ฟังชัด ๆ “สรยุทธ”ขอพิสูจน์ต่อศาล"อสมท"ไม่เคยเสียหายแต่ได้ประโยชน์

“…กรณีที่เกิดขึ้น อสมท ไม่ได้เกิดความเสียหาย และสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมจะพิสูจน์กับศาล เช่นเดียวกับที่ผมพิสูจน์ในศาลปกครอง ผมก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นมี และ อสมท นอกจากจะไม่เสียหายแล้ว เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยซ้ำไป”

ชื่อของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกร/นักเล่าข่าวชื่อดัง ตกเป็นที่สนใจต่อสาธารณชนอีกครั้ง !

ภายหลังอัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้องศาลอาญา กรณียักยอกเงินค่าโฆษณาบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เสียหายกว่า 138 ล้านบาท ซึ่งปรากฏชื่อของนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมทฯ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีรเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้มฯ ตามมาตรา 6, 8 และ 11 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2502

โดยในช่วงเช้า “สรยุทธ” ได้เล่าข่าวตามปกติในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-09.30 น. โดยไม่ได้เอ่ยถึงกรณีนี้ในรายการแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันได้ส่งทนายความไป “ชี้แจง” กับอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อขอเลื่อนนัดจากเดิม 10.00 น. เป็นช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. โดยอ้างว่า “ติดภารกิจ”

ต่อมา “สรยุทธ” เดินทางมาถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ประมาณ 12.50 น. พร้อมด้วยทีมงาน 2-3 คน โดยหลังลงจากรถ ได้สาวเท้าก้าวเข้าศาลทันที โดยไม่สนใจ “สื่อ” ที่เฮโลยกทัพมาเตรียมทำข่าวจนแน่นบันไดทางขึ้นศาล

หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการขอประกันตัว โดยใช้ “เงินสด” 2 แสนบาท และฟังคำฟ้องของคู่ความ ซึ่งล่าสุด “สรยุทธ” ได้รับการประกันตัวแล้ว โดย “ไม่มีเงื่อนไข” ใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้เวลาดำเนินการทั้งหมดราว 2 ชั่วโมงเท่านั้น

(อ่านประกอบ : “สรยุทธ” ได้ประกันตัว! วางเงินสด 2 แสน ศาลนัดใหม่พร้อมคู่ความ 27 เม.ย.)

ก่อนที่จะกลับ มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักขอสัมภาษณ์ คราวนี้ “สรยุทธ” ไม่ปฏิเสธ พร้อมชี้นิ้วไปข้างหน้า ระบุว่า “คุยกันหน้าศาล”

“สรยุทธ” จะ “เคลียร์” เรื่องอะไรบ้าง สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงมาให้เห็นชัด ๆ ดังนี้

“นี่คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการในชั้นศาล และเป็นเรื่องที่ผมพูดมาตลอดว่า จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ ส่วนการทำงานก็ทำต่อไปเป็นปกติ ก็พูดอย่างนี้ตลอด ใช้กระบวนยุติธรรมศาลเป็นครั้งแรก อย่างเป็นทางการ”

เป็นคำยืนยันจากปาก “สรยุทธ” ต่อข้อซักถามที่ว่า กรณีเช่นนี้อาจเกิดผลกระทบต่อการทำหน้าทื่สื่อมวลชน

ก่อนจะอธิบายว่า “ส่วนหนึ่งก่อนหน้านี้ เป็นข่าวว่า ถ้าไม่มาจะออกหมายจับ ก่อนหน้านี้กระบวนการต่าง ๆ ข่าวขยับนิดหนึ่งก็เป็นประเด็นข่าว ความจริงเมื่อเข้าสู่กระบวนการของศาล ข้อดีก็คือจะได้พิสูจน์ตัวเองกับกระบวนการของศาล ซึ่งรายละเอียดข้อเท็จจริงของคดีคงไม่ก้าวล่วงได้”

“ผมจะสู้คดี ซึ่งมั่นใจความบริสุทธิ์ แต่อย่างน้อยเรื่องที่เคยประเด็นทีละนิดทีละหน่อยจะได้หมดไปเสียที เพราะว่ามันสู้คดีอย่างตรงไปตรงมาในกระบวนการยุติธรรม” พิธีกรชื่อดัง สำทับอย่างมั่นใจ

ส่วนกรณีที่นางพิชชภาไม่ได้มารายงานตัวต่อ อสส. นั้น “สรยุทธ” เล่าว่า “ติดต่อไม่ได้เลย และไม่ได้ติดต่อ”

ก่อนจะอธิบายว่า “เดิมตอนเช้าอย่างที่ว่า ผมจัดรายการจนถึง 09.30 น. และรอดูว่าเจ้าตัวจะมาหรือไม่ สุดท้ายเห็นบอกว่า ทางอัยการฯแจ้งว่าพยายามจะติดต่อ หนังสือนัดเห็นว่าไปนัดที่สำนักงานอัยการฯ ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ผมก็ไม่เข้าใจ สับสน แต่สุดท้ายขอบคุณขั้นตอนอัยการฯ ไม่เสียเวลา ไม่ต้องรอ ก็ฟ้องบริษัท และตัวผมเลย ฟ้องก่อน ฟ้องแยกไปเลย”

ก่อนที่จะยืนยันหนักแน่นว่า ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด !

“ปฏิเสธ อย่างที่ยืนยันมาตลอด และย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า กรณีที่เกิดขึ้น อสมท ไม่ได้เกิดความเสียหาย และสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมจะพิสูจน์กับศาล เช่นเดียวกับที่ผมพิสูจน์ในศาลปกครอง”

“ผมก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นมี และ อสมท นอกจากจะไม่เสียหายแล้ว เป็นฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยซ้ำไป”

เป็นคำพูดทิ้งท้าย ก่อนที่ “สรยุทธ” จะ “ขอตัว” แหวกวงนักข่าวไปขึ้นรถ โดยไม่ตอบข้อซักถามใด ๆ เพิ่มเติมอีก

อ่านประกอบ : ย้อนคดี“ไร่ส้ม-สรยุทธ”ยืดเยื้อ 2 ปี ก่อน อสส.เห็นพ้องป.ป.ช.ขยับฟ้องศาล