logo isranews

logo small 2

พลิกปูม 6 คดีร้อน“ธาริต”ก่อน ป.ป.ช.สั่งอายัดทรัพย์กว่า 40 ล้าน

เขียนวันที่
วันจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2558 เวลา 14:47 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่

พลิกปูม 6 คดีร้อน “ธาริต” ก่อนหน้า ป.ป.ช. สั่งอายัดทรัพย์กว่า 40 ล้าน อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 คดี ย้านตำแหน่งบิ๊กดีเอสไอมิชอบ-รื้อสำนวนหักเงิน ส.ส. เข้าพรรค ปชป.-เอี่ยวเอกชนยักษ์ใหญ่ขนไม้ข้ามชาติ รอด 3 คดี บิดสำนวนสลายชุมนุมแดง-หมิ่นปมสร้างโรงพักทดแทน-ข่มขู่พยานคดีอัลรูไวรี่

PIC tarit 20 4 58 1

ชื่อของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตกเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง!

ภายหลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ “เอกฉันท์” อายัดทรัพย์สินรวมกว่า 40 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบ กรณีมีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่า “ร่ำรวยผิดปกติ”

ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเหล่านั้น รวมไปถึง “บ้านเขาใหญ่” อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่เคยตกเป็นกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ด้วย

(อ่านประกอบ : “ธาริต”โดนแล้ว!ป.ป.ช.อายัดทรัพย์กว่า 40 ล.รวยผิดปกติ-ยึดบ้านเขาใหญ่ด้วย)

อย่างไรก็ดี “ธาริต” ได้ออกมาตอบโต้ทันควัน ! มั่นใจที่จะชี้แจงในกรณีนี้ พร้อมกับข่มว่า ในช่วงนั่งเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ ได้เข้าไปรับผิดชอบในคดีสำคัญหลายคดี

อ้างว่าเคยถูกฟ้องมากถึง 30 คดี และศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว 19 คดี ดังนั้นพร้อมต่อสู้จนถึงชั้นฎีกา และเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลคดีความต่าง ๆ ที่ “ธาริต” ตกเป็นจำเลย-ผู้ถูกกล่าวหา ในหน่วยงานความยุติธรรมต่าง ๆ พบว่า มีอย่างน้อย 6 คดี มี 3 คดีที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ และมี 3 คดีที่ “ธาริต” ชนะ ดังนี้

1.คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ยื่นฟ้องนายธาริตต่อศาลอาญา กรณีผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 90, 157 และ 200 ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา

โดยกรณีดังกล่าว เมื่อช่วงปี 2554-2555 ดีเอสไอได้สรุปสำนวนนายอภิสิทธิ์นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ในข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนา จากการที่ออกคสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ใช้กำลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเห็นว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจ ต้องเป็นการวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ล่าสุด ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องนายธาริต เนื่องจากเห็นว่ากระทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่บิดเบือนและกลั่นแกล้ง

2.คดีที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ 44 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องนายธาริตต่อศาลอาญา ศาลปกครอง และคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีที่ดีเอสไอรื้อคดีการหักบัญชีเงินเดือน ส.ส. เพื่อบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาทำอีกครั้ง ภายหลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ยุติการพิจารณาคดีดังกล่าวไปแล้ว

โดยคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลอาญา ศาลปกครอง และการแสวงหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

3.คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยื่นฟ้องนายธาริตต่อศาลอาญา กรณีที่นายธาริตแถลงข่าวหมิ่นประมาทในการโฆษณา กล่าวหาว่าทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน

โดยกรณีนี้ นายธาริต แถลงข่าวใส่ความนายสุเทพ ทำนองว่าเป็นผู้มีคำสั่งไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง แต่กลับให้รวมสัญญา จากรายภาคเป็นรายเดียว ทำให้บริษัทที่ประมูลได้ดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามสัญญา

ล่าสุด ศาลอาญา พิพากษายกฟ้องนายธาริต เนื่องจากเป็นการให้ความเห็นทางกฎหมาย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ในการสรุปความคืบหน้าของคดีตามพยานหลักฐาน

4.คดีที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ยื่นฟ้องนายธาริต กับพวกต่อศาลอาญา กรณีเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

โดยกรณีดังกล่าว เมื่อช่วงปี 2555 นายธาริตเสนอย้าย พ.อ.ปิยะวัฒน์ ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นการย้ายตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม โดยอ้างว่า พ.อ.ปิยะวัฒน์ ทำผิดวินัย ซึ่ง พ.อ.ปิยะวัฒน์ ได้ร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ซึ่งได้มีคำวินิจฉัยว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลอาญา

5.กรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม สั่งการให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการใช้ดุลยพินิจสั่งคดีโดยมิชอบของนายธาริต กับพวกขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ในการสั่งไม่ฟ้องคดีบริษัท อันตน จำกัด นำเข้าไม้สักแปรรูปจากประเทศพม่า มูลค่ากว่า 204 ล้านบาท โดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย

โดยกรณีนี้ ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษไว้เมื่อปี 2553 และมีคำสั่งแต่งตั้งนายชาติชาย โทสินธิติ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคเหนือ เป็นหนัวหน้าพนักงานสอบสวน แต่ต่อมาได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงให้นายชำนาญ ฉันทวิทย์ ผบ.สำนักคดีภาษีอากร เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน จากนั้นได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องบริษัท อันตนฯ กระทำผิดกฎหมาย แต่รองอธิบดีดีเอสไอขณะนั้นได้ทำความเห็นเสนอไปยังอธิบดีดีเอสไอ (นายธาริต) ว่า สมควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากไม่ได้เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ส่วนไม้สักของกลางให้อายัดไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ต่อมาในการพิจารณาชั้นอัยการก็มีความเห็นไม่สั่งฟ้อง และคืนไม้สักของกลางให้บริษัท อันตนฯ

อย่างไรก็ดี คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีบริษัท อันตนฯ ทำรายงานถึงปลัดกระทรวงยุติธรรม พบความผิดปกติในคดีดังกล่าวถึง 5 ประเด็น รวมไปถึงประเด็นใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ จึงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าบริษัท อันตนฯ จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย

ล่าสุด กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ได้ส่งเรื่องไปให้นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีนี้ใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้คดีบริษัท อันตนฯ ยังอยู่ในชั้นการไต่สวนของคณะอนุกรรมการไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนอีกด้วย

6.คดีที่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ เข้ายื่นฟ้องนายธาริต กับพวกต่อศาลอาญา ในข้อหาแจ้งความเท็จ และปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณียื่นขอถอนประกันตัวชั่วคราว คดีร่วมกันอุ้มฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

โดยคดีนี้ ดีเอสไอ อ้างว่า พล.ต.ท.สมคิด ใช้อำนาจข่มขู่พยานคือ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากสำคัญ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (U.A.E.) ทำให้พยานรู้สึกหวาดกลัว ซึ่งไม่เป็นความจริง

ล่าสุด ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องนายธาริต เนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของนายธาริต เป็นการแถลงความคืบหน้าของคดี ทำไปตามอำนาจหน้าที่ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ แสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ ไม่ใช่การไส่ความต่อบุคคลที่สามให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทั้งหมดนี้คือเป็นเพียงตัวอย่างส่วนน้อยจากทั้งหมดรวมกว่า 30 คดี ของ “ธาริต” ที่ต้อง “แบก” รับไว้ ก่อนหน้าที่ ป.ป.ช. จะมีมติอายัดทรัพย์สินรวมกว่า 40 ล้านบาท

ซึ่งล่าสุด “ธาริต” ได้ขอเลื่อนการเข้าให้คำชี้แจงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ออกไปอีก 30 วัน ดังนั้นต้องรอดูว่า ป.ป.ช. จะอนุญาตหรือไม่ในวันที่ 21 เม.ย.นี้

หาก “ธาริต” เข้ามาชี้แจงแล้วไม่เคลียร์ตามที่ ป.ป.ช. ตรวจพบ ก็อาจจะถูกดำเนินคดีอาญา ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติทันที !