แกะรอย ป.ป.ช.อายัดทรัพย์ พล.อ.เสถียร เงินสด-ที่ดิน-รร.อะไรคิวต่อไป?
การเดินหน้าตรวจสอบทรัพย์สินของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกลาโหม และบุคคลในครอบครัว ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความคืบหน้ามากขึ้นไปทุกที
เมื่อในช่วงก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งอายัด โรงแรม วารินบุรี วิลล่า & สปา มูลค่า 25 ล้านบาท ของ นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร เพิ่มอีกหนึ่งรายการ จากทรัพย์สินเดิมที่ ป.ป.ช. มีคำสั่งอายัดไว้ก่อนหน้านี้
สาเหตุที่ทำให้ ป.ป.ช. ต้องออกคำสั่งอายัดโรงแรมหรูแห่งนี้ เพราะตรวจสอบพบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่า จะมีการโอนยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ้อนทรัพย์สิน ตามมาตรา 78 ของกฎหมาย ป.ป.ช.
เนื่องจากปรากฏข้อมูลจนเชื่อได้ว่า นางณัฐณิชาช์ มีความพยายามที่จะลบข้อมูลการประกาศขายโรงแรมแห่งนี้ (ซึ่งเป็นรายการทรัพย์สินที่ยังไม่ถูกอายัด) บนเว็บไซต์ทิ้ง หลังจากที่ข้อมูลเรื่องการประกาศขายโรงแรมแห่งนี้ บนเว็บไซต์ ถูกเปิดเผยผ่านทางสื่อมวลชน
ป.ป.ช. จึงมีคำสั่งให้อายัดโรงแรมแห่งนี้ ไว้ทันที พร้อมเปิดโอกาสให้ นางณัฐณิชาช์ ได้พิสูจน์ที่มาของทรัพย์สิน ตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดย นางณัฐณิชาช์ พร้อมบุตรบุญธรรม มีกำหนดการเข้าให้ปากคำตอบ ป.ป.ช. ในช่วงปลายเดือนเมษายน นี้ จากนั้น ก็จะถึงคิวของ พล.อ.เสถียร ที่จะเข้าให้ปากคำในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม นี้
เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนเอง และคนในครอบครัว ที่ถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบพบว่า เพิ่มขึ้นมาอย่างผิดปกติและมีคำสั่งอายัดไว้แล้ว จำนวน 65 ล้านบาท (ยังไม่นับรวมโรงแรม วารินบุรี วิลล่า & สปา มูลค่า 25 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคดี ร่ำรวยผิดปกติ ของ พล.อ.เสถียร ของประชาชนทั่วไปที่สนใจ เป็นไปอย่างถูกต้อง และง่ายต่อการทำความเข้าใจ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้สรุปลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในการสอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติ ของ พล.อ. เสถียร มานำเสนอให้รับทราบอีกครั้ง ดังนี้
- เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 14.000 น. ป.ป.ช. โดย นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.และนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าว กรณี ป.ป.ช.มีมติให้อายัดทรัพย์สิน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เป็นเงินกว่า 65 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5 บัญชี ที่ดิน 9 แปลง และรถยนต์ 2 คัน
ทั้งนี้ การสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลัง ป.ป.ช.ตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติ คือมีเงินไหลเข้าบัญชีของคู่สมรส นางณัฐณิชาช์ และบุตรบุญธรรม น.ส.ณิชาพัฒน์ มากผิดปกติ โดยเฉพาะระหว่างปี 2553-2554 มีเงินไหลเข้าออกกว่า 100 ล้านบาท ป.ป.ช.พิจารณาเห็นว่า จากฐานะของคู่สมรสและบุตรบุญธรรมของ พล.อ.เสถียร ไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนั้น จึงสรุปว่าน่าจะเป็นเงินที่มาจาก พล.อ.เสถียร
ป.ป.ช. ยังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า นายสมบัติ จันทรวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ที่ปรึกษาในการทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ น.ส.ณิชาพัฒน์ ได้รับเงินจำนวน กว่า 20 ล้านบาท จาก นางณัฐณิชาช์ เพื่อนำมาฝากไว้ในบัญชีธนาคารของนายสมบัติ โดยอ้างว่ามีปัญหากับทางครอบครัว ซึ่ง ป.ป.ช. ชี้ว่านายสมบัติ เข้าข่ายการเป็น นอมินี(ตัวแทน)
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิด พล.อ.เสถียรกรณีจงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่สมัยเป็นกรรมการองค์การคลังสินค้า ทั้งเงินฝาก เงินลงทุน และที่ดิน รวม 9 รายการ มีมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท โดยส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยเอาผิดกับ พล.อ.เสถียรตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 41 ซึ่งมีบทลงโทษคือห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปีแล้ว
