่ 5/2556 กรณีการทุจริตในโครงการระบายสินค้าเกษตร (ข้าวสาร) ในสต็อกของรัฐบาลมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542
การดำเนินการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการในการไต่สวนข้อเท็จจริง และที่ปรึกษาในการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีร้องขอให้ถอดถอนนางพรทิวา อดีต รมว.พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง และกรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กขช. นายไตรรงค์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธาน กขช. นางพรทิวา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร และนายมนัส เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร รวม 4 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการระหว่างปี 2552 – 2553 กรณีการทุจริตในโครงการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล
เรื่องนี้ ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง มีความคืบหน้า กล่าวคือ
1.เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้กล่าวหา อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ เจ้าหน้าที่องค์การตลาดเพื่อการเกษตร อดีตกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ผู้แทนจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกรรมการหรือผู้แทนของบริษัทผู้ซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เมื่อปี 2552 และปี 2553 แล้ว ประมาณ 25 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
2.มีหนังสือขอทราบข้อเท็จจริงและขอเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 16 แห่ง ซึ่งหน่วยงานได้แจ้งข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐานมายังไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่ได้มีหนังสือเตือนไปยังหน่วยงานดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ปัญหาและอุปสรรค
1.จากการไต่สวนปากคำกรรมการหรือผู้แทนบริษัทผู้ซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล พบว่า บริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวสาร เมื่อปี 2552 และปี 2553 ได้ครบถ้วน โดยแจ้งว่าเอกสารหลักฐานบางอย่างหาไม่พบ เนื่องจากบริษัทได้มีการขนย้ายเอกสารหลักฐานในช่วงปี 2554 กรณีเกิดน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
2.กระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ปัจจุบันยังแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานในหน่วยงานของตนได้ เนื่องจากมีการปิดสถานที่ราชการ ทำให้การรวบรวมเอกสารหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ
การไต่สวนแล้วเสร็จ
ประมาณปลายปี 2557