- Home
- South
- สัมภาษณ์พิเศษ ศูนย์ข่าวภาคใต้
- กระสุนซ้อมหรือจริง...โดนยิงจุดสำคัญก็ตาย!
กระสุนซ้อมหรือจริง...โดนยิงจุดสำคัญก็ตาย!
เหตุการณ์ยิงตัวเองของ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังมีการอ้างข้อมูลว่าเป็นการใช้กระสุนซ้อม และไม่ได้ตั้งใจยิงตัวเองให้ตายนั้น
"ทีมข่าวอิศรา" พูดคุยสอบถามเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและยุทโธปกรณ์รายหนึ่ง ได้ความว่า กระสุนปืนที่คนไทยทั่วไปชอบเรียกกันว่า "กระสุนซ้อม" จริงๆ ในต่างประเทศก็มองว่าเป็นกระสุนจริง กระสุนปกติเหมือนกัน
อยากอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า กระสุนปืนทั่วไปแบบได้กว้างๆ มี 4 แบบด้วยกัน คือ
1. กระสุนหัวรู หรือที่ชอบเรียกกันว่า "กระสุนหัวระเบิด"
2. กระสุนหัวตะกั่วเคลือบแข็ง
3. กระสุนหัวตะกั่วล้วน (คนไทยเรียกว่ากระสุนซ้อม)
4. กระสุนแบลงค์ ไม่มีหัวกระสุน มีแต่เสียง
"บอกเลยว่า 3 แบบแรก ถ้ายิงถูกร่างกาย จะทำให้ได้รับบาดเจ็บและมีโอกาสเสียชีวิตได้ทั้งนั้น มีเพียงแบบที่ 4 คือ กระสุนแบลงค์เท่านั้นที่หากนำมาจ่อยิงใส่ผิวกาย ความรุนแรงมากสุดก็แค่เป็นแผลตื้นๆ หรือแผลไหม้บนผิวหนัง เพราะมีเพียงดินปืนไม่มีหัวกระสุน จึงไม่สามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้"
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ กล่าวต่อว่า การทำงานของกระสุนปืน 3 แบบแรก หลังจากถูกยิงออกไปแล้ว หัวกระสุนจะเข้าสู่ร่างกายของคน จะทำให้เกิดโพรงบาดแผลจากแรงปะทะของกระสุน ส่วนเรื่องความรุนแรงของกระสุนแต่ละชนิดนั้น ก็มีความรุนแรงแตกต่างกันไป อย่างกระสุนหัวรู หรือหัวระเบิด ถ้ากระทบร่างกายจะเพิ่มให้เกิดโพรงบาดแผลใหญ่กว่ากระสุนแบบอื่น ส่วนหัวตะกั่วเคลือบแข็ง และหัวตะกั่วล้วน ก็ทำให้เกิดโพรงบาดแผลในร่างกายเช่นกัน แต่จะรุนแรงไม่เท่ากระสุนหัวรู นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อย่างน้ำหนักของหัวกระสุน และดินปืนในกระสุน ก็มีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงที่ต่างกัน
"ที่ผ่านมาพบว่าสถิติการยิงตัวตายที่เกิดขึ้น มีการใช้กระสุนหัวตะกั่วล้วน หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกว่า 'กระสุนซ้อม' มากที่สุด เพราะเป็นกระสุนที่ราคาถูกกว่ากระสุนแบบอื่นจากต้นทุนวัสดุที่ใช้ ทำให้ใช้กันอย่างแพร่หลาย และในการซ้อมยิงปืนจะใช้กระสุนแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เรียกกันติดปากว่า กระสุนซ้อม"
ส่วนการฆ่าตัวตายด้วยการเลือกยิงตามลำตัว จนทำให้ถูกมองว่าไม่ได้มีเจตนาให้ตัวเองตายนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทโธปกรณ์ บอกว่า เรื่องการฆ่าตัวตาย คนส่วนใหญ่จะเลือกยิงขมับหรือยิงกรอกปาก ขณะที่การยิงเข้าลำตัวเพื่อฆ่าตัวตายก็มีบ้าง แต่น้อยกว่า ถามว่าโอกาสเสียชีวิตต่างกันหรือไม่ ก็ต้องอธิบายตรงนี้ว่า จริงๆ แล้วการเสียชีวิตการจากถูกยิง ส่วนใหญ่กว่า 80 เปอร์เซนต์ที่ทางกองทัพสหรัฐอเมริกาเคยศึกษาและเก็บข้อมูลเอาไว้ เกิดจากการเสียเลือดมาก ฉะนั้นการยิงที่จุดไหนของร่างกายก็ตาม ถึงจะไม่ใช่ศีรษะหรือลำตัว แต่เป็นที่แขนหรือขา ก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน หากเสียเลือดเป็นเวลานาน แค่เสียเลือดเยอะภายใน 30 วินาทีก็ทำให้ตายได้เช่นกัน