จากนั้น ไม่นาน นายสมบัติ จันทรวงศ์ ได้ทำจดหมายขอลาออกจากตำแหน่งในสถาบัน องค์กร และหน่วยงาน จำนวน 8 ฉบับลงวันที่ 6 มี.ค. โดยเนื้อหาในจดหมายทั้ง 8 ฉบับระบุว่า “ตามที่ได้มีข่าวปรากฏเป็นที่รับรู้กันทั่วไปในสังคมว่า อดีตข้าราชการชั้นสูงท่านหนึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ และมีชื่อของผมเข้าไปพัวพันด้วยนั้น ผมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ลำพังความบริสุทธิ์ใจของตนเองเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอเสียแล้วที่จะทำให้ผมสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอาจารย์อย่างที่ผมเข้าใจต่อไปได้”
ต่อมาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นางณัฐณิชาช์ ภรรยา พล.อ.เสถียร ปรากฏชื่อเป็นผู้บริหารและเจ้าของโรงแรม 2 แห่ง ในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี คือ 1.โรงแรม วารินบุรี วิลล่า & สปา และ 2.โรงแรมเดอะบูทิค วารินบุรี โฮเทล ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ถูกอายัด
เบื้องต้น จากการติดต่อไปยังโรงแรม วารินบุรี วิลล่า & สปา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากพนักงานว่า โรงแรมแห่งนี้ เป็นของ นางณัฐณิชาช์ โดยให้ลูกน้อง ชื่อว่า แม่มะลิ แสนศรี ภรรยา จ่าสิบเอกรายหนึ่ง ในค่าย ป.พัน 6 และเป็นลูกน้องของ พล.อ.เสถียร ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้พัน ในค่าย ป.พัน 6 เป็นผู้ดูแล ค่อยเก็บเงินรายได้ นำส่งเข้าบัญชีให้ทุกเดือน
ส่วน โรงแรมเดอะบูทิค วารินบุรี โฮเทล ได้ขายให้กับ นายวรวิต พันธ์ทอน ไปตั้งแต่เมื่อปี 2553-2554
(อ่านประกอบ : เปิดคนซื้อโรงแรมเมียอดีตปลัดกลาโหม เจ้าของร้านถุงยังชีพยุคน้ำท่วม)
จากการตรวจสอบข้อมูลของ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พบว่า นายวรวิต พันธ์ทอน เป็นบุคคลคนเดียว กับที่ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของร้านเจ้าของร้านเอื้อธนพัฒน์ ผู้จัดหาถุงยังชีพ 4 หมื่นถุง วงเงิน 32 ล้านบาท ให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในช่วงปลายปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ การจัดซื้อถุงยังชีพและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนไม่กี่รายเข้ามารับงานและราคาในการจัดซื้ออาจแพงกว่าความเป็นจริง
นอกจากนี้ นายวรวิต ยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัทหลายแห่ง ในเครือข่ายนาย นายกำพล ธนบุณยวัฒน์ นักธุรกิจค้าข้าว
และในจำนวนบริษัทเหล่านี้ มีบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอื้อรสวันต์ และ บริษัท ชัย ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ได้รับการว่าจ้างงานจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองบัญชาการทหารสูงสุด ในยุค พล.อ.เสถียร เป็นผู้บัญชาการทหารพัฒนา รวมวงเงินเกือบ 70 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : พบ 2 บริษัทเครือข่าย“เมีย”อดีตปลัดกลาโหม คู่สัญญา“ทหารพัฒนา”74 ล้าน)
จากนั้นวันที่ 1 มีนาคม 2556 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยังได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2556 ก่อนหน้าที่ ป.ป.ช. จะมีคำสั่งอายัดทรัพย์ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลมโหม นางณัฐณิชาช์ ได้ประกาศขายโรงแรมวารินบุรีวิลล่า&สปาในเว็บไซต์ www.thaibizpost.com/ad66530.htm โดยตั้งราคาไว้ จำนวน 25 ล้านบาท
จากการสอบถามข้อมูลบุคคลที่รับหน้าที่ ในการประกาศขายโรงแรมดังกล่าว ชื่อ นายอาทร วงสา ระบุว่า เหตุผลที่ต้องประกาศขายโรงแรมนี้ เป็นเพราะต้องการนำเงินไปสร้างโรงแรมแห่งใหม่ ที่วารินชําราบ ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จ ขณะที่ที่ตั้งโรงแรมปัจจุบัน มีระบบการคมนาคมไม่สะดวก ต้องส่งผ้าไปซักที่อื่น ซึ่งอยู่ไกลประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่คุ้ม
ส่วนราคาซื้อขายสามารถต่อรองได้เหลือ 23 ล้านบาท
เบื้องต้นทาง ป.ป.ช. ยืนยันข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีพล.อ.เสถียร รวยผิดปกติ กำลังตรวจสอบข้อมูลการเป็นเจ้าของโรงแรม 2 แห่ง ใน จ.อุบลราชธานี ของ นางณัฐณิชาช์ โดยตั้งข้อสงสัยว่า กรณีที่นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ขายโรงแรม เดอะบูทิค วารินบุรี โฮเทล ไปก่อนหน้านี้แล้วนั้นเป็นการซื้อขายกันจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเป็นการทำธุรกรรมอำพรางเพื่อยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
