สตง.ชงระงับยกเลิกกิจการ 2 หจก.ขายยาฆ่าแมลง 48 ล้าน-ส่ง ป.ป.ง สอบซ้ำ
สตง.ชง ก.พาณิชย์ ระงับยกเลิกกิจการ 2 หจก. ขายยาฆ่าแมลง บึงกาฬ 48 ล้าน เตรียมส่ง ป.ป.ง สอบเส้นทางเงินซ้ำสาวตัวบงการใหญ่ แจ้งมหาดไทย เอาผิด“ขรก.”ยกจังหวัด
กรณีสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org ) ตรวจสอบพบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) นำทรัพย์เจริญ และ หจก.รับทรัพย์รุ่งเรือง ที่รับหน้าที่ขายสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ให้กับจังหวัดบึงกาฬ วงเงิน 48 ล้านบาท ตามโครงการจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีโรคระบาดด้านพืช จังหวัดบึงกาฬ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการทุจริต ได้แจ้งยกเลิกกิจการไปแล้วนั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจาก สตง. เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org ) ว่า ได้ประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ ให้ระงับการแจ้งยกเลิก หจก. ทั้งสองแห่งแล้ว และจะส่งผลการตรวจสอบคดดีนี้ ไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง) ตรวจสอบข้อมูลด้านการเงินของเอกชน ที่เข้าร่วมการประมูลงานโครงการฯ นี้ เพื่อดูว่าเงินถูกส่งต่อไปให้กับใครบ้าง และมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
“ สำหรับผู้เกี่ยวข้องในส่วนราชการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการ นี้ พบว่ามีจำนวนมาก ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง ปลัดอำเภอ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่เสมียน หลังพบหลักฐานการกระทำความผิดอย่างชัดเจน ซึ่งสตง.เตรียมส่งเรื่องให้ทางกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป ก่อนที่จะมีการขยายผลการสอบสวนไปยังจังหวัดอื่น ที่เอกชนกลุ่มนี้ เข้าไปรับงานจัดซื้อยาฆ่าแมลงด้วย ” แหล่งข่าวระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายละเอียดผลการสอบสวนโครงการจัดซื้อสารเคมีผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีโรคระบาดด้านพืช จังหวัดบึงกาฬ ที่ สตง. จัดส่งให้กระทรวงมหาดไทย พบว่า มีการระบุถึงการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงกับ ผู้ว่าราชการรายหนึ่งมีตัวย่อ ส. คณะกรรมการกำหนดราคากลาง เสมียนตราอำเภอและนายอำเภอ คณะกรรมการต่อรองราคา และนาย ป. ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายบริหารงานปกครอง อำเภอพรเจริญ กรณีการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ขาย มีสิทธิเข้าทำสัญญากับอำเภอทั้ง 8 อำเภอ มีผลให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ในการซื้อสารเคมีเบโนมิล 50 % wp สูงกว่าความเป็นจริง ทั้ง 8 อำเภอ เป็นเงิน 36,026,820 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการระบุถึงกรณีการกระทำหลักฐานเอกสารอันเป็นเท็จ ตั้งแต่การจัดทำราคากลาง การยื่นซองเสนอราคา การจัดทำหลักฐานการจัดซื้อ การลงนามสัญญา เห็นได้ชัดว่าล้วนเป็นความเท็จโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 อันทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
ขณะที่สัญญาที่จัดทำขึ้นจึงมีวัตถุประสงค์ต้องห้ามโดยชัดแจ้งตามกฎหมาย จึงน่าจะตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 จึงไม่ก่อสิทธิเรียกร้องใดขึ้นตามสัญญาดังกล่าว คู่สัญญาปราศจากข้อผูกพันในอันที่จะปฏิบัติตามสัญญาเสมือนหนึ่งว่าไม่มีสัญญาต่อกัน
สัญญาดังกล่าวจึงไม่อาจนำมาเป็นหลักฐานในการเบิกเงิน จำนวน 48,700,800 บาท จากทางราชการได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ข้อ 16 หน่วยงานผู้เบิกจะจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันได้เฉพาะที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้จ่ายได้ หรือตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังเท่านั้น และควรเรียกเงินคืนกับมาเป็นของแผ่นดิน
ส่วนเอกชนเห็นสมควร ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเรื่องการลงโทษผู้ทิ้งงานกับผู้ขายและผู้เสนอราคา กรณีเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทำการโดยไม่สุจริต
------------------
อ่านประกอบในเรื่อง สตง.บี้“เสี่ยอ้วน”กวาดงบฯซื้อสารเคมีปราบศัตรูพืชภาคอีสานพันล. http://www.isranews.org/ข่าว/57-2012-08-12-13-59-01/17560-สตง-บี้“เสี่ยอ้วน”กวาดงบฯซื้อสารเคมีปราบศัตรูพืชภาคอีสานพันล.html