2 ชีวิตที่สูญไป เด็กหญิงที่รอดตาย...กับวิสามัญฯปริศนาที่รือเสาะ
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่อ้างว่ายิงปะทะ และวิสามัญฆาตกรรม 2 ผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันพุธที่ 29 มี.ค.60 กลายเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคือต้นตอของปฏิบัติการตอบโต้จากกลุ่มติดอาวุธในวันรุ่งขึ้น (30 มี.ค.) ที่ไปกราดยิงตำรวจที่หน้าโรงพักระแงะ จ.นราธิวาส จนมีตำรวจต้องสังเวยชีวิต 1 นายและบาดเจ็บอีก 4 นาย
เหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรม 2 ผู้ต้องสงสัย มีความสำคัญมากขึ้นไปอีก เมื่อเจ้าหน้าที่อ้างว่าผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายอิสมาแอ หามะ อายุ 28 ปี และ นายอาเซ็ง อูเซ็ง อายุ 30 ปี เกี่ยวพันกับเหตุการณ์สังหารโหด 4 ศพครอบครัวทองจันทร์ จากกรณีกราดยิงรถ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 มี.ค.60 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นถูกทุกฝ่ายประณามในความโหดเหี้ยม เพราะ 1 ใน 4 ศพที่เสียชีวิต มีลูกชายวัย 8 ขวบของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวมอยู่ด้วย และในรถก็ยังมีเด็กอีกหลายคน เนื่องจากกำลังขับรถไปส่งเด็กๆ ที่โรงเรียน
ทั้ง นายอิสมาแอ หามะ และ นายอาเซ็ง อูเซ็ง มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.รือเสาะ ทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม ขณะขับรถอยู่บนถนนใน ต.โคกสะตอ รอยต่อระหว่างบ้านไอร์จือนะห์ หมู่ 5 กับบ้านธรรมเจริญ หมู่ 6
แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นมีเงื่อนงำ และกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการยิงปะทะ จนต้องมีการวิสามัญฆาตกรรม และหลังเกิดเหตุยังพบอาวุธปืน เอ็ม 4 กับอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ของผู้ตายทั้งสองด้วย แต่กลับมีข่าวจากในพื้นที่ระบุว่าไม่มีการยิงปะทะ หนำซ้ำในรถที่ทั้งสองขับมา ยังมีเด็กหญิงวัย 15 ปี น้องสาวของหนึ่งในผู้ตาย นั่งอยู่ในรถด้วย แต่ไม่ได้รับอันตราย
ข้อมูลตำรวจ: พยายามหลบหนี-ยิงสู้จึงต้องยิง
ข่าวจากเจ้าหน้าที่อ้างว่า นายอิสมาแอ มีบาดแผลถูกกระสุนปืนบริเวณลำตัวและหน้าอก ข้างศพพบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก ขณะที่ นายอาเซ็ง มีบาดแผลถูกกระสุนปืนบริเวณลำตัว แผ่นหลัง และชายโครง ข้างศพพบอาวุธปืนเอ็ม 4 ตกอยู่ 1 กระบอก ห่างจากจุดพบศพประมาณ 50 เมตร พบรถกระบะของผู้ตาย ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ริมถนนในลักษณะประตูด้านคนขับและฝั่งตรงข้ามเปิดค้างอยู่
ข่าวจากเจ้าหน้าที่ยังระบุอีกว่า นายอาเซ็ง มีหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ อาญา) จำนวน 3 หมาย และมีส่วนเกี่ยวข้องในคดียิงรถผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 4 ศพตระกูลทองจันทร์เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ขณะที่ นายอิสมาแอ ยังไม่พบประวัติทางคดี แต่ก็เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียิงรถผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเช่นกัน
ข่าวที่เสนอทางสื่อกระแสหลัก อ้างคำสัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุชุดปฏิบัติการข่าวทหาร และเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมบุคคลตามเป้าหมายที่ก่อเหตุยิงครอบครัวทองจันทร์ (ยิง 4 ศพ) โดยได้แยกกำลังกันในการสะกดรอย นายอิสมาแอ และนายอาเซ็ง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ยะลา จนกระทั่งใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ขับรถกระบะแซงขึ้นหน้า 1 คัน และขับไล่หลัง 1 คัน เมื่อสบโอกาส เจ้าหน้าที่ที่ขับรถกระบะคันหน้าได้ขับทิ้งระยะรถของคนร้าย จากนั้นได้จอดรถริมถนนและแสดงตัวให้สัญญาณเพื่อขอตรวจค้น แต่ นายอาเซ็ง ได้พยายามเร่งเครื่องหลบหนี ส่วน นายอิสมาแอ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่ นายอาเซ็งจึงตัดสินใจจอดรถริมถนน แล้วเปิดประตูรถเพื่อวิ่งหาที่กำบังในการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่พลาดท่าถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตทั้ง 2 คน
