ดูชัดๆ สัมพันธ์ลึกในอดีต"เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล & บิ๊กกี่"ก่อนกรณีสติกเกอร์ค่านิยมฯ 7.1 ล.
เปิดหมดเอกสารจดทะเบียนตั้ง "บ.ไทยทีวีพูล" ก่อนคว้างานสติกเกอร์ค่านิยมฯ 7.1 ล. ตามรอยสัมพันธ์ลึกครั้งอดีต"เจ๊ติ๋มทีวีพูล & บิ๊กกี่" หลังส.องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญฯยื่น ป.ป.ช.สอบ รมต.ไอซีที -ปลัด-5 นักวิชาการ ปมผลประโยชน์ทับซ้อนเอกชนกับบุคคลในรัฐบาล
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวน นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงไอซีที และ 5 นักวิชาการคอมพิวเตอร์ฯที่กำหนดราคากลางโครงการจ้างเหมาจัดทำ Line Sticker เพื่อเผยแพร่ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
พร้อมระบุข้อสังเกตเกี่ยวกับการกระทำความผิดในรื่องนี้ ไว้ 6 ประเด็น ซึ่งมีกรณีบริษัทผู้รับจ้างผลิตหรือดำเนินการอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบุคคลในรัฐบาลอันเข้าข่ายความผิดตามระเบียบสำนักนายรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 ข้อ 6 (4) และข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมอยู่ด้วย
(อ่านประกอบ : สมาคมองค์การพิทักษ์ฯตั้ง 6 ปมผิด ยื่น"ป.ป.ช." สอบสติกเกอร์ค่านิยมฯ 7.1 ล.)
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชน ได้เห็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องนี้มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก บริษัท ไทย ทีวีพูล จำกัด ที่ได้รับการว่าจ้างผลิตไลน์สติกเกอร์เผยแพร่ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ วงเงิน 7,117,000 บาท ตามเอกสารที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มานำเสนอ ณ ที่นี้
"บริษัท ไทย ทีวีพูล จำกัด" เดิมชื่อ "บริษัท โน้ต แฟมิลี่ จำกัด" แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 ก.ค.51 มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 197/3 ซอยลาดพร้าว 101(วัดบึงทองหลาง) ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นแจ้งวัตถุประสงค์ทำธุรกิจไว้ 25 ข้อ โดยข้อ 23 ประกอบกิจการพิมพ์ และจัดจำหน่ายนิตยสาร นิเทศสารบันเทิง หนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิง รายปักษ์ รายสองปักษ์ และรายวัน , ข้อ 24 ประกอบกิจการ รับจดแจ้งโฆษณาสินค้า และบริการทุกชนิด และข้อ 25 ประกอบกิจการ นำเข้าเครื่องจักร จากต่างประเทศเพื่อขายหรือให้เช่า
ปรากฎชื่อ นางพรรทิภา สกุลชัย (หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ แต่เพียงผู้เดียว
รายชื่อผู้ถือหุ้น ที่ริเริ่มก่อการจัดตั้งบริษัท มีจำนวน 3 ราย คือ นางพรรทิภา สกุลชัย เข้าซื้อหุ้นไว้จำนวน 29,800 หุ้น "พลเอกนพดล อินทรปัญญา" และนายพานิช ศรีสวัสดิ์ ถืออยู่คนละ 100 หุ้น
ทั้งนี้ พล.อ.นพดล อินทปัญญา เรียกกันในวงการทหารว่า “บิ๊กกี่” เป็นเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น 6 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน
พล.อ.นพดล เคยเป็นสามีของ นางพรรทิภา สกุลชัย
ต่อมาวันที่ 19 ก.พ.53 บริษัทฯ แจ้งจดวัตถุประสงค์ทำธุรกิจเพิ่มเป็น 31 ข้อ ล้วนแต่เป็นการทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ต่อมาวันที่ 25 มี.ค.53 บริษัทฯ แจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มอีก 97 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท โดยเป็นเงินจาก "นางพรรทิภา สกุลชัย "
ขณะที่ นางพรรทิภา สกุลชัย จะแจ้งเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เป็น นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย เมื่อวันที่ 25 ก.ค.54
ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.54 บริษัทฯ แจ้งจดทะเบียนวัตถุประสงค์ทำธุรกิจ เพิ่มเป็น 70 ข้อ ซึ่งมีธุรกิจการผลิตรายการโทรทัศน์ รับปรึกษาออกแบบวางแผนพัฒนา ควบคุมโครงการ การติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือระบบสื่อกระจายสัญญา ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ประกอบกิจการให้บริการอินเตอร์เน็ต บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ด้วย (ไม่ได้มีการระบุเจาะจงการทำธุรกิจสติกเกอร์ไลน์แต่อย่างใด)
ต่อมาวันที่ 15 ต.ค.55 บริษัทฯ แจ้งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "บริษัท ไทย ทีวีพูล จำกัด"
วันที่ 7 ก.พ.57 บริษัทฯ แจ้งเพิ่มกรรมการหนึ่งคน คือ นายโชกุล ศกุณต์ไชย (ลูกชายคนโต เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ) เป็นกรรมการร่วมกับ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล
ล่าสุด วันที่ 29 ต.ค.57 บริษัทฯ แจ้งจดทะเบียนวัตถุประสงค์ทำธุรกิจ เพิ่มเป็น 71 ข้อ เป็นตัวแทนนำเข้า ส่งออก และจำหน่ายกล่องดิจิทัล กล่องดาวเทียม และเสารับสัญญาณอากาศและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดังกล่าวทุกชนิด
(ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่รายชื่อผู้ถือหุ้น ในช่วงการทำธุรกิจหลายปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนหุ้นของ พล.อ.นพดล คนเดียว
ล่าสุด ณ วันที่ 30 เมษายน 57 พบว่ามีจำนวน 3 ราย คือ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ถือหุ้นใหญ่สุด 999,800 หุ้น มูลค่า 99,980,000 บาท ส่วนนายนันทกุล สกุลชัย (ลูกชายคนรอง) และนายพานิช ศรีสวัสดิ์ ถืออยู่คนละ 100 หุ้น มูลค่า 10,000 บาท
ไม่ปรากฎชื่อ พล.อ.นพดล เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
ขณะที่ พล.อ.นพดล ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งใน 10 ที่ปรึกษา คสช. หลังการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 และเป็นหนึ่งใน 28 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ยื่นเรื่องฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อศาลปกครอง ไม่ให้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ศาลไม่รับฟ้อง
(อ่านประกอบ : พลิกปูม 10 “กุนซือ” นั่งแท่นที่ปรึกษา คสช. , “บิ๊กกี่”นำทัพสนช.28 คน ฟ้องเงียบป.ป.ช. ลงมติให้เปิดเผยทรัพย์สินโดยมิชอบ , ทหารเกษียณเดือดร้อน!ชนวน“บิ๊กกี่” นำทัพฟ้องป.ป.ช.ปมยื่นทรัพย์สินฯ)
ทั้งนี้ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล เคยให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสาร WHO เปิดตัวคอนโดหรูใจกลางเมือง พร้อมเรื่องราวชีวิตคู่กับ พล.อ.นพดล อินทปัญญา พร้อมระบุว่าอีก 5 ปี รีไทร์ โอนถ่ายธุรกิจ 400 ล้านแก่ทายาท
(อ่านประกอบ : http://www.whomagmedia.com/hobbies_content_detail.php?t=diy&t1=hobbies&id=71)
ต่อมาช่วงกลางปี 2557 "เจ๊ติ๋ม" ให้สัมภาษณ์นิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 843 วันที่ 4 เมษายน 2557 ถึงความสัมพันธ์กับ "บิ๊กกี่" ว่า เพิ่งเลิกกันไปได้ไม่กี่ปี เนื่องจากที่อยู่กันมา 6-7 ปี งานเยอะ ทำแต่งาน จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะอยู่แบบที่ต่างคนต่างไป เลยแยกทางใครทางมันดีกว่า
(อ่านประกอบ : http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3824014)
ขณะที่ นายโชกุล สกุลชัย ลูกชายคนโต ที่เพิ่งเข้ามาเป็นกรรมการบริษัท ในช่วงเดือน ก.พ. 57 ถูกระบุว่าเรียนที่ University of the Arts London สาขา Arts Media & Cultural Studies (Media & Cultural Studies) เมื่อ 2 ปีก่อน
นายโชกุล จึงน่าจะเข้าใจเรื่องการผลิต Line Sticker เป็นอย่างดี?
อ่านประกอบ :
เจาะ 3 โครงการ “ค่านิยม 12 ประการ” 35 ล. คำถามถึงความคุ้มค่า-โปร่งใส ?
เปิดหมดขั้นตอนไอซีทีจ้างวิธีพิเศษ "ไทยทีวีพูล" ทำสติกเกอร์ค่านิยมฯ 7.1ล.
เบื้องหลัง! ไอซีที อุบเงียบชื่อบ.ทำไลน์ค่านิยมฯ 7.1ล.เหตุถูก"สตง."สั่งสอบ
เสร็จแล้ว! ไอซีทีแพร่รูปสติกเกอร์ไลน์ “ค่านิยม 12 ประการ” 7.1 ล้าน