ก.ล.ต.ปรับปธ.ซีพีออลล์-รอง ปธ.ทรูฯ-พวก 4 ราย 33 ล.ใช้ข้อมูลวงในซื้อหุ้นแม็คโคร
ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับ 'ก่อศักดิ์' ปธ.กก.ซีพี ออลล์-'อธึก' รอง ปธ.กก.ทรูฯ พร้อม 'บิ๊กผู้บริหารซีพีออลล์' 4 ราย รวม 33 ล้าน เหตุใช้ข้อมูลวงในซื้อหุ้นแม็คโครปี’56 ทำราคาแพงขึ้น ผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งปรับ 1.นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการรบริหารบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) 2.นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหารบริษัทซีพี ออลล์ฯ 3.นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ซีพี ออลล์ฯ 4.นายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการและหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เป็นเงินรวม 33,339,500 บาท และเปรียบเทียบปรับ 5.นายสมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล และ 6.น.ส.อารียา อัศวานันท์ ซึ่งให้การช่วยเหลือสนับสนุน เป็นรายละ 333,333 บาท
กรณีนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บุคคลที่ 1-4 ได้ซื้อหุ้น MAKRO โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น MAKRO ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน โดยพบการซื้อหุ้นในบัญชีบุคคลดังกล่าวหรือผู้สนับสนุนระหว่างวันที่ 10 – 22 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) เจรจาตกลงจะซื้อหุ้น MAKRO ที่บริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) ถืออยู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 154,429,500 หุ้น หรือเท่ากับร้อยละ 64.35 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ที่ราคาหุ้นละ 787 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดในขณะนั้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นเหตุให้ CPALL ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น MAKRO ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นการทั่วไป (Tender Offer) ที่ราคาเดียวกัน
บุคคลที่ 1-4 อาศัยข้อมูลภายในซึ่งบางรายล่วงรู้จากการร่วมในคณะผู้บริหารของ CPALL ที่เข้าร่วมเจรจากับผู้ขายในธุรกรรมดังกล่าว และบางรายล่วงรู้เนื่องจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของ CPALL โดยพบการซื้อหุ้น MAKRO ในบัญชีของนายก่อศักดิ์ จำนวน 118,300 หุ้น และบัญชีของนายปิยะวัฒน์ จำนวน 5,000 หุ้น
ส่วนกรณีนายพิทยา พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายสมศักดิ์ซึ่งเป็นน้องชาย จำนวน 7,500 หุ้น และกรณีนายอธึก พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวอารียาซึ่งเป็นบุตรสาว จำนวน 6,000 หุ้น
การกระทำของนายก่อศักดิ์ นายพิทยา นายปิยะวัฒน์ และนายอธึก ซึ่งเป็นบุคคลวงในเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สำหรับการกระทำของนายสมศักดิ์ และนางสาวอารียา เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของนายพิทยาและนายอธึก เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายก่อศักดิ์ เป็นเงิน 30,228,000 บาท นายปิยะวัฒน์ เป็นเงิน 725,000 บาท นายพิทยา เป็นเงิน 979,500 บาท นายอธึก เป็นเงิน 1,407,000 บาท และเปรียบเทียบปรับนายสมศักดิ์ และนางสาวอารียา เป็นเงินรายละ 333,333 บาท
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายก่อศักดิ์ จาก cpthailand