ข้อมูลโซเชียลฯ: ไม่ใช่ยิงปะทะ-เด็กหญิงรอดชีวิต
คืนหลังเกิดเหตุ มีกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าหากมีการยิงปะทะกันจริง รูปแบบการปะทะเป็นอย่างไร พร้อมอ้างข้อมูลว่ารถของนายอิสมาแอ และนายอาเซ็ง ไม่มีรอยกระสุน ทั้งยังอ้างว่าคนในรถมี 3 คน นอกจากผู้เสียชีวิต 2 คนแล้ว ยังมีน้องสาวนายอิสมาแอ ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.4 รวมอยู่ด้วย และเหตุใดเธอจึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ จากการปะทะเลย ขณะที่ผู้ตายทั้ง 2 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ดักหน้าดักหลังด้วยกำลังคนที่มากกว่า เหตุใดจึงตัดสินใจยิงต่อสู้ ทั้งๆ ที่รู้่อยู่แล้วว่าสู้ไม่ได้
ข้อมูลทหาร: ปฏิบัติตามขั้นตอน-ไม่เกินกว่าเหตุ
วันรุ่งขึ้น คือวันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้แถลงชี้แจงเหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรมที่เกิดขึ้น โดยระบุตอนหนึ่งเกี่ยวกับรายละเอียดของเหตุการณ์ว่า เจ้าหน้าที่กำลังร่วม 3 ฝ่ายได้ตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และได้เรียกตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านเส้นทางดังกล่าว
กระทั่งเวลา 13.30 น. ได้เรียกตรวจรถยนต์ของบุคคลต้องสงสัย ซึ่งรถคันดังกล่าวได้วิ่งฝ่าด่าน พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ แล้วเกิดยิงปะทะกัน จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งก็คือนายอาเซ็ง กับนายอิสมาแอ พร้อมยึดปืนเอ็ม 4 กับปืนพกขนาด 9 มม.ได้อย่างละ 1 กระบอก
สำหรับอาวุธปืนเอ็ม 4 ตรวจสอบประวัติแล้วพบว่าคนร้ายยึดมาจากเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อปี 56 ส่วนอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยึดมาจากเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู อ.รามัน ขณะทำพิธีละหมาด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.56 นอกจากนั้น นายอาเซ็ง ยังมีหมายจับ 3 คดีซึ่งล้วนเป็นคดีความมั่นคงทั้งก่อการร้าย และฆ่าเจ้าพนักงาน โดยทั้งคู่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ยิงถล่มรถผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตระกูลทองจันทร์ด้วย
พ.อ.ยุทธนาม กล่าวอีกว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย โดยเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เจ้าหน้าที่ได้กระทำการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยได้เรียกให้ผู้ต้องสงสัยจอดรถเพื่อตรวจสอบ แต่คนร้ายกลับฝ่าด่าน และใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จนเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว
ไร้คำชี้แจงเรื่องเด็กหญิงในรถ
จะเห็นได้ว่าคำแถลงของรองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. รวมทั้งข้อมูลข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ ไม่มีการพูดถึงเด็กหญิงที่มีข้อมูลจากโซเชียลมีเดียอ้างว่าอยู่ในรถขณะเกิดเหตุเลย
"ทีมข่าวฯ" ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.อ.ยุทธนาม ได้รับคำชี้แจงว่า "ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้"
เปิดเอกสารฝ่ายความมั่นคง: มีเด็กผู้หญิงอยู่ในรถ
