- Home
- Investigative
- บัญชีทรัพย์สิน
- ระทึก!6 รัฐมนตรีโอนหุ้นปริศนา 100 ล้านก่อนนั่งเก้าอี้ครม.ยิ่งลักษณ์
ระทึก!6 รัฐมนตรีโอนหุ้นปริศนา 100 ล้านก่อนนั่งเก้าอี้ครม.ยิ่งลักษณ์
เปิดปมรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างน้อย 6 คนโอนหุ้นปริศนา 100 ล้านอุตลุต ก่อนนั่งเก้าอี้ไม่กี่วัน ส่อหลบกฎหมายหุ้น 5%
พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 บัญญัติห้ามรัฐมนตรีถือครองหุ้นได้ไม่เกิน 5% ของทุนจดทะเบียน หากรัฐมนตรีประสงค์จะถือครองหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนต่อไปให้แจ้งต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ประธาน ป.ป.ช.) ภายใน 30 วันนับจากรับตำแหน่ง และจัดการโอนหุ้นให้นิติบุคคลภายใน 90 วันนับวันแจ้ง ประธาน ป.ป.ช. ทราบ
ทั้งนี้ เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้เพื่อมิได้รัฐมนตรีและคู่สมรสมีส่วนได้เสียในธุรกิจและห้ามรัฐมนตรีผู้นั้นเข้าไปบริหารจัดการได้ใดใดในหุ้นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interests)ได้
ทว่าในทางปฏิบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกลับใช้วิธีโอนหุ้นให้คนใกล้ชิดมากกว่าที่จะปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่ามีรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ยิ่งลักษณ์ 1) อย่างน้อย 6 คน โอนหุ้นให้คนใกล้ชิดก่อนรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันรวมมูลค่านับร้อยล้านบาท มีทั้งรัฐมนตรีที่สังกัดพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่ามีเงินลงทุนรวม 19,997,165 บาท และได้แจ้งให้ประธาน ป.ป.ช.ทราบว่าหุ้นบริษัท คาเธย์ แอสเซท แมนเนจเนมท์ จำกัด จำนวน 1,080,000 หุ้น มูลค่าตามตราสาร 10,800,000 บาท, หุ้นบริษัทรัตนโกสินทร์ 99,993 หุ้น มูลค่า 999,930 บาท ,หุ้นบริษัท ฟุตบอลสโมสรราชประชา จำกัด จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่า 200,000 บาท และหุ้นบริษัท เอ.ซี.ซีเนียร์ จำกัด จำนวน 5,002 หุ้น มูลค่า 50,020 บาท ได้โอนให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรีเป็นนิติบุคคลบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล
ส่วนหุ้นบริษัท KGI 1,098 หุ้น มูลค่า 1,098 บาท และหุ้น Y.C.I. จำนวน 1,333 หุ้น มูลค่า 1,333 บาทของนายกิตติรัตน์ และหุ้น บริษัท D-MARK ของภรรยา (นางเกสรา ณ ระนอง) จำนวน 300 หุ้น มูลค่า 3,000 บาท ได้จัดการโอนให้บุตรชายที่บรรลุนิติภาวะเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้งรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรี 8 คน มีปัญหาถือครองหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด (เกิน 5%ของทุนจดทะเบียน) ได้แก่ นายสิทธิ โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทวงวิทยาศาสตร์เทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสวนิต คงสิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในจำนวนนี้อย่างน้อย 6 คนแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง
ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถือครองหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายไชยาขาดคุณสมบัติ ส่วนกรณีนายวิรุฬศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าบริษัทเลิกกิจการแล้วจึงยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แถลงต่อรัฐสภา ในระหว่างวันที่ 23-24 ส.ค. 2554 เกี่ยวกับมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรม ระบุว่า ข้อ 8. นโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พัฒนาระบบราชการ สร้างเสริมมาตรฐานด้านคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล