logo isranews

logo small 2

ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต! “ธีรภัทร์”เคลียร์ปมสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองหมิ่น จนท.

เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 28 กรกฎาคม 2558 เวลา 12:06 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่

“…เชื่อว่า เป็นเรื่องเล็ก ๆ เผอิญเกิดจากความไม่เข้าใจกัน เกิดจากการประสานงานกัน เข้าใจว่าเป็นสถานที่ประชุม คือฝ่ายสมาชิกยังไม่ตกลงว่าจะใช้สถานที่อะไร แต่เจ้าหน้าที่อาจเข้าใจผิด ไปจัดสถานที่อีกแห่งหนึ่ง เลยเกิดปัญหาการเบิกจ่าย ค่าใช้จ่าย เท่านั้นเอง ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร…”

PIC teerapat 28 7 58 2

กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นในสภาพัฒนาการเมือง !

ภายหลังกลุ่มพนักงานและเจ้าหน้าที่หลายสิบชีวิต ทำหนังสือร้องเรียนถึง “ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์” ประธานสภาพัฒนาการเมือง กรณีถูกสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองบางราย ใช้วาจา “ดูหมิ่น” ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

เนื่องจากไม่พอใจเรื่องการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและการปฏิบัติงาน

นอกจากนี้ยังร้องเรียนอีกว่า ที่ผ่านมามีสมาชิกบางรายที่พฤติกรรมส่อให้เข้าใจได้ว่าแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอีกด้วย

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ?

“ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏ เพราะว่าที่มีการทำหนังสือมาถึงตนก็ดี หรือไปพูดจาอะไรกันก็ดี มันยังไม่สามารถจะทราบในรายละเอียดได้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าเราไปฟังความข้างเดียวหรือฟังความสองข้างก็ตาม แต่ไม่ใช่ลักษณะของเป็นข้อเท็จจริง คงดำเนินการอะไรไปได้ลำบาก เราต้องสอบข้อเท็จจริงกันเสียก่อน ปัญหาเกิดขึ้นคืออะไร ตอนนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ”

เป็นคำยืนยันของ “ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์” ต่อ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ในกรณีดังกล่าว

ก่อนจะระบุว่า “เมื่อได้รับหนังสือ ก็ได้เรียกประชุมสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง และที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว”

เมื่อถามว่า มีผู้ถูกสอบกี่คน ?

“ธีรภัทร์” ระบุว่า “ไม่ทราบ”

ก่อนอธิบายว่า เพราะคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต้องวางกรอบ แนวทาง ว่าจะสอบใคร อย่างไร เรื่องนี้ไม่ทราบ เขาประชุมของเขาเอง เข้าไปยุ่งไม่ได้ เขาคงต้องพิจารณาว่า เรื่องต้นสายปลายเหตุเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ถึงจะเลือกสอบได้ถูกต้อง

ก่อนจะยืนยัน “เชื่อว่า เป็นเรื่องเล็ก ๆ เผอิญเกิดจากความไม่เข้าใจกัน เกิดจากการประสานงานกัน เข้าใจว่าเป็นสถานที่ประชุม คือฝ่ายสมาชิกยังไม่ตกลงว่าจะใช้สถานที่อะไร แต่เจ้าหน้าที่อาจเข้าใจผิด ไปจัดสถานที่อีกแห่งหนึ่ง เลยเกิดปัญหาการเบิกจ่าย ค่าใช้จ่าย เท่านั้นเอง ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร”

ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าสมาชิก “บางราย” มีพฤติกรรมส่อไปในทางแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เช่น การเบิกจ่ายค่าที่พักไม่ตรงความเป็นจริง แต่กลับลงโทษแค่ตักเตือน ไม่ถึงขั้นไล่ออกนั้น