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบของ "ทีมข่าวฯ" พบว่า ในเอกสารสรุปสถานการณ์ประจำวัน จัดทำโดยงานการข่าว ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) ของวันพุธที่ 29 มี.ค.60 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค.60 ได้รายงานรายละเอียดของเหตุการณ์นี้ ซึ่งแตกต่างจากการให้ข่าวของตำรวจท้องที่ และการแถลงของรองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.ในหลายประเด็น
สาระสำคัญในเอกสาร ระบุว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายอาเซ็ง อูเซ็ง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และ ต.กาพอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้นำกำลังเข้าไปในพื้นที่เป้าหมาย บ้านตะบิงรูโต๊ะ หมู่ 8 ต.โคกสะตอ ระหว่างทางเมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต แบบตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน ถอ 2663 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยขับผ่านมา จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ คนร้ายที่ขับรถมาได้จอดรถและได้ลงจากรถ จะเข้าทำการตรวจค้นโดยละเอียด
ต่อมาคนร้ายได้ใช้อาวุุธปืนที่ซุกซ่อนยิงใส่เจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ได้ยิงตอบโต้ เป็นเหตุให้ นายอาเซ็ง และนายอิสมาแอ ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่เสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า นายอิสมาแอ เป็นคนขับ โดยมีนายอาเซ็ง และเด็กหญิงอายุ 15 ปี (ในเอกสารระบุชื่อจริงและนามสกุล) นั่งมาด้วยกัน แต่เด็กหญิงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับข้อมูลส่วนอื่นๆ ในเอกสาร เป็นการบรรยายถึงอาวุธปืนที่ยึดได้ และประวัติของผู้ตายทั้งสองคน พร้อมสรุปข้อสันนิษฐานในตอนท้ายว่า กลุ่มคนร้ายได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรง
เสียงกระซิบจากในพื้นที่...
ด้วยความที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลากลางวัน บนถนน ซึ่งแม้จะเป็นถนนสายรอง แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้พบเห็น จึงมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งออกมามากพอสมควร สรุปได้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีการยิงปะทะ ข้อมูลบางกระแสถึงกับระบุว่าผู้ตายไม่มีอาวุธด้วยซ้ำ
น้ำหนักเรื่องการปะทะดูจะลดน้อยลง เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วมีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ในรถด้วย หากเจ้าหน้าที่อ้างว่าติดตามเป้าหมายทั้ง 2 คนในฐานะผู้ต้องสงสัยมาจริง เหตุใดจึงตัดสินใจยิงต่อสู้กันทั้งๆ ที่มีเด็กอยู่ในรถ
เด็กหญิงวัย 15 ปีคนนี้มีข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวออกจากจุดเกิดเหตุ และภายหลังได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน
การวิสามัญฆาตกรรมที่เจ้าหน้าที่อ้างว่ามีการยิงปะทะครั้งนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามอย่างกว้างขวางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งที่หลายคนเชื่อว่าไม่มีการยิงปะทะกันจริงตามที่อ้าง นอกจากข้อมูลที่ขัดแย้งกันเองของเจ้าหน้าที่แล้ว ยังเป็นเพราะช่วงหลังเกิดเหตุยิง 4 ศพตระกูลทองจันทร์เมื่อต้นเดือน มี.ค. ซึ่งมีเด็กชายวัย 8 ขวบต้องสังเวยชีวิตด้วยนั้น มีการสร้างกระแสจากบางฝ่ายให้ "จับตาย" ผู้ก่อเหตุ
หลังจากนี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบทั้งตำรวจ ทหาร และกอ.รมน.ว่าจะชี้แจงให้กระจ่างแจ้งได้อย่างไร!
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เอกสารสรุปสถานการณ์ประจำวัน ซึ่งระบุชัดเจนว่ามีเด็กผู้หญิงอยู่ในรถด้วย (แถบสีดำปิดชื่อ)
2 สภาพที่เกิดเหตุหลังเกิดเรื่อง
อ่านประกอบ :