หลักฐานใหม่!หุ้นใหญ่"สยามอินดิก้า"ไม่ได้ทำธุรกิจช่วงปี56 ก่อนโผล่ถือหุ้น 655ล.
เปิดหลักฐานใหม่ งบดุลปีล่าสุด บ.ขายสว่าน ผู้ถือครองหุ้นส่วนใหญ่ "สยามอินดิก้า" 665 ล้าน ไขปริศนาแจ้งที่มารายได้ 3.9 พันบาท ขาดทุนสุทธิ 11,055 บาท มีเงินสดแค่ 4 หมื่นกว่า-ผู้สอบบัญชีระบุชัดตลอดทั้งปี 56 ไม่ได้ประกอบกิจการ
หลายคนอาจจะทราบข้อมูลกันไปแล้ว บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทสยามอินดิก้าฯ จำนวน 655,359 หุ้น มีมูลค่าหุ้น ละ 1,000 บาท หรือคิดเป็นเงิน 655,359,000บาท ในปัจจุบัน ได้นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการทางธุรกิจ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ หลังจากปรากฎรายชื่อเข้ามาถือครองหุ้นบริษัทสยามอินดิก้าฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ย.56 หรือคิดเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนเศษ
โดยระบุว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจ 3,945 บาท มีค่าใช้จ่ายรวมในการดำเนินงาน 15,000 บาท ขาดทุนจากการดำเนินงาน 15,000 บาท รวมรายได้อื่น 3,945 บาท ขาดทุนสุทธิ 11,055 บาท
(อ่านประกอบ : ฮือฮา!บ.ขายสว่านหุ้นใหญ่"สยามอินดิก้า"655ล.โชว์รายได้ล่าสุด3.9พันบาท)
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ในช่วงปี 2556 บริษัท คาล เอเซียฯ ถูกระบุข้อมูลจากผู้สอบบัญชีว่าไม่ได้ประกอบกิจการอะไรตลอดทั้งปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบรายงานงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ บริษัท คาล เอเซียฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบเมื่อวันที่ 31 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ซึ่งลงนามรับรอง โดย "นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง" กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท
พบว่า ผู้สอบบัญชีได้ระบุในหมายเหตุประกอบงบการเงินว่า "บริษัทฯ มิได้ประกอบกิจการในระหว่างปีปัจจุบัน"
ส่วนลักษณะการดำเนินธุรกิจ คือ การนำเข้าเครื่องมือและสว่านไฟฟ้า
(ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่งบการเงินบริษัทฯ ระบุว่า มีสินทรัพย์ เป็นรายการเงินสด อยู่จำนวน 48,462.82 บาท มีเงินลงทุนระยะยาวจำนวน 5 ล้านบาท
รวมสินทรัพย์ทั้งหมด 5,048,462.82 บาท
ส่วนหนี้สิน มีค่าใช้จ่ายค่าจ่าย อยู่จำนวน 15,000 บาท
เงินกู้ยืมระยะยาวจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 3,700,000 บาท
รวมหนี้สิน 3,715,000 บาท
ส่วนรายได้ จำนวน 3,945 บาท ระบุว่าเป็นดอกเบี้ยรับ
มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 15,000 บาท
ขาดทุนสุทธิ 11,055 บาท
ผู้สอบบัญชี ยังได้ระบในหมายเหตุงบการเงินเกี่ยวกับเงินกู้ยืมระยะยาวจากบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ว่า ไม่มีการคิดดอกเบี้ยโดยไม่มีกำหนดชำระคืน
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในงบการเงินบริษัท คาล เอเซียฯ ฉบับนี้
ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดเรื่องการเข้าไปถือครองหุ้น ของบริษัทสยามอินดิก้าฯ 655,359 หุ้น มีมูลค่าหุ้น ละ 1,000 บาท หรือคิดเป็นเงิน 655,359,000บาท ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 21 พ.ย.56 แต่อย่างใด
ตอกย้ำข้อสังเกตที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ว่า การเข้ามาถือครองหุ้น บริษัท สยามอินดิก้าฯ ของบริษัท คาล เอเซียฯ ต่อจากนางสุดา คุณจักร ภรรยา นายสมยศ คุณจักร ผู้อำนวยการยศการคลินิก ไม่ได้มีการซื้อขายเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนเหตุผล ว่าทำไมบริษัท สยามอินดิก้าฯ ต้องเปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังจากที่โครงการระบายข้าวถูกตรวจสอบพบปัญหาการทุจริต และปรากฎรายชื่อบริษัทสยามอินดิก้าฯ กรรมการและผู้บริหารหลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง
พิจารณาจากข้อมูลสถานะทางธุรกิจของบริษัท คาล เอเซียฯ ที่ปรากฎออกมา คำตอบคืออะไร น่าจะคาดเดากันได้ไม่ยากนัก!
(อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่!สัมพันธ์ลับ"บ.ขายสว่าน-ญาติเสี่ยเปี๋ยง"ก่อนโผล่หุ้นใหญ่สยามอินดิก้า)