"วีอาร์โซ" โกย 66 ล้าน ก่อน "ปลื้ม-ทับทิม" เจอปมดราม่า "เห็นแก่เงิน"?
"...หากนับเฉพาะรายได้ในส่วนของ บริษัท วีอาร์โซ จำกัด จากปี 55 อยู่ที่ 10,534,009.06 บาท ก่อนจะขยับเป็น 66,653,648.82 บาท ถือว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในเรื่องการหารายได้อย่างมาก ..เรียนจบมาแล้วทำงานหาเงินได้เยอะๆ แบบนี้ ก็น่าที่จะทำให้ นาง ภักดิพร ผู้เป็นแม่ อยู่สบายในอนาคตได้ไม่น้อย.."
กลายเป็น "เชื้อฟืน" ที่โหมให้ไฟแรงขึ้นไปแล้ว!
สำหรับกรณีดราม่าของพิธีกรรายการชื่อดังบนโลกออนไลน์ VRZO ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนมาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดัง ถึงครีมเซเลบฯ ที่มีพิธีกรสาว "ทับทิม-มัลลิกา หลีกภัย" เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ว่าอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
เมื่อ "ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย" สามี ออกโรงมาปกป้องภรรยา ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม และมีข้อความสำคัญเกี่ยวเรื่องเงินๆ ทองๆ
"แล้วถ้าจะให้โจมตีว่า "เห็นแก่เงิน" งั้นถ้าจะให้พูดตรงๆ หากทำงานไม่ได้เงินก็อย่าไปทำมันเลยครับ นอนนิ่งๆ อยู่บ้านดีกว่า เราเรียนกันมาแทบตายก็เพื่อจบมาจะได้ทำงานดีๆ เงินเดือนสูง แล้วกลับมาเลี้ยงพ่อแม่เรา ในวันข้างหน้าพ่อแม่เราจะได้อยู่สบาย"
ก่อนจะถูก "แชมป์ อดีตตากล้อง VRZO" ในยุครุ่นบุกเบิก ที่ถอนตัวจากการร่วมงานไปแล้ว เรื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็ออกมาโพสต์ต่อว่าความเห็นของ "ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย"
"4 ปีที่แล้ว ผมได้ใช้แรงกาย แรงใจ กำลังเงิน และความสามารถ ในการสร้างสิ่งๆ หนึ่งขึ้นมากับคุณ ซึ่งคุณขายฝันให้ผมทุ่มเท หลอกให้เป็นผู้ก่อตั้งกับคุณ เพื่อที่จะสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงที่บ้านกับพ่อแม่ได้ ลำบากตอนนี้สบายตอนหน้านะพี่ ผมยังจำได้ คำพูดที่ว่า เรามาลำบากด้วยกันแล้วเราก็จะสบายด้วยกันนะเราจะไม่ทิ้งกัน แล้วเป็นยังไง วิธีการทำงานของคุณทำร่างกายผมพัง ตอนนี้ต้องรักษาตัวเอง ไม่มีงาน ต้องให้ที่บ้านเลี้ยง พวกคุณสบายกันแล้วหายหัวไปเลย โทรไปไม่เคยรับ ติดต่อไม่เคยได้ ฮ่าๆๆๆ จากเมื่อก่อนโทรตามยิกๆๆๆ ให้ไปทำงานให้ ทำงานหาเงินนะไม่แย่หรอก แต่หลอกใช้คนอื่นเพื่อความสำเร็จของตัวเองนะมันแย่"
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจบริษัท วีอาร์โซ จำกัด พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ทุน 3 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 45 ซอยพัฒนาการ 46 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจโฆษณา
ปรากฎชื่อ นาง ภักดิพร สุจริตกุล (แม่ปลื้ม-สุรบถ ภรรยานายชวน หลีกภัย) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีจำนวน 4 ราย นาง ภักดิพร สุจริตกุล ถือหุ้นใหญ่สุด 15,000 หุ้น มูลค่า 1,500,000 บาท นาย สุรบถ หลีกภัย ถืออยู่ 10,000 หุ้น มูลค่า 1,000,000 บาท นาย พรภักดิ์ สุจริตกุล ถืออยู่ 2,500 หุ้น มูลค่า 250,000 บาท นาย สุธี ทองคำ ถืออยู่ 2,500 หุ้น มูลค่า 250,000 บาท
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการล่าสุด ปี 2556
มีรายได้รวม 66,653,648.82 บาท แบ่งเป็นรายได้จากการบริการ 66,651,848.72 บาท
รายจ่ายรวม 63,251,244.64 บาท
กำไรสุทธิ 1,515,265.41 บาท
ขณะที่ปี 2555 แจ้งว่า มีรายได้รวม 10,534,009.06 บาท รายจ่ายรวม 8,840,523.27 บาท กำไรสุทธิ 1,411,385.05 บาท
ทั้งนี้ นาง ภักดิพร สุจริตกุล และ นาย สุรบถ หลีกภัย ยังมีธุรกิจอีก 1 แห่ง คือ บริษัท หลบภัย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 25 กันยายน 2555 ทุน 1 ล้าน แจ้งที่อยู่เดียวกับ บริษัท วีอาร์โซ จำกัด ประกอบธุรกิจโฆษณาเช่นกัน รายชื่อผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน นาง ภักดิพร ถือหุ้นใหญ่สุด
ล่าสุดนำส่งงบการเงิน ปี 2556 มีรายได้รวมแค่ 9,500 บาท มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 14,733.50 บาท ขาดทุน 5,233.50 บาท
ทั้งนี้ หากนับเฉพาะรายได้ในส่วนของ บริษัท วีอาร์โซ จำกัด จากปี 55 อยู่ที่ 10,534,009.06 บาท ก่อนจะขยับเป็น 66,653,648.82 บาท ถือว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในเรื่องการหารายได้อย่างมาก
เมื่อ "ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย" เรียนจบมา แล้วทำงานหาเงินได้เยอะๆ แบบนี้ ก็น่าที่จะทำให้ นาง ภักดิพร ผู้เป็นแม่ อยู่สบายในอนาคตได้ไม่น้อย
ในฐานะ "หุ้นส่วนใหญ่" วีอาร์โซ!
