แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
เร่งขุดลอก กำจัดวัชพืช และสิ่งปฏิกูลในคลองรังสิตประยูรศักดิ์-คลองสาขา
วันที่ 26 มีนาคม นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดกิจกรรมรวมใจ อนุรักษ์ พัฒนาคลองรังสิตประยูรศักดิ์และคลองสาขา ณ เขื่อนริมคลองรังสิต กม.10+000 ระหว่าง คลอง 1 ถึง คลอง 2 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ กรมชลประทาน ร่วมกับจังหวัดปทุมธานี ได้จัดทำโครงการรวมใจอนุรักษ์พัฒนาคลองรังสิตประยูรศักดิ์และคลองสาขาขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ประชาชน เยาวชน ได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์แม่น้ำ คู คลอง และสิ่งแวดล้อมในชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างเครือข่ายชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ดูแล ป้องกัน รักษาคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม โดยใช้วิธีชีวภาพและกายภาพที่ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ รวมทั้งยังเป็นการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์คลองรังสิตประยูรศักดิ์ให้ดีขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ส่งเครื่องจักร เครื่องมือ ได้แก่ Mart BackHoe 2 คัน BackHoe ลงโป๊ะ 4 คัน เรื่อกำจัดวัชพืชสายพาน 2 ลำ และเรือกำจัดวัชพืชชนิด Champ shell 1 ลำ พร้อมด้วยการร่วมมือของจังหวัด ท้องถิ่น ประชาชนและเจ้าหน้าที่ ในการเข้าดำเนินการขุดลอก กำจัดวัชพืช และสิ่งปฏิกูลในคลองรังสิตประยูรศักดิ์และคลองสาขา มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ.2555 - 2557)
เป้าหมายระยะแรกปี 2555 โดยจะพัฒนาคลองรังสิตประยูรศักดิ์และคลองสาขา จำนวน 20 คลอง ความยาว 309 กม. และปี 2556 – 2557 มีเป้าหมายในการอนุรักษ์และพัฒนาคลองต่าง ๆ ในเขตจังหวัดปทุมธานี จำนวน 22 คลอง ความยาว 404.5 กม.
ด้าน นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว กรมชลประทานจะเข้าไปจัดกิจกรรมเพื่อสร้างองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึก ให้กับประชาชนและเยาวชนในพื้นที่พื้นที่ตลอดจนให้การสนับสนุนโรงเรียน หน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยจะมีการติดตามและประเมินผลการทำงาน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นนี้จะก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำงาน ส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำ การป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ภัยแล้ง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังก่อให้เกิดเครือข่ายในการอนุรักษ์และพัฒนาทางน้ำชลประทาน ลดปัญหาการบุกรุกและการก่อสร้างในทางน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี โดยจะสิ้นสุดโครงการฯ ในเดือนมีนาคม 2557 และจะขยายผลไปยังคลองสายอื่น ๆ ต่อไป