- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- "ลูกชายดูนเลาะ"รับไม่ได้ หลังศาลแพ่งสั่งริบที่ดิน"ปอเนาะญิฮาด"อ้างโยงก่อการร้าย
"ลูกชายดูนเลาะ"รับไม่ได้ หลังศาลแพ่งสั่งริบที่ดิน"ปอเนาะญิฮาด"อ้างโยงก่อการร้าย
ลูกชายดูนเลาะ แวมะนอ เผยความรู้สึก "รับไม่ได้" หลังถูกศาลแพ่งมีคำสั่งริบที่ดิน 14 ไร่ ที่ตั้งโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยให้เหตุผลเป็นแหล่งฝึกนักรบบีอาร์เอ็น เจ้าตัวยันบิดาไม่ได้มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดิน ครวญหากถูกยึดจริงยังไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน เพราะที่นี่คือบ้านเกิด
เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ฟ.26/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส.3 ) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาท อันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้าย
สำหรับหนังสือรับรองการทำประโยชน์บนที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา เป็นของ นายดูนเลาะ แวมะนอ อดีตครูใหญ่ของโรงเรียนกับพวก
ทั้งนี้มี นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของนายดูนเลาะ, นางปารีเดาะ เจะมะ, นางหามีย๊ะ สาแลหมัน, นายอาดือนัน เจะอาแซ และนายอับดุลเลาะ เจะอาแซ มีชื่อร่วมในกรรมสิทธิ์ น.ส.3 เป็นผู้คัดค้านที่ 1-5 โดยผู้คัดค้านทั้ง 5 คนอ้างว่าได้รับที่ดินผืนนี้จากบิดามาเป็นมรดกตกทอด และผู้คัดค้านทั้ง 5 คนประกอบอาชีพสุจริต ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือมีความผิดเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ และผู้คัดค้านไม่ได้ใช้ที่ดินสนับสนุนเกี่ยวกับการกระทำก่อการร้าย ไม่มีการสะสมกำลังพลหรือการฝึก
ขณะที่คำร้องของอัยการ ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้ 2 คน ซึ่งให้การยอมรับว่าเป็นสมาชิกหน่วยคอมมานโดของกลุ่มบีอาร์เอ็น ถูกส่งตัวฝึกหลักสูตรคอมมานโดและชุดรบขนาดเล็ก หรืออาร์เคเค ที่โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" โดยมี นายอิสมาแอ หรือจิแอ มะเซ็ง เป็นผู้ควบคุมการฝึก และนายดูนเลาะ แว มะนอ หรือ เป๊าะซูเลาะ เป็นครูใหญ่ของของโรงเรียน
พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาก่อเหตุความไม่สงบช่วงวันที่ 4 มกราคม 2547 ต่อเนื่องถึงวันที่ 4 มกราคม 2551 รวม 36 คน และอัยการจังหวัดปัตตานีได้สั่งฟ้อง นายดูนเลาะกับพวกรวม 36 คน และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดปัตตานี นอกจากนั้น นายดูนเลาะและพวกรวม 11 คนยังถูกดำเนินคดีฐานเป็บกบฏ อั้งยี่ จากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2549 ใน จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอด้วย
พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมของนายดูนเลาะกับพวกแล้ว จึงมีมติว่า ที่ดินตาม น.ส.3 เป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนเกี่ยวกับการกระทำก่อการร้าย ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญํติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 3(8) จึงให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่งเรื่องให้อัยการผู้ร้อง ดำเนินการยื่นคำร้องตามขั้นตอนกฎหมาย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้อง รับฟังได้ว่า ที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา เกี่ยวกับการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ จึงมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ตามคำร้องอัยการ
สำหรับคดีนี้ คู่ความยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตามกฎหมายภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง
ลูกชายรับไม่ได้-ครวญยังไม่รู้จะย้ายไปอยู่ไหน
นายบัลยาน แวมะนอ ลูกชายคนที่สามของนายดูนเลาะ กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ในความรู้สึกลึกๆ ยังรับไม่ค่อยได้กับคำสั่งศาล เพราะที่ดินผืนนี้เป็นบ้านเกิด แต่ในทางกฎหมายก็ต้องยอมรับ แม้ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดในการยึดที่ดินว่าเป็นความผิดตามเหตุผลใด เบื้องต้นได้ไปคุยกับศูนย์ทนายความมุสลิม ได้รับคำแนะนำว่าต้องรอฟังผลคำพิพากษาที่เป็นเอกสารอีกประมาณ 15-20 วัน
"บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่ในที่ดินผืนนี้ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ปลูกพริก กำลังเตรียมพื้นที่ลงต้นกล้าพริก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ต้องย้ายกันทั้งครอบครัว ผมมีลูกอีก 2 คน และครอบครัวคนอื่นอีก ตอนนี้คิดมาก คิดเต็มหัวว่าจะย้ายไปไหน เพราะไม่มีที่ดินแล้ว ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาชาวบ้านก็มาเยี่ยมกันเมื่อทราบข่าวถูกยึดที่ดิน ทุกคนงงกันไปหมดว่าเพราะอะไร ใครผิด มีคำถามที่เราก็ตอบไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับพ่อและที่ดินอย่างไร พ่อเป็นแค่ผู้รับในอนุญาต ที่ดินไม่ใช่ของพ่อ หากพ่อผิดตามกฎหมายต้องไปยึดที่ดินของพ่อ แต่ที่นี่ไม่ใช่" ลูกชายของนายดูนเลาะ กล่าว
บัลยาน กล่าวอีกว่า เมื่อภาพลักษณ์ของปอเนาะถูกสื่อสารออกไปว่าเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เป็นแหล่งบ่มเพาะตามที่ฝ่ายรัฐเข้าใจ คนที่เคยเรียน คนในพื้นที่ และนักเรียนก็ไม่กล้าเข้ามาอีก จนกระทั่งมีคำตัดสินนี้ออกมาจึงมีคนเข้ามาเยี่ยมเยียน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาและครอบครัวท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ที่เกิดมานานกว่า 10 ปี
ย้อนรอยคดียึดที่ดิน "ปอเนาะญิฮาด"
กรณี "ปอเนาะญิฮาด" ตกเป็นข่าวทางสื่อสารมวลชนหลัง ปปง.มีคำสั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ให้อายัดทรัพย์ชั่วคราวโรงเรียนญิฮาดวิทยา ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
เป็นที่รู้กันดีในพื้นที่ว่า โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" ถูกปิดตายและกลายสภาพเป็นเพียงอาคารไม้เก่าๆ ที่ถูกทิ้งร้าง ตั้งแต่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปิดล้อมตรวจค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2548 และทางการมีคำสั่งปิดการเรียนการสอนในอีก 2 วันถัดมา
หลังถูก ปปง.อายัดที่ดินและส่งเรื่องให้อัยการร้องต่อศาลให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน "ทีมข่าวอิศรา" เคยเดินทางไปที่ปอเนาะญิฮาด และได้พบกับ ยาวาฮี แวมะนอ ลูกสาวของบาบอเฮง ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนตัวจริง เธอบอกว่าสามีของเธอ ดูนเลาะ (อับดุลเลาะ) แวมะนอ เป็นเขย สามีเข้ามาเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนหลังจากบิดาของเธอถูกยิงเสียชีวิต
ขณะที่ ซูไฮลา แวมะนอ ลูกสาวของยาวาฮี บอกกