หนุน-ค้านอัยการศึก...เกมลึกวัดพลังที่ชายแดนใต้
แม้ช่วงสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือน ก.ย.61 เหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ ที่ชายแดนใต้จะเริ่มลดความถี่ลง แต่กลับมีความขัดแย้งใหม่เกิดขึ้น และกลายเป็นเกมประลองกำลังกันของกลุ่มจัดตั้งบางกลุ่มที่มีจุดยืนคนละฝั่ง
ปัญหานี้เริ่มคุกรุ่นมาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. เมื่อ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นำทีมแถลงใช้ "มาตรการพิเศษ" โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก เข้าควบคุมพื้นที่ ต.ท่ากำชำ กับ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ซุ่มยิงทหารพรานจนเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา
มาตรการพิเศษก็คือ การส่งกำลังนับพันนาย ตรึงพื้นที่ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 จนถึง 23 ก.ย. รวมเวลา 7 วัน ซึ่งก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุซุ่มยิงทหารพรานได้เกือบ 10 ราย และเรียกตรวจรถ เรือ หรือยานพาหนะอื่นๆ ของชาวบ้าน เพื่อป้องกันการนำไปใช้เป็นพาหนะพาคนร้ายหลบหนี หรือกบดาน
ปัญหามาเริ่มเกิด เมื่อมีครอบครัวของผู้ที่ถูกจับกุมเข้าร้องเรียนกับศูนย์ประสานงานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ ม.อ.ปัตตานี (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี) ว่าถูกฝ่ายทหารละเมิดสิทธิ์ จับกุมโดยไม่มีหมายจับ และไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ความเคลื่อนไหวนี้ถูกตอบโต้จากแม่ทัพภาคที่ 4 ว่าเป็นเพียงมุขเก่าๆ ที่บางฝ่ายชอบนำมาใช้ พร้อมยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ราวๆ 8-9 คนนั้น มี 4 คนยอมรับสารภาพแล้ว
ต่อมาวันที่ 20 ก.ย. สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ "เปอร์มัส" ได้ลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้าน 2 ตำบลใน อ.หนองจิก ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษ พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ฝ่ายทหารยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยการลงพื้นที่มีนักศึกษาจาก ม.อ.ปัตตานี และนักศึกษาจากสถาบันอื่นร่วมคณะไปด้วย
หลังการเคลื่อนไหวของฝั่งนักศึกษา ทำให้มีคนบางกลุ่มในพื้นที่ไม่พอใจ วันจันทร์ที่ 24 ก.ย. "กลุ่มคนไทยพื้นที่รักสันติ" (ทพส.) ได้รวมตัวกันไปที่ ม.อ.ปัตตานี พร้อมถือป้ายประท้วง มีเนื้อหาตำหนิมหาวิทยาลัยและอาจารย์บางคนอย่างรุนแรงที่ปล่อยให้กลุ่มเปอร์มัส และนักศึกษา ม.อ.บางส่วนออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ทั้งๆ ที่พวกตนต้องการให้คงกฎอัยการศึกไว้เพื่อความปลอดภัย และใช้มาตรการพิเศษต่อไปจนกว่าจะจับกุมคนร้ายได้
การเคลื่อนไหวของ "กลุ่มคนไทยพื้นที่รักสันติ" ทำให้ทาง ม.อ.ปัตตานี ต้องออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับกลุ่มเปอร์มัสก็ได้ออกแถลงการณ์ปกป้องอาจารย์ ม.อ.ปัตตานี ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ท้ายนักศึกษาด้วย
พุธที่ 26 ก.ย. นายสมนึก ระฆัง ทนายความ และประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อคุ้มครองส่งเสริมพระพุทธศาสนา พร้อมสมาชิกในเครือข่าย ได้เดินทางไปที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจเป็น "คนกลาง" เรียกตัวแทน ม.อ.ปัตตานี และนักศึกษาเปอร์มัสมาเจรจาไกล่เกลี่ย หลังออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึก ซึ่งสวนทางกับพวกตนที่สนับสนุนให้มีการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ต่อไป
ก่อนที่กลุ่มของนายสมนึกจะเดินทางไปที่โรงพัก ได้มีคนแจ้งข่าวไปยังสื่อมวลชนให้ไปช่วยทำข่าวนี้ เพราะจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับนักศึกษากลุ่มเปอร์มัส แต่เมื่อนักข่าวไปถึง กลับมีสมาชิกในเครือข่ายบางคนแสดงความไม่พอใจนักข่าวบางรายที่ไปทำข่าว และขู่จะแจ้งจับผู้สื่อข่าว อ้างว่าไปทำข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้นักข่าวหลายคนต้องถอนตัวจากโรงพัก
นี่คือเรื่องวุ่นๆ จากชายแดนใต้อันสืบเนื่องจากความเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ โดยเฉพาะกฎอัยการศึก ซึ่งบางกลุ่มอยากให้ยกเลิก แต่บางกลุ่มก็อยากให้คงไว้ต่อไปเพื่อความปลอดภัย
แต่เสียงวิจารณ์จากหลายๆ ฝ่ายที่ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว ตลอดจนชาวบ้านทั่วๆ ไปกลับมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการวัดพลังของกลุ่มมวลชนที่มีจุดยืนแตกต่างกันในพื้นที่ เพราะฝั่งที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ก็เคยแสดงท่าทีสนับสนุนเรื่อง "สิทธิ์การกำหนดใจตนเอง" หรือ Right to self determination จึงถูกมองอย่างไม่ไว้ใจจากฝ่ายความมั่นคงและคนในพื้นที่บางกลุ่มว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน หรือมีการปกครองรูปแบบใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น เขตปกครองพิเศษ
ส่วนฝั่งที่ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนกฎอัยการศึก ก็มีกระแสในโซเชียลมีเดียตรวจสอบประวัติคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็พบว่าหลายคนทำงานใกล้ชิดกับทหารและฝ่ายความมั่นคง แถมยังอาจมีประเด็นการเมืองสอดแทรกอยู่เบื้องหลัง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ควบคุมพิเศษ ทั้ง ต.ท่ากำชำ และ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของ "ทีมข่าวอิศรา" ก็พบว่าส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ และให้ความร่วมมือกับทางราชการในการส่งตรวจรถ เรือ ตลอดจนอาวุธปืนที่อยู่ในความครอบครอง
จนถึงวันนี้ ปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคงในการควบคุมพื้นที่ อ.หนองจิก โดยใช้กฎหมายพิเศษได้ยุติลงแล้ว แต่ดูเหมือนเกมประลองกำลังจะยังไม่จบลง
--------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนไทยพื้นที่รักสันติ
2 แถลงการณ์ของเปอร์มัรส
อ่านประกอบ :
อัยการศึกคุมพื้นที่หนองจิกพ่นพิษ ชาวบ้านร้อง จนท.กวาดจับไม่ตั้งข้อหา