“ธีรภัทร์” อธิบายว่า เรื่องนี้เราทำตามกระบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน เรามีประมวลจริยธรรมของเรา เรามีคณะกรรมการจริยธรรม รวมถึงการตั้งคณะกรรมการมาสอบข้อเท็จจริงด้วย และผลที่ได้ คณะกรรมการจริยธรรมก็ดำเนินการ แล้วมีข้อเสนอแบบนี้ ไม่ใช่ผมไปทำเอง ผมแค่ดำเนินการตามที่เขาสรุปให้ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่ยุติ เราก็ดำเนินการตามขั้นตอน มีการส่งไปให้กฤษฎีกาวินิจฉัย ซึ่งผลก็ออกมาแบบที่เห็น

“นี่คือสิ่งที่คนบางคนไม่เข้าใจ เพราะคิดว่าตัวเองอยากจะเห็นอย่างนั้น เห็นอย่างนี้ แต่เราทำตามความรู้สึกไม่ได้ ต้องทำตามหลักการ ตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้น เรารู้สึกว่าคนนี้ผิด ทำไมไม่ไล่ออก มันไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งจะถูกหรือไม่ก็ไม่รู้ ดังนั้นต้องยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดความรู้สึกของตัวเอง”

“ธีรภัทร์” ยืนยันว่า เรื่องนี้คิดว่าสบายใจได้ เรามีกระบวนการที่เป็นไปโดยชอบ อีกหน่อยพอเรื่องกระจ่าง เราก็อธิบายให้ภายในและภายนอกเข้าใจ เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่ามันเป็นเรื่องอะไร ต้องทราบว่าเราเป็นองค์กรที่ตามกฎหมายไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง เบิกได้เฉพาะค่าเดินทาง ค่าเบี้ยประชุม ค่าที่พัก ซึ่งเป็นระเบียบที่วางไว้ตั้งแต่ต้น แน่นอนมันไม่สมบูรณ์ มันมีปัญหา และก็เกิดปัญหามาตลอด เพราะมันไม่ชัดเจน ไม่เป็นธรรม แต่เราไม่ใช่องค์กรที่ออกกฎเกณฑ์ได้เอง ค่าใช้จ่ายต้องกำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งเรายังไม่ได้ออก ปัจจุบันก็เทียบเคียงกับสถาบันพระปกเกล้าฯ ที่สำนักงานสังกัดอยู่ จึงนำมาประยุกต์ให้เหมาะสม เพราะฉะนั้นบางเรื่อง มันอาจเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากกฏเกณฑ์ที่มีอยู่ แต่อะไรที่ส่อว่าเจตนาจะทุจริต เราก็ดำเนินการเต็มที่

“ต้องเข้าใจเรื่องแบบนี้มันมีระดับของมัน สมมติว่า คุณเอาปากกาของทางราชการไปใช้ เท่ากับจงใจทุจริตผิดเล็กน้อย เขาไม่ไล่คุณออกหรอก แค่เตือนว่าอย่าไปทำอีก แต่สิ่งที่คนไปคาดคะเนว่า อยากจะเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันเป็นความรู้สึกส่วนตัว เรื่องแบบนี้ขั้นตอนมันมี ไม่ว่าจะเป็นเตือน ภาคทัณฑ์ ให้ออก ไล่ออก แล้วความผิดมันยังไม่ถึงไล่ออก จะไล่ได้อย่างไร แล้วคนที่พิจารณาความผิดคือคณะกรรมการจริยธรรม

ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง เขาสรุปยังไง ผมก็ว่าไปตามนั้น”

ทั้งหมดคือคำตอบ “อีกด้าน” จาก “ธีรภัทร์” เคลียร์ทุกแง่ปมปัญหาในสำนักงานสภาพัฒนาการเมืองที่กำลัง “คุกรุ่น” อยู่ในขณะนี้

ท้ายสุดข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ต้องติดตามกันต่อไป !

อ่านประกอบ : ปูด!สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองดูหมิ่นศักดิ์ศรี จนท.-“ธีรภัทร์”รับตั้ง กก.สอบแล้ว

 

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก voicetv