- Home
- Thaireform
- หลากมิติ
- รายงานผลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2559 - 2560
รายงานผลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2559 - 2560
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบรายงานผลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) ปี 2559 และโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560
นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบรายงานผลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) ปี 2559 และโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. รายงานผลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2559
1.1 จำนวนผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 8,375,383 คน เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินโอน 7,715,359 คน และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินโอน 660,024 คน เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว ชื่อ-นามสกุลผิด มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อปี และไม่เป็นเกษตรกรที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ซึ่งหลังสิ้นสุดมาตรการมีผู้ได้รับเงินโอนทั้งสิ้น 7,525,363 คน และไม่ได้รับเงินโอนทั้งสิ้น 189,996 คน เนื่องจากไม่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ไม่มาติดต่อธนาคาร หรือบัญชีติดอายัด
1.2 ผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2559 ได้รับสวัสดิการช่วยเหลือจากภาครัฐ 2 มาตรการ เป็นจำนวน 7,525,363 คน คิดเป็นร้อยละ 97.5 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด หรือคิดเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 17,469 ล้านบาท
2. แนวทางการดำเนินโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2560
โครงการลงทะเบียนฯ มีวัตถุประสงค์ในการยกระดับประสิทธิภาพของการจัดสวัสดิการสังคม และการช่วยเหลือของภาครัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1) มีสัญชาติไทย
2) มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (โดยต้องเกิดก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2542)
3) ว่างงานหรือมีรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2559 ทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
4) ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
5) ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายหรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
(5.1) ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- บ้านหรือทาวเฮ้าส์ต้องมีพื้นที่ ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดิน
- เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่
- เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
(5.2) ที่ดิน กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
กรณีที่ใช้ประโยชน์จากที่ดิน
- เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่
- เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
2.2 กลไกการดำเนินการ
ประชาชนผู้สมัครใจสามารถลงทะเบียน ณ หน่วยงานผู้รับลงทะเบียน ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด (สังกัดกรมบัญชีกลาง) และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทุกเขต ในระหว่างวันที่ 3 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2560 โดยสามารถรับแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่หน่วยรับลงทะเบียนหรือดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th และอีเปย์เมนท์ www.epayment.go.th และผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้จากเว็บไซต์ www.epayment.go.th หรือที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ทั้งนี้ หลังจากคัดกรองผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว กระทรวงการคลังจะดำเนินการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีสิทธิ์ เพื่อสามารถนำไปใช้รับสวัสดิการตามที่ภาครัฐกำหนดต่อไป