จากนั้น วันที่ 8 เมษายน 2556 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ตรวจสอบข้อมูลการประกาศขายโรงแรมวารินบุรีวิลล่า&สปา ที่ประกาศขายตามเว็บไซต์ต่างๆ อีกครั้ง พบว่า มีการลบข้อมูลออกไป โดย นายอาทร ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใด ๆ ทั้งสิ้น
ก่อนที่ นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อมูลกับ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ป.ป.ช. ได้ออกคำสั่งให้อายัดโรงแรม วารินบุรี วิลล่า & สปา ใน จ.อุบลราชธานี ของนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกลาโหม ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้อายัดทรัพย์สิน ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เพิ่มเติมจากทรัพย์สินเดิมที่มีคำสั่งสั่งอายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
โดยการออกคำสั่งอายัดดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2556 ซึ่งมีการส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดิน และทางจังหวัดอุบลราชธานี รับทราบเรียบร้อยแล้ว
ส่วนโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ใน จ.อุบลราชธานี ของ นางณัฐณิชาช์ คือ โรงแรมเดอะบูทิค วารินบุรี โฮเทล ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าเงินที่นำมาใช้ในการซื้อมาจากใคร เมื่อขายแล้วเงินไปไหนต่อ และแหล่งที่มาของเงินมีความถูกต้องหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลที่ครบถ้วนจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันข้อมูลจากทาง ป.ป.ช. ว่า นอกจากโรงแรมทั้งสองแห่ง ใน จ.อุบลราชธานี แล้ว ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินส่วนอื่นๆ ด้วย โดยใช้วิธีแกะรอยจากเส้นทางเงิน ทั้งในส่วนของ พล.อ.เสถียร คนในครอบครัว ผู้ใกล้ชิด และผู้เกี่ยวข้อง
ส่วนทรัพย์สินใหม่ที่ อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบเพิ่มเติม จะมีอะไรอีกบ้างนั้น คงต้องจับตามองกันต่อไป แบบห้ามกระพริบตากันเลยทีเดียว !!
----------------------
หมายเหตุ : รายละเอียดทรัพย์สิน ที่ ป.ป.ช.มีมติให้อายัด ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ของ พล.อ.เสถียร ล่าสุด
1.ที่อยู่ในชื่อนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์
-เงินฝากบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพรหมเทพ สาขาถนนพรหมเทพ จ.อุบลราชธานี เลขที่บัญชี 118-2-72421-8 จำนวน 838,962 บาท
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 9112 ต.ช่องแม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
-นส. 3 ก. เลขที่ 55 ต.ช่องแม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 11821 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 11811 ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี
- โรงแรม วารินบุรี วิลล่า &สปา จ.อุบลราชธานี (เพิ่มใหม่)
2.ที่อยู่ในชื่อ น.ส.ณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์
-นส. 3 ก. เลขที่ 1136 ต.พะลาน อ.เขมราฎ จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 3657 ต.วารินชำราบ (ธาตุ) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 3658 ต.วารินชำราบ (ธาตุ) อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 13402 ต.ไหล่ทุ่ง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
-โฉนดที่ดิน เลขที่ 213694 ต.อนุสาวรีย์ อ.บางเขต กทม.
-รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า อินโนวา ทะเบียน ฎง 2345 กทม.
-รถยนต์ยี่ห้อ เล็กซัส ทะเบียน ฎฟ 2345 กทม.
3.ที่อยู่ในชื่อนายสมบัติ จันทรวงศ์
-เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์ มธ.จำกัด บัญชีเลขที่ 1-07-001813-3 จำนวน 2,438,753 บาท
-เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์ มธ.จำกัด บัญชีเลขที่ 1-01-005732-1 จำนวน 3,723,402 บาท
-เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์ มธ.จำกัด บัญชีเลขที่ 1-07-001942-8 จำนวน 5,227,604 บาท
-เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์ มธ.จำกัด บัญชีเลขที่ 1-27-000331-1 จำนวน 607,736 บาท