- Home
- South
- สัมภาษณ์พิเศษ ศูนย์ข่าวภาคใต้
- ครม.ส่วนหน้า = คปต.ส่วนหน้า จ่อบรรจุยุทธศาสตร์ชาติใช้ทุกรัฐบาล
ครม.ส่วนหน้า = คปต.ส่วนหน้า จ่อบรรจุยุทธศาสตร์ชาติใช้ทุกรัฐบาล
"ครม.ส่วนหน้า" กลายเป็นประเด็นที่สอบถามกันพอสมควร หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เปรยขึ้นหลังเหตุคาร์บอมบ์ที่ปัตตานีเที่ยวล่าสุด
เรื่องนี้มีร่องรอยความคิดมานานแล้ว แต่ดูเหมือนมาตกผลึก ผลักดันกันจริงๆ จังๆ เมื่อสถานการณ์ชายแดนใต้หวนกลับมาวิกฤติอีกรอบ
จันทร์ที่ 29 ส.ค.59 พล.อ.ประวิตร เดินทางกลับจากเยือนมาเลเซีย และได้ขยายความประเด็นนี้อีกครั้งหลังถูกผู้สื่อข่าวซัก
“ต้องการให้พื้นที่มีความสงบ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้ง ครม.ส่วนหน้า เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และจะทำให้นายกฯสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น ในส่วนของ ศอ.บต. และ กอ.รมน.ก็ยังมีอยู่”
“ส่วนโครงสร้างของ ครม.ส่วนหน้า มีประมาณ 10 คน แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใครบ้าง แต่หลักๆ คือต้องไม่ใช่ข้าราชการประจำ และจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์การทำงานในพื้นที่”
“ทีมข่าวอิศรา” สอบถามเรื่องนี้ไปยัง ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง (พล.อ.ประวิตร) และได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีส่วนหน้า หรือ ครม.ส่วนหน้า เป็นแนวคิดที่ต้องการให้การบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ใช่เรื่องนโยบายใหญ่ๆ สามารถจบได้ในพื้นที่เลย เพราะที่ผ่านมายังมีปัญหาเรื่องผู้ตัดสินใจ
อย่างเช่น การทำงานร่วมกันระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งตามกฎหมายของสองหน่วยงานนี้มีสถานะเท่าๆ กัน แม้จะบูรณาการกันดีขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ดร.ปณิธาน อธิบายต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ตั้งกลไกพิเศษขึ้นมาดูแลปัญหาภาคใต้ ก็คือ คปต. คือ คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นประธานเอง ดูแลงาน 20 กระทรวง 55 หน่วยงานที่เกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ทั้งหมด ซึ่งก็สามารถบูรณาการทั้งแผนงานและงบประมาณได้เป็นอย่างดีในส่วนกลาง แต่ในระดับพื้นที่ยังมีปัญหา จึงมีแนวคิดตั้ง คปต.ส่วนหน้าขึ้นมา
ฉะนั้นการตั้ง ครม.ส่วนหน้า ก็คือ คปต.ส่วนหน้านั่นเอง โดยตัวบุคคลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่จะไม่ใช่ข้าราชการ ซึ่งล่าสุดรองนายกฯระบุแล้วว่ามีประมาณ 10 คน
ที่ผ่านมามีบางฝ่ายตั้งคำถามว่า การตั้ง คปต.ส่วนหน้า จะเหมือนกับในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยในขณะนั้น รับผิดชอบงานในพื้นที่แบบเต็มเวลาหรือไม่ ดร.ปณิธาน กล่าวว่า ก็มีส่วนคล้าย แต่ส่วนที่ไม่เหมือนคือ โมเดลของนายถาวร ยังต้องกลับไปขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี แต่โมเดล คปต.ส่วนหน้า จะให้จบในพื้นที่ทั้งหมด ยกเว้นเรื่องระดับนโบบายจริงๆ
“โมเดล คปต.ส่วนหน้า จะทำให้ถาวรกว่าสมัยของคุณถาวร ด้วยการใส่ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อที่ว่ารัฐบาลต่อไปเข้ามา จะได้มีกลไกทำงานต่อเนื่องไป” ดร.ปณิธาน ระบุ
เล็งเซ็นเอ็มโอยูสร้าง "รั้วชายแดน"
ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 29 ส.ค. พล.อ.ประวิตร เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย โดยสำนักข่าวนิวส์ สเตรท ไทม์ส ของมาเลเซีย รายงานอ้างคำพูดของ นายซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า พล.อ.ประวิตร รับปากระหว่างหารือทวิภาคีเรื่องความมั่นคงระหว่างสองประเทศ ที่เมืองปุตราจายาว่า ทางการไทยจะส่งตัวผู้ต้องสงสัยคดีค้ามนุษย์จำนวน 10 คนให้ทางการมาเลเซีย หลังมาเลเซียได้แจ้งชื่อผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้กับรัฐบาลไทยในการหารือที่กรุงเทพฯก่อนหน้านี้
ต่อมา พล.อ.ประวิตร เดินทางกลับถึงดอนเมือง และให้สัมภาษณ์ว่า ผลการหารือกับมาเลเซียเป็นไปด้วยดี มีการพูดคุยกันหลายเรื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของชายแดน โดยเน้นความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการสร้างรั้วชายแดนนั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่และ ยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ในวันที่ 9 ก.ย. นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเดินทางมาประเทศไทย และจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน หรือ MOU ทั้งเรื่องการคมนาคมและการพาณิชย์ รวมถึงการทำรั้วชายแดนเพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งประเทศมาเลเซียมีความเต็มใจที่จะช่วย เนื่องจากมาเลเซียเองไม่อยากให้มีคนสองสัญชาติเหมือนกัน แต่ในขณะนี้ยังขาดเครื่องมือในการตรวจสอบบางชนิด โดยเฉพาะเครื่องมือในการตรวจสอบใบหน้า หรือ ไบโอเมทริกซ์
นอกจากนั้น ยังได้ขอให้ทางมาเลเซียช่วยตรวจสอบเรื่องอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่พบในเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนของไทย ซึ่งทางมาเลเซียมีความเต็มใจในการช่วยเหลือ ขณะนี้รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ประสานงาน กัน ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ขอให้รอทางเจ้าหน้าที่ สำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะดำเนินการในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ไม่เลื่อนออกไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.ประวิตร ขณะหารือทวิภาคีกับ นายซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ขอบคุณ : ภาพจากทีมโฆษกกระทรวงกลาโหม