ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบยก ครม.อภิสิทธิ์ ปมขายมันจีทูจีให้ บ.จีนมิชอบ

ครม.อภิสิทธิ์ สะดุ้ง! ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบยก ครม. ปมขายมันจีทูจีให้ บ.จีน ส่อเก๊ พบขายต่ำกว่าราคาตลาด บ.จีน ไม่ได้เป็นตัวแทนจริง มีการโอนสิทธิซื้อขายให้กับ บ.ไทย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 43 ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีซื้อขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) กับ China Marine Shipping Agency Lianyungang Co., Ltd

สำหรับกรณีนี้ คณะรัฐมนตรีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ถูกกล่าวหาทั้งหมด 32 ราย เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม นางพรทิวา นาคาศัย อดีต รมว.พาณิชย์ เป็นต้น

นอกจากนั้นจะเป็นคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง เช่น นายกนก คดีการ อดีตที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธ์ อดีตผู้ช่วย รมว.พลังงาน ขณะที่ข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ก็ถูกกล่าวหาด้วย เช่น นายมนัส สร้อยพลอย อดีตรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นต้น

สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคือ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2553 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง เสนอให้จำหน่ายแป้งมันสำปะหลังแบบจีทูจีให้ China Marine ที่ราคา ณ หน้าคลังสินค้า 10,660 บาท/ตัน จำนวน 1.4 แสนตัน ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2553 คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอข้อพิจารณาต่อนายอภิสิทธิ์ และนางพรทิวา เพื่อพิจารณาปรับราคาขายแป้งมันสำปะหลังเป็นราคาไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นบาท/ตัน ซึ่งหลังจากนั้นได้ปรับราคาขายเป็น 1.5 หมื่นบาท/ตัน

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2553 กรมการค้าต่างประเทศได้ทำสัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังกับ China Marine วงเงินตามสัญญาซื้อขาย 1,460,359,443 บาท ในราคากิโลกรัมละ 10.66 บาท ซึ่งเป็นการซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดและต่ำกว่าเกณฑ์ราคาพื้นฐานที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวไม่มีการมอบอำนาจจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน และวัตถุประสงค์ในใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบริษัทไม่ใช่การซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ดังนั้น China Marine จึงไม่ใช่ผู้แทนรัฐบาลจากต่างประเทศในการเจรจาและมิใช่ผู้ลงนามในสัญญาในนามของรัฐบาลจีนแต่อย่างใด

และก่อนที่ China Marine ได้ทำสัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังกับกรมการค้าต่างประเทศ China Marine ได้มีการทำสัญญาซื้อขายและโอนสิทธิในแป้งมันสำปะหลังให้แก่บริษัทซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายในไทย ซึ่งเป็นราคาเดียวกับที่กรมการค้าต่างประเทศได้ทำสัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังแบบจีทูจี กับ China Marine โดยได้ทำสัญญาที่กรมการค้าต่างประเทศ โดยมีนายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศอยู่ด้วย

ดังนั้นการทำสัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังดังกล่าว จึงไม่ใช่การซื้อขายแบบจีทูจี แต่เป็นการกระทำที่กล่าวอ้างการดำเนินการซื้อขายแบบจีทูจี เพื่อเข้าทำสัญญากับรัฐ โดยไม่ต้องมีการประมูล โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อนำแป้งมันสำปะหลังตามสัญญาให้แก่ผู้ประกอบกิจการมันสำปะหลังในประเทศไทย ไม่มีเจตนาที่จะซื้อแป้งมนสำปะหลังไปยังประเทศจีน และเงินที่ใช้ในการชำระค่าแป้งมันสำปะหลังตามสัญญาดังกล่าว ก็มิได้เป็นเงินที่นำมาจากประเทศจีน เท่ากับว่าการทำสัญญาซื้อขายแป้งมันสำปะหลังครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์และขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี

ล่าสุด คณะอนุกรรมการไต่สวนที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ และนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว

แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่สามารถส่งหนังสือให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาได้ 3 ราย คือ นายสาทิตย์ นายธีระ วงศ์สมุทร อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม และนายโอฬาร พิทักษ์ อดีตผู้แทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก chaoprayanews