“เฉลิม” เผยศาลตัดสินคดี “ม็อบ เสธ.อ้าย” แล้ว 8 คดี
“เฉลิม” ตอบกระทู้ ส.ว.เปิดเผยความคืบการดำเนินคดี “ม็อบ เสธ.อ้าย” มีคดีรวม 14 คดี ผู้ต้องหาเหยียบร้อย ส่วนใหญ่ผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.มั่นคง ศาลตัดสินแล้ว 8 คดี โทษหนักสุดรอลงอาญา 1 ปี

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถาม นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ส.ว.สรรหา เรื่อง การกระทำของบุคคลและกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีการกระทำอย่างชัดแจ้ง และเปิดเผยว่าเป็นการประทำที่ขัดและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 3 โดยอ้างการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย เป็นแกนนำ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ขณะนี้มีการดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ไปแล้ว 14 คดี มีผู้ต้องหาหลักร้อย บางคดีศาลมีคำตัดสินแล้ว
ทั้งนี้ คำตอบกระทู้ถามดังกล่าว เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2556
โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทราบว่า กลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้จัดให้มีการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล 2 ครั้ง ครั้งแรกที่สนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2555 และครั้งที่สอง ในวันที่ 24 พ.ย.2556 โดยได้มีมาตรการในการป้องกันการกระทำผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมดังกล่าว โดยมีคำสั่ง สตช.ที่ 648/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.2555 แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนรับผิดชอบคดีอาญาที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมโดยมี พล.ต.อ.ชัชวาล สุขสมจิตร ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้เข้าดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำผิดกฎหมาย ทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงในการชุมนุม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2555 จำนวน 4 คดี ดังนี้
1.คดีอาญาที่ 365/2555 ของ สน.ดุสิต ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวม 11 คน ว่ากระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 มาตรา 215 และมาตรา 216 พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2556 แต่ทนายความของกลุ่มผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 13 ก.พ.2556 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
2.คดีอาญาที่ 86/2555 ของกองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวม 98 คน ว่ากระทำความผิดโดยพยายามตัดลวดหนามและล้มแท่นคอนกรีตเพื่อข้ามแนวกั้นบริเวณสะพานมัฆวาน และใช้รถบรรทุกหอล้อชนแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
3.คดีอาญาที่ 87/2555 ของกองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวม 16 คน กระทำความผิดโดยใช้คีมตัดลวดหนามและล้มแท่งคอนกรีต และฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกมิสกวัน พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ (ผู้ต้องหาที่ 14 รับสารภาพ ศาลแขวงพิพากษาปรับ 1 พันบาท)
และ 4.คดีอาญาที่ 88/2555 ของกองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวม 14 คน กระทำความผิดโดยใช้คีมตัดลวดหนามและล้มแท่นคอนกรีต และฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกสวนมิสกวัน พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ในเหตุการณ์เดียวกัน คณะพนักงานสอบสวนของ สน.ดุสิต ยังได้ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดตามข้อกำหนด ที่ออกตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง จำนวน 10 คดี
- คดีอาญาที่ 355/2555 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กระทำผิดมีหรือใช้วิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณจุดตรวจแยกวัดเบญจมบพิตร ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและได้รับการปล่อยตัวโดยมีประกัน 5 หมื่นบาท คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
- คดีอาญาที่ 346/2555 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กระทำผิดข้อหาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่และฝ่าฝืนข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.ความมั่นคง พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการแขวงดุสิต เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2555 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
- คดีอาญาที่ 353/2555, 358/2555, 360/2555, 361/2555, 362/2555, 363/2555 และ 364/2555 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กระทำผิดฝ่าฝืนข้อกำหนดพกพาอาวุธมือ ศาลแขวงดุสิตพิพากษาให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 1 พันบาท โทษจำคุกในรอลงอาญา 1 ปี
- คดีอาญาที่ 359/2555 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา กระทำผิดฝ่าฝืนข้อกำหนดพกพาอาวุธมีด คดีอยู่ระหว่างออกหมายเรียกผู้ต้องหา หากไม่มาจะได้ออกหมายจับต่อไป
