จ่อฟันยกจ.อุบลฯ!สตง.ชี้ประกาศภัยพิบัติ"เก๊"ลามทุกอ. ไม่ใช่แค่ "เดชอุดม"
ไม่ใช่แค่ อ.เดชอุดม! สตง.ยันปัญหาประกาศภัยพิบัติ"เก๊" ลามทุก อำเภอ ในจ.อุบลราชธานี หลังสาวลึกพบพฤติการณ์คล้ายกันหมด เป้าหมายดึงงบส่วนผู้ว่าฯ มาใช้จัดซื้อยาฆ่าแมลงเอกชน ครั้งละ 50 ล้าน/ปี เตรียมขยายผลสอบจังหวัดอื่นต่อ
จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หลังได้รับแจ้งข้อมูลว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายอำเภอได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ และมีการเบิกจ่ายเงินเพื่อนำไปทำโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนจำนวนมาก แต่ในข้อเท็จจริงพื้นที่ของตนเอง มิได้ประสบปัญหาภัยพิบัติแต่อย่างใด
โดยอำเภอที่ สตง.สรุปผลการตรวจสอบไปแล้ว คือ อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีการตรวจสอบพบข้อมูลการใช้งบประมาณดำเนินโครงการหลายส่วน ที่ไม่ถูกต้อง มีบริษัทเอกชน เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ขณะที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติเห็นชอบให้มีการเรียกเงิน จำนวน 65 ล้านบาท ที่นำไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ของอำเภอเดชอุดมคืนกลับมา และมอบหมายให้ สตง. ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป นั้น
(อ่านประกอบ : สตง.พบหลักฐาน อ.เดชอุดม ประกาศภัยพิบัติ"เก๊" สั่งเรียกเงินคืน 65 ล้าน)
ล่าสุดแหล่งข่าวจาก สตง.ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในขั้นตอนการตรวจสอบกรณีนี้ สตง.ได้ขยายผลการตรวจสอบไปยังอำเภออื่น ในพื้นที่จ.อุบลราชธานีด้วย หลังจากพบว่า มีการดำเนินการในลักษณะเดียวกัน คือ มีการประกาศภัยพิบัติในพื้นที่ ทั้งที่ไม่ได้เกิดภัยพิบัติจริง โดยให้ทางอำเภอเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเปิดช่องให้มีการนำงบของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีอำนาจสั่งจ่ายงบฉุกเฉินในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติครั้งละ 50 ล้านบาท มาใช้ ปีหนึ่งตกประมาณ 2 ครั้ง
"สภาพปัญหาที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ คือ หลังมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ก็จะมีผู้มีอำนาจสั่งการให้อำเภอต่างๆ ทำโครงการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช มาแจกจ่ายให้กับเกษตรกร โดยอ้างว่าเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาเกิดขึ้นจริง"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ขณะที่ขั้นตอนการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช ก็จะมีบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้ามาร่วมขบวนการนำสินค้ามาเสนอขายให้กับอำเภอต่างๆ ด้วย
"ในเร็วๆ นี้ สตง.จะสรุปผลการตรวจสอบเป็นทางการ คาดว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีจำนวนมาก ทั้งในส่วนของราชการและเอกชน ขณะที่จำนวนอำเภอที่เกิดปัญหา ขณะนี้แทบจะพูดได้ว่าเป็นเหมือนกันหมดทุกอำเภอ ในเขตพื้นที่จ.อุบลราชนี และจะมีการนำข้อมูลส่วนนี้ ขยายผลต่อไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆด้วย " แหล่งข่าวระบุ