เปิดรายงานอีโอดี บึ้มสมิหลาโยงกลุ่มป่วนใต้
แม้เจ้าหน้าที่จะยังไม่สรุปอย่างเป็นทางการว่า เหตุระเบิด 2 จุด 2 ลูกบริเวณรูปปั้นนางเงือก และรูปปั้นหนูกับแมวที่ริมหาดสมิหลา อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา กับระเบิดที่พบเพิ่มอีก 3 ลูกแต่ยิงทำลายได้ทัน เป็นเหตุการณ์ทางความมั่นคง หรือเป็นฝีมือของแก๊งก่อกวนก็ตาม
แต่จากรายงานการตรวจที่เกิดเหตุเบื้องต้นของชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดของ ตชด. มีการรายงานผู้บังคับบัญชาว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
สอดคล้องกับรายงานการแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งปรากฏว่ามีทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดสงขลา
ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุดินระเบิดในกล่องเหล็กขนาดกว้าง 4 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว หนา 2 นิ้ว และยังพบชุดควบคุมการจุดระเบิดเป็นนาฬิกาข้อมือแบบดิจิทัล จึงเชื่อว่าเป็นระเบิดแบบตั้งเวลา มีฝากล่องพลาสติกตกอยู่ คาดว่าใช้ใส่ชุดควบคุมการจุดระเบิด โดยรูปแบบของวัตถุระเบิดเช่นนี้ คล้ายคลึงกับที่เคยเกิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
เสียงระเบิดที่ดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้หลายคนตื่นตระหนกว่า สถานการณ์ความรุนแรงกำลังขยายวงมาที่จังหวัดสงขลาแล้วหรือ แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังของทีมข่าวอิศราพบว่า อำเภอเมืองสงขลาเคยเป็นพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบมาก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2548 วันที่ 3 เมษายน เกิดระเบิดบริเวณลานจอดรถโรงแรมกรีนเวิลด์ พาเลซ ทำให้กระจกโรงแรมได้รับความเสียหาย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่อีกกว่า 10 คัน โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุระเบิดที่สนามบินหาดใหญ่ และห้างคาร์ฟูร์หาดใหญ่
จากนั้นในปี 2551 วันที่ 2 สิงหาคม เกิดระเบิดในเขตเทศบาลนครสงขลาอีก 5 จุด คือที่ร้านอาหารดอกเตอร์คูล (Dr.Cool) ริมถนนชลาทัศน์ ป้อมตำรวจริมถนนชลาทัศน์ และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น 3 จุด คือ สาขาถนนประท่า สาขาถนนรามวิถีหน้าโรงเรียนแจ้งวิทยา และสาขาถนนทะเลหลวง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ก็เกิดเหตุระเบิดที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น 2 จุดในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงมองว่ากลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในอำเภอหาดใหญ่ กับอำเภอเมืองสงขลา เป็นกลุ่มเดียวกันหรือมีความเชื่อมโยงกัน แต่เครือข่ายกลุ่มป่วนใต้ชุดนี้ถูกจับกุมไปเป็นจำนวนมาก ทำให้สถานการณ์ที่อำเภอเมืองสงขลาเงียบสงบมานานถึง 10 ปี ส่วนที่หาดใหญ่ก็ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นนานหลายปีแล้วเช่นกัน
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นริมหาดสมิหลา จึงเป็นสัญญาณเตือนไปถึงหาดใหญ่ เมืองท่องเที่ยวสำคัญที่สุดของภาคใต้ตอนล่าง และกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
อย่างไรก็ดี การที่รูปแบบของระเบิดที่คนร้ายใช้มีความคล้ายคลึงกับการสร้างสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่ได้หมายความว่าการลอบวางระเบิดจะเป็นฝีมือของขบวนการแบ่งแยกดินแดน หรือเป็นการส่งสัญญาณขยายพื้นที่ของผู้ก่อความไม่สงบ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่น่าจะเป็นสาเหตุได้ ขณะที่คนในขบวนการก่อความไม่สงบเองก็เคยถูกจ้างวานให้ก่อเหตุด้วยวัตถุประสงค์อื่น
โดยเหตุปัจจัยที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ครั้งนี้ได้ มีทั้งปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มการเมืองในพื้นที่, การทำลายบรรยากาศช่วงใกล้เลือกตั้ง, การดิสเครดิตรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช., การก่อเหตุเพื่อทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เพิ่งลงพื้นที่ชายแดนใต้ และมอบนโยบายอย่างมีนัยสำคัญให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ 8 เมืองเศรษฐกิจ ซึ่งมีอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมอยู่ด้วย
นอกจากนั้นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยังใกล้เคียงกับวาระครบรอบ 15 ปีเหตุการณ์ปล้นปืน 413 กระบอกจากค่ายทหารใน อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ด้วย
นี่คืออีกครั้งที่ผู้ไม่หวังดี ไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็ตาม เลือกจังหวะเวลาก่อเหตุที่สามารถสร้างความสับสนให้กับเจ้าหน้าที่ได้อย่างแยบยล
-------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รูปปั้นนางเงือกริมหาดสมิหลา โดนระเบิดจนได้รับความเสียหาย
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