logo isranews

logo small 2

คณะทำงานร่วมฯสอบ 3 ปีชง อสส. ฟ้องอดีตผู้ว่าฯททท.รับสินบน 60 ล.

เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา 17:06 น.
เขียนโดย
isranews
หมวดหมู่

คณะทำงานร่วมฯรวบรวมพยานหลักฐานเฉียด 3 ปี เห็นชอบส่ง อสส. ฟ้องคดีชี้มูลผิด “จุฑามาศ” อดีตผู้ว่าการ ททท. ปมรับเงินชาวสหรัฐฯให้จัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ 60 ล้าน สอบเพิ่มร่ำรวยผิดปกติ เล็งริบเงินคืนสู่แผ่นดิน

PIC-nacc-12-11-57 8

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. แถลงถึงความคืบหน้าคดีทุจริตอดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรณีนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท. ในคดีรับเงินตอบแทนสองสามีภรยาชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยภายหลังชี้มูลความผิดและส่งสำนวนการไต่สวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) และฝ่าย อสส. ได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดี มีการตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่ายนั้น

โดยนายวิชัย กล่าวว่า ภายหลังตั้งคณะทำงานร่วมฯใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐาน 2 ปี 11 เดือน โดยเอกสารส่วนใหญ่ได้จากกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) โดยขณะนี้ได้เอกสารครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ซึ่งถือว่าแก้ข้อไม่สมบูรณ์ที่ อสส. แจ้งมาได้ครบถ้วนจนเป็นที่พอใจของของคณะทำงานร่วมฯ โดยจะเสนอให้ อสส. ส่งฟ้องคดีต่อไป ทั้งนี้สาเหตุที่ใช้ระยะเวลานานเพราะหลักฐานที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมากถึง 2,200 แผ่น และเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ โดยเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินที่นางจุฑามาศไปฝากในต่างประเทศ

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามูลค่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท กำลังดำเนินการเพื่อกลับคืนสู่ประเทศไทยในฐานะรัฐผู้เสียหายตามพันธกรณีสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางอาญา ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 นอกจากนี้ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีนางจุฑามาศร่ำรวยผิดปกติด้วยหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อร้องขอให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน

"คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้มีการวางแผนและกำหนดกรอบการไต่สวนเป็นที่เรียบร้อย และจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะทางเอฟบีไอต้องการที่จะส่งเงินจำนวนดังกล่าวให้กับประเทศไทย แต่เนื่องจากเป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น จึงต้องศึกษากฎหมายในประเทศก่อนว่าทำได้หรือไม่ แต่หากคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ชี้มูลว่า นางจุฑามาศร่ำรวยผิดปกติจริง จะสามารถริบเงินจำนวนดังกล่าวให้ตกเป็นของแผ่นดินได้เลย" นายวิชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนของคณะทำงานร่วมฯ มั่นใจหรือไม่ว่า อสส. จะฟ้องคดีนี้ นายวิชัย กล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะขณะนี้คณะทำงานทำเสร็จทุกอย่างแล้ว ทั้งข้อไม่สมบูรณ์ และการสอบพยานหลักฐานทุกประเด็นจนเป็นที่พอใจของคณะทำงานร่วมฯ ก็ขึ้นอยู่กับ อสส. ที่จะพิจารณาส่งฟ้องหรือไม่ หาก อสส. มีความเห็นไม่ส่งฟ้อง ป.ป.ช. จะพิจารณาว่าจะฟ้องเอง หรือจ้างทนายฟ้องแทน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ตัวนางจุฑามาศมาดำเนินคดี นายวิชัย กล่าวว่า มั่นใจ เพราะทางการก็ดูแลอยู่ไม่ได้ไปไหน ซึ่งหาก อสส.ส่งฟ้อง ก็ต้องเรียกนางจุฑามาสมารายงานตัว หากไม่มาศาลก็สามารถออกหมายจับได้