logo isranews

logo small 2

ย้อนข้อมูล"วีระวุฒิ-อดีตเลขาฯบุญทรง"จิ๊กซอว์สำคัญคดีทุจริตระบายข้าว?

เขียนวันที่
วันเสาร์ ที่ 06 กันยายน 2557 เวลา 10:00 น.
เขียนโดย
isranews

“..แม้แต่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่มีสถานะเป็นรมช.พาณิชย์ ยังไม่ได้เป็นกรรมการเรื่องการจำนำข้าวเลย แสดงว่า คนๆ นี้มีความสำคัญมาก มีอำนาจเหนือรัฐมนตรี คนๆนี้ คือ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ซึ่งเป็นตัวจริงเสียงจริงในกระทรวงพาณิชย์ มีความใกล้ชิดกับกลุ่มทุนด้านข้าว ซึ่งข้าราชการจะเสนออะไร ท่านรัฐมนตรีจะถามว่า คุณหมอทราบหรือยังทุกครั้ง..”

treeeeeeee6-9-14

 

พลันที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 5 ก.ย.57 ให้แจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีทุจริตระบายข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ไปจำนวนมาก รวมถึงนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ด้วย 

โดย ป.ป.ช. ระบุเหตุผลสำคัญประกอบการแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็นเพราะการไต่สวนคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก มีพยานหลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยง ไปถึงตัวของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ 

หลายคนอาจจะลืมเลือนกันไปแล้วว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรบ้าง?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลย้อนหลัง และนำมาไล่เลี่ยงให้สาธารณชนได้เห็นภาพดังนี้

ประการที่ 1

ในช่วงการบริหารงานกระทรวงพาณิชย์ ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.นพ. วีระวุฒิ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ คือ ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ ของนายภูมิ สาระผล และเมื่อนายบุญทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นรมว.พาณิชย์ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการ รมว.พาณิชย์

ทั้งนี้ ในการเข้ามาดำรงตำแหน่งอดีตผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ และเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ดังกล่าว พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ยังได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวจำนวนมาก 

ได้แก่ กรรมการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) 

นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวหลายชุด ดังนี้

-คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าว
-คณะอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าว
-คณะอนุกรรมการตรวจสอบ และติดตาม
-คณะอนุกรรมการตลาดซื้อขายล่วงหน้า

ประการที่ 2

ในช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ค.56 ที่รัฐสภา ในระหว่างการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2557 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดประเด็นใหม่ เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าว "ในส่วนการระบายข้าวในประเทศ"

ซึ่งเป็นข้อมูลต่อเนื่องจากปัญหาการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ตรวจพบข้อมูลสำคัญว่า ไม่ได้เป็นการซื้อข้าวแบบจีทูจีจริง ข้าวถูกนำมาเร่ขายในให้กับเอกชนในประเทศ โดยปรากฎชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนไปแล้ว

โดยข้อมูลปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการระบายข้าวในประเทศ ที่นำมาเปิดเผยครั้งนี้ นพ.วรงค์ ยังคงชูประเด็นหลัก เกี่ยวกับการนำข้าวในสต๊อกรัฐบาล มาขายต่อในราคาต่ำให้กับผู้ประกอบการในประเทศบางหลาย ก่อนนำไปขายต่อในราคาแพง  

พร้อมแสดงหลักฐานประกอบ 2 ส่วน คือ หลักฐานกรณีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ขายข้าวขาว 8 แสนกิโลกรัม ราคาตันละ 5,700 บาท ให้แก่โรงสีโชควรลักษณ์ รุ่งขึ้น วันที่ 22 ธันวาคม 2554 โรงสีโชควรลักษณ์นำขายข้าวไปขายต่อแก่โรงสีแห่งหนึ่งที่ จ.กำแพงเพชร ในราคาตันละ 12,000 บาท โดยใช้แฟกซ์โอนใบมอบอำนาจแค่ใบเดียวราคา 5 บาท แต่ฟันกำไรถึง 6,300 บาทต่อตัน และเป็นการขายก่อนที่จะได้ข้าวมาจากรัฐบาล

ก่อนจะย้ำว่า เหตุผลที่มีการขายข้าวให้โรงสีโชควรลักษณ์ ในราคาต่ำเช่นนี้ได้ เป็นเพราะเจ้าของโรงสีแห่งนี้ชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด “เสี่ยเปี๋ยง” ที่เป็นนายทุนผูกขาดการค้าขายรายใหญ่และมีความใกล้ชิดนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศ

และโชว์เอกสารสำคัญชิ้นที่สองตามมา คือ หนังสือสัญญา นาปรัง ไซโล อคส. 1/2555 ซึ่งเป็นสัญญาเช่าไซโลระบบควบคุมบรรยากาศเพื่อจัดเก็บรักษาข้าวสาร (โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555) ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกันระหว่าง พันตำรวจตรี ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ ผอ.อคส. "ผู้เช่า" กับนายเอนก ฉัตรไชยศิริ หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วน โรงสี โชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ “ผู้ให้เช่า”

ในหนังสือสัญญาดังกล่าว ระบุว่า ผู้เช่าตกลงเช่าและผู้ให้เช่าไซโล ระบบรวบคุมบรรยากาศของผู้ให้เช่นจำนวน 24 ถัง ปริมาณความจุรวมทั้งสิ้น 288,000 ตัน เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาข้าวสารที่สีแปรสภาพจากข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ที่ผู้เช่าสั่งให้โรงสีส่งมอบ

โดยปรากฏชื่อ เคทีบี ไซโล ตั้งอยู่เลขที่ 25/3 หมู่ที่ 3 ถนน บางมูลนาก-ตะพานหิน ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ในสัญญาดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงการข้าวว่า เคทีบี ไซโล เป็นไซโลของ เสี่ยเปี๋ยง ในอดีตใช้ชื่ออื่น ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นชื่อนี้

นพ.วรงค์ ชี้ประเด็นว่า เหตุผลที่มีการขายข้าวให้โรงสีโชควรลักษณ์ ในราคาต่ำ อาจเป็นเพราะเจ้าของโรงสีแห่งนี้ชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด “เสี่ยเปี๋ยง” ที่เป็นนายทุนผูกขาดการค้าขายรายใหญ่และมีความใกล้ชิดนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศ เสี่ยเปี๊ยกถึงสามารถซื้อข้าวจากรัฐบาลได้ต่ำและนำไปขายต่อทำกำไรได้จำนวนมาก 

“ ทุกคนทราบดีว่า นักธุรกิจขายข้าวอันดับ 1 ในประเทศไทยคือ “เสี่ยเปี๋ยง” และเป็นที่รู้กันว่า โรงสีเพรสซิเดนท์ซึ่งเป็นไซโลขนาดใหญ่ เก็บข้าวได้เป็นแสนตัน มี “เสี่ยเปี๋ยง”เป็นเจ้าของ แต่ถูกฟ้องล้มละลาย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น“เคทีบี” ที่ล่าสุดกลายเป็นคู่สัญญาการทำสัญญาเก็บข้าวเปลือก 288,000 ตัน กับรัฐบาล และผู้ที่ลงนามทำสัญญาของ เคทีบี คือ เจ้าของโรงสีที่ จ.ลพบุรี ชี้ให้เห็นว่า เป็นผู้ที่มีความผูกพันใกล้ชิดกับ “เสี่ยเปี๋ยง”มาก”

นพ.วรงค์ ยังระบุด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ พบว่า บุคคลที่เป็นจอมบงการผู้อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญในกระทรวงพาณิชย์ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ และมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการในโครงการจำนำข้าวทุกชุด และเมื่อมีการปรับ ครม.ให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรมว.พาณิชย์ บุคคลคนนี้ก็ยังมาเป็นเลขานุการรมว.พาณิชย์ และยังได้เป็นคณะกรรมการในนโยบายจำนำข้าวทุกชุดเหมือนเดิม

“แม้แต่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่มีสถานะเป็นรมช.พาณิชย์ ยังไม่ได้เป็นกรรมการเรื่องการจำนำข้าวเลย แสดงว่า คนๆ นี้มีความสำคัญมาก มีอำนาจเหนือรัฐมนตรี คนๆนี้ คือ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ซึ่งเป็นตัวจริงเสียงจริงในกระทรวงพาณิชย์ มีความใกล้ชิดกับกลุ่มทุนด้านข้าว ซึ่งข้าราชการจะเสนออะไร ท่านรัฐมนตรีจะถามว่า คุณหมอทราบหรือยังทุกครั้ง” นพ.วรงค์ กล่าว

นพ.วรงค์ กล่าวอ้างอีกว่า นอกจากนี้ยังมีตัวแทนอีกคน ใช้รถโฟลก์สวาเก้น ทะเบียน ฮธ 20 เข้าออกกระทรวงพาณิชย์ทุกวัน ซึ่งคนในกระทรวงกระซิบตนว่าเขามาทำงานตามปกติ เมื่อสืบค้นดูพบว่า เจ้าของรถคือ น.ส.ชุติมา วัชระพุกกะ ตอนแรกก็ไม่แปลกใจแต่ก็กังขาว่า เป็นคนเดียวกับนางชุฎิมา วัจนะพุกกะ ที่เป็นภรรยาของ นพ.วีระวุฒิหรือไม่

จากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนรถ พบว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์ รถคันนี้ เป็นของ บริษัท สยามอินดิก้า ก่อนจะโอนต่อมาให้บุคคลชื่อ “ชุฏิมา วัชรพุกกะ”

เมื่อตรวจสอบประวัติภรรยาของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ก็พบว่ามีการหย่าร้าง และภรรยาเปลี่ยนนามสกุลจาก “นางชุฏิมา วัจนะพุกกะ” เป็น “น.ส.ชุฏิมา วัชระพุกกะ” แสดงให้เห็นถึงการอำพรางว่าเป็นคนละคน?

(อ่านประกอบ : ฟังชัดๆ “หมอวรงค์” ปะทะ “เสี่ยเปี๊ยก” ทุจริตระบายข้าว ในปท. ใครจริง-เท็จ?)

ประการที่ 3 

เมื่อวันที่ 1มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่อยู่บ้านเลขที่ 23 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ 55/1 เขตประเวศ กรุงเทพ ซึ่งระบุว่าเป็นที่อยู่ของ “น.ส.ชุฏิมา วัชระพุกกะ” ในเอกสารทะเบียนการถือครองรถ VOLKSWAGEN สีดำหมายเลขทะเบียน ฮธ 20 ตามหลักฐานที่ นพ.วรงค์ นำมาเปิดเผย

พบว่า เป็นบ้านเดี่ยวหรูขนาดใหญ่ 2 ชั้น ในหมู่บ้าน กรองทอง พาวิลเลี่ยน ย่านเขตประเวศ หน้าหมู่บ้านมีเจ้าหน้าที่รปภ.ตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้านหน้าบ้าน มีป้ายแขวนระบุ “บ้านวัจนะพุกกะ” นามสกุล พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขานุการฯ รมว.พาณิชย์ (ในขณะนั้น)

เมื่อผู้สื่อข่าวกดกริ่งเรียกคนในบ้านอยู่พักหนึ่งมีเด็กผู้หญิงวัยรุ่นเปิดประตูบ้านออกมาพบ ผู้สื่อข่าวถามว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ น.ส.ชุฏิมา วัจนะพุกกะ ใช่หรือไม่ วัยรุ่นคนดังกล่าวระบุว่า “ใช่ แต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่ มีธุระอะไร”

ผู้สื่อข่าวได้แจ้งว่า ต้องการจะมาขอสัมภาษณ์ข้อมูลเกี่ยวกับ การรับโอนรถจากบริษัท สยามอินดิก้า

ก่อนจะถามต่อว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนพุกกะ อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยหรือไม่ หญิงวัยรุ่นระบุว่า “ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆได้” ก่อนจะขอตัวกลับเข้าบ้านไป

จากการสอบถามข้อมูลชาวบ้านในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของ น.ส.ชุฏิมา วัจนะพุกกะ มีสามี เป็นนายตำรวจใหญ่ และปัจจุบันก็พักอาศัยอยู่ด้วยกัน

(ดูรูปประกอบ)

001cade07

001cade06

(อ่านประกอบ : ดูชัดๆ “โฟล์คสวาเก้น”มัดสัมพันธ์ลึก เสี่ยเปี๋ยง - เมียเลขาฯรมว.พาณิชย์ ? , แกะเงื่อน คำให้การ เมียเลขาฯ รมว.พาณิชย์ ปม“โฟล์คสวาเก้น”จากบริษัทค้าข้าว?)

ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับ "บทบาท" ของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนพุกกะ ที่เพิ่งถูก ป.ป.ช. ลงมติแจ้งข้อกล่าวหาในคดีทุจริตระบายข้าวไปแล้ว 

ซึ่งยังไม่นับรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการระบายข้าวถุงจากสต๊อกข้าวของรัฐบาล ที่ล่าสุด ป.ป.ช.ได้มีมติให้ตั้งคณะอนุไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ กล่าวหาผู้บริหารระดับสูง อคส. และเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 16 ราย ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลตามโครงการรับจำนำข้าวปี 2554/2555 เพื่อบรรจุถุงจำหน่ายให้กับประชาชนเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพ หลังได้รับมอบผลสอบสวนของคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบ วุฒิสภา ที่มีพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี  เป็นประธาน 

และพบข้อเท็จจริงจำนวนมากว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนพุกกะ เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของในเรื่องนี้อีกเช่นกัน! 

(อ่านประกอบ : เอ็กซ์คลูซีฟ:แผนผังความเชื่อมโยงเครือข่ายระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์")

rice19-11-13