ส่วนจะใช้วิธีการหาเงินอย่างไรบ้าง? คงจะมีเพียงแค่ คน "วีอาร์โซ" เท่านั้นที่รู้!
ล่าสุด “ปลื้ม สุรบถ” ได้โพสต์ข้อความฝากถึงอดีตสมาชิก VRZO รุ่นพี่ลงอินสตาแกรมส่วนตัว @vrzopleum ว่าตนเสียใจมากที่พี่แชมป์คิดแบบนี้ พร้อมทั้งบอก ตนไม่รู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายสุขภาพย่ำแย่ และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะโกธรอะไรแต่ตนก็ยังรักและเคารพเหมือนเดิม
“ผมเพิ่งทราบข่าวเรื่องสเตตัสพี่แชมป์ ผมโทรหาพี่..แต่พี่ไม่รับสาย งั้นผมขอพูดตรงนี้ละกันนะพี่ ผมอยากจะบอกพี่นะครับว่า “ผมโคตรเสียใจเลยพี่” ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่คิดแบบนี้ ผมสาบานให้ตายเลยว่าผมไม่รู้จริงๆ ผมเห็นพี่โทรมาหาผมตอนโน้นว่า “ปลื้มสบายดีนะ พี่ฝันไม่ค่อยดีเลย ปลื้มดูแลตัวเองด้วยนะ พี่เป็นห่วง” ผมยังตอบเลยว่า “โหยพี่ ขอบคุณที่โทรมาพี่ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะพี่” จากที่พี่โทรมาผมบอกตรงๆ ว่า ผมแม่งโคตรรักพี่เลย ผมรู้สึกว่าพี่เป็นพี่ของผมจริงๆ เพราะพี่เป็นห่วงผมตลอด จนล่าสุดผมก็ยังมาเจอพี่ในงาน VRZO PARTY”
“ผมถามพี่ว่า: “พี่สบายดีนะพี่ หลังพี่เป็นไงบ้าง” พี่ก็ตอบ : “ดีขึ้นๆ ฮ่าๆๆ” ผม: “ละพี่เป็นไงบ้าง ถ้าหลังพี่ดีแล้วพี่กลับมาทำด้วยกันมั้ย ตอนนี้ผมมีตากล้องเยอะละ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแบบเมื่อก่อน : พี่แชมป์: ไม่เป็นไรน้อง เดี๋ยวพี่ได้ทุนไปเรียนต่อพอดี ขอบใจมากๆ จากตอนนั้นผมยังรู้สึกดีใจกับพี่มากที่ตอนนี้พี่ก็ดูแข็งแรงและมีความสุขดี แล้วพอมาวันนี้เกิดเรื่องขึ้นมา ผมเลยรีบโทรหาพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะล่าสุดที่เราคุยกันยังดีๆ กันอยู่เลย พี่ก็ดูแข็งแรงดี”
“แต่ปรากฏว่าพี่ไม่รับสายผม ผมเลยโทรหาอิสว่ามันเกิดอะไรขึ้น อิสเลยบอกกับผมว่า “พี่แชมป์ตอนนี้สุขภาพทรุดโทรมมาก ร่างกายทรุดโทรม จิตใจก็ตามร่างกาย แล้วพี่แชมป์เคยโทรหามึงแต่มึงไม่รับสายเค้า พี่แชมป์เค้าเลยคิดว่ามึงไม่สนใจเค้าเลย” ผมตกใจมาก ผมบอกอิสว่า “อะไรวะ?! ทำไมกูไม่เคยรู้เลย!!” ผมเลยอยากบอกพี่แชมป์เลยนะครับว่า"ผมไม่รู้เลยจริงๆพี่ ว่าพี่โทรหาผมตอนไหน อาจจะเพราะคนโทรหาผมเยอะมาก แล้วมันตกหล่นหรืออะไรผมไม่แน่ใจ แต่ผมไม่รู้จริงๆพี่ และมาวันนี้พี่ลำบาก ผมก็เพิ่งรู้จากที่คุยกับอิสนี่แหละ”
“ผมไม่รู้เลยว่าสุขภาพพี่กลับมาแย่อีกแล้วและฐานะพี่กำลังลำบาก และผมไม่รู้เลยว่าพี่คิดกับผมแบบนี้ แต่สุดท้ายมันผิดที่ผมเองแหละพี่ ที่ผมไม่ได้ติดต่อพี่เลย มัวแต่ทำงานทุกวัน แล้วก็คิดว่าพี่คงสบายดีมีความสุขดีในเส้นทางชีวิตของพี่ ผมแม่งโง่เองพี่ ผมขอโทษพี่จากใจจริงเลยพี่ ให้ผมไปขอขมาพี่ก็ได้ ผมรักพี่และเป็นห่วงพี่มาตลอดจากใจจริงของผม แต่ผิดที่ผมเอง ผมโง่เองที่มันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เลย ถึงพี่จะโกรธผมไปแล้วละมองผมแย่ไปแล้วก็ตาม แต่ยังไงพี่ก็คือพี่ของผมที่ผมรักและนับถือครับพี่ ผมขอโทษครับพี่แชมป์ ผมรักพี่มากนะครับ ถ้าพี่ให้อภัยผมพี่โทรกลับหาผมหน่อ นะครับ ผมอยากคุยกับพี่ครับ”
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Google