สำหรับปืนที่ผู้พิพากษาคณากรใช้ยิงตัวเองนั้น เป็นปืน LAMA ขนาด 9 มม. ผลิตในประเทศสเปน เป็นปืนที่ค่อนข้างเก่ามากแล้ว
"ทีมข่าวอิศรา" ยังได้พูดคุยกับอดีตตำรวจที่เชี่ยวชาญงานนิติวิทยาศาสตร์ และมีความรอบรู้เรื่องอาวุธปืนจนเป็นที่ยอมรับ ได้ข้อสรุปคล้ายๆ กันว่า ปืนที่นายคณากรใช้ยิงตัวเองนั้น เป็นปืนพกสั้น ยี่ห้อ LAMA ขนาด 9 มม. เป็นปืนสัญชาติสเปน ส่วนกระสุนจะเป็นกระสุนจริงหรือกระสุนซ้อมนั้น เป็นความลับในสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่แม้จะใช้กระสุนซ้อม หากยิงโดนอวัยวะสำคัญก็เสียชีวิตได้เช่นกัน คงไม่เป็นไปอย่างที่บางคนออกมาให้ความเห็นว่า กระสุนซ้อมยิงหมายังไม่ตาย เพราะจริงๆ แล้วถ้าโดนจุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือคนก็ตายเหมือนกัน กรณียิงหมาไม่ตาย อาจจะยิงโดนหาง หมาจึงรอด
ส่วนวิถีกระสุน จากข้อมูลทางการแพทย์ที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแถลงว่าเป็นการยิงเข้าหน้าอก แสดงว่ากระสุนเบี่ยงลงล่าง และไม่โดนอวัยวะสำคัญ ทำให้รอดชีวิต ส่วนจะจงใจยิงให้ไม่ตายหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ แต่การยิงตัวเองโดยไม่หวังให้ถึงชีวิต เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นเคสสามีทะเลาะกับภรรยา แล้วยิงตังเองประชดภรรยา โดยเลือกยิงจุดไม่สำคัญ เพื่อให้ตนเองไม่เสียชีวิต
"ทีมขาวอิศรา" ส่งทีมข่าวไปที่ สภ.เมืองยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีผู้พิพากษายิงตัวเอง ได้รับการยืนยันจากตำรวจบนโรงพักว่า กระสุนที่นายคณากรใช้ยิงตัวเอง เป็นกระสุนจริง ไม่อย่างนั้นจะบาดเจ็บได้อย่างไร (แต่ตำรวจไม่ได้บอกว่าเป็นกระสุนหัวตะกั่วล้วน ที่เรียกว่ากระสุนซ้อมหรือไม่)
ขณะที่ นายแพทย์บรรยง เหล่าเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ระบุถึงผลตรวจบาดแผลของนายคณากรระหว่างเข้ารับการรักษาว่า มีรอยกระสุนที่ทรวงอกด้านซ้าย ทะลุไปที่แผ่นหลังด้านซ้าย ตรงทางเข้าก็คือบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ทางออกคือด้านหลังด้านซ้าย แพทย์ที่ตรวจดูคิดว่าจะโดนบริเวณชายปอดด้านซ้าย และบริเวณม้าม จึงมีการเอกซเรย์ทรวงอก พบว่าไม่มีรอยรั่วในช่องปอด จึงไม่น่าที่จะผ่าตัด แต่ให้อยู่ที่ห้อง ICU เพื่อที่จะได้ช่วยเรื่องการหยุดเลือด แล้วก็ให้ยา ส่วนกระสุนปืนเป็นกระสุนขนาด 9 มม โชดดีที่ไม่ถูกจุดอันตราย คือ ม้าม หรือไต แค่เฉียดๆ ส่วนผู้ยิงจงใจยิงหรือไม่ คงตอบไม่ได้
-----------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (ซ้ายบน) กระสุนหัวจีบ หรือกระสุนแบลงค์ (กลาง) กระสุนหัวตะกั่ว หรือกระสุนซ้อม (ขวาบน) กระสุนหัวตะกั่วเคลือบแข็ง (ล่าง) กระสุนหัวระเบิด
ขอบคุณ : ภาพจากอินเทอร์เน็ต นำมารวมภาพโดยกองบรรณาธิการ
อ่านประกอบ :
ผู้พิพากษาศาลยะลายิงตัวเองหน้าบัลลังก์ หลังยกฟ้องคดีความมั่นคง
เปิดสำนวนคดีชนวนเหตุผู้พิพากษายะลายิงตัวเอง
ชง ก.ต.สอบปมผู้พิพากษาศาลยะลายิงตัวเอง
คลี่ 4 ปมคำแถลง"ผู้พิพากษาคณากร" กับข้อสังเกตชนวนเหตุยิงตัวเอง
เตือนเลิกตรวจคำพิพากษาผลร้ายหนักกว่า - แฉยิงกระสุนซ้อมก็ตายได้