“วิชา”โต้"บุญทรง"ยันบ.จีนไม่มาแจงจีทูจีเอง-จี้สนช.ถอดป้องชาติเจ๊งอีก
“วิชา” โต้ “บุญทรง” ปมไม่เชิญ 2 บริษัทจีนเข้าชี้แจง ป.ป.ช. ยันแจ้งคำสั่งตั้งอนุฯไต่สวน-แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว รวมถึงประสานกลางกับจีน แต่ไม่ยอมมา ยันไม่ได้ทำสำนวนขึ้นเอง พยานหลักฐานครบทุกอย่าง ขอ สนช. ถอดถอนป้องกันไม่ให้กลับมาสร้างความเสียหายให้ชาติได้อีก
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างแถลงปิดคดีถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทุจริตและมิชอบ ว่า การที่นายบุญทรงอ้างว่า ป.ป.ช. ไม่นำคำชี้แจงของบริษัทจีนสองแห่ง (GSSG, ไห่หนาน) ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวมาพิจารณา รวมถึงไม่พิจารณาหลักฐานตามที่ร้องขอนั้น เป็นเพียงข้อกล่าวอ้างลอย ๆ มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือ ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย เนื่องจากบริษัทซื้อข้าว ปรากฏในรายงานไต่สวนข้อเท็จจริง
นายวิชา กล่าวอีกว่า ต่อมาแม้ ป.ป.ช. จะได้แจ้งคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริง และให้บริษัทจีนทั้งสองแห่งได้ใช้สิทธิคัดค้านอนุกรรมการที่ทำหน้าที่ไต่สวนแล้ว ต่อมาได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อให้โอกาสบริษัทจีนทั้งสองแห่งได้เข้าชี้แจง รวมถึงได้ติดตามทวงถามผลของคดี โดยผ่านอัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะผู้ประสานงานกลาง ตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 ไปยังผู้ประสานงานกลางของจีนก็ตาม แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมิได้ปรากฏเลยว่า บริษัทจีนทั้งสองแห่ง จะยื่นหนังสือหรือเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. แต่อย่างใดทั้งสิ้น ส่วนพยานหลักฐานที่นายบุญทรง นายภูมิ และนายมนัสอ้างเพิ่มเติม หากไม่ใช่การประวิงคดี ป.ป.ช. ได้ทำการไต่สวนให้ และปรากฏข้อเท็จจริงของพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาก็อยู่ในรายงาน และสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว
“สำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ได้ปรากฏ ที่สามารถตรวจสอบดูได้ ป.ป.ช. ไม่เคยทำขึ้นเอง แต่ได้ทำขึ้นจากพยานหลักฐานที่ไต่สวนครบถ้วนทุกกระบวนการ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า บริษัทจีนทั้งสองแห่ง ไม่ได้รับมอบอำนาจทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี เงินที่นำมาชำระตามสัญญาก็ไม่ได้มาจากบริษัทจีนทั้งสองแห่ง แต่มาจากการเวียนเทียนให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ และข้าวไม่ได้มีการส่งออกแม้แต่น้อย จึงมีเหตุยุติได้ว่าสัญญาจีทูจีที่อ้างถึงนั้น เป็นสัญญาลวงโลก ลวงรัฐ และหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวด้วยว่า ดังนั้นการที่นายมนัส นายภูมิ และนายบุญทรง ได้อุปโลกน์บริษัทจีนทั้งสองแห่ง ทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจี เพื่อที่จะได้ขายในราคาต่ำหรือมิตรภาพ โดยไม่ต้องนำออกไปประมูลหรือแข่งขันราคา และนำข้าวตามสัญญานี้ออกไปเวียนเทียนขายแก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศนั้น จึงเป็นการตอกย้ำและซ้ำเติมความเสียหายแก่งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินภาษีอากร ที่เก็บจากพี่น้องประชาชน ให้ต้องเสียหายเป็นเท่าทวีคูณ นอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการรับจำนำข้าว อันเป็นมูลความผิดทางอาญา
“การไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. มีหลักฐานครบถ้วนชัดเจนเพียงพอที่รับฟังได้ว่า นายมนัส นายภูมิ และนายบุญทรง ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา และแม้บุคคลดังกล่าวนี้จะได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม ก็เป็นการสมควรที่สภาแห่งนี้ ซึ่งเป็นสภาที่ทรงเกียรติจะต้องลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 65 เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกกล่าวหาได้กลับมามีอำนาจหรือกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติอีก” นายวิชา กล่าว
อ่านประกอบ :
“บุญทรง”แจงสนช.ขายข้าวจีทูจีไม่เก๊! ลั่นสุจริต-บริษัทตัวแทนจากจีนจริง
“วิชา”ชำแหละจีทูจีเก๊ถอด“บุญทรง-พวก”ต่อสนช.-ยันไม่มีระบายข้าวจริง
มติ สนช.ไม่อนุญาต“มนัส”ขอหลักฐานเพิ่มสู้คดีจีทูจีเก๊-แถลงเปิด 23 เม.ย.
“วิชา”นำทีมป.ป.ช.แถลงเปิดคดีจีทูจีเก๊ต่อสนช.ถอดถอน“บุญทรง-ภูมิ-มนัส”
ป.ป.ช.ขีดเส้นต้น เม.ย.ส่งสำนวนจีทูจี“บุญทรง”เพิ่ม-ร้อยบริษัทโดนกราวรูด
อัยการยื่นฟ้อง"บุญทรง-พวก"คดีจีทูจีแล้ว โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต-ปรับ3.5หมื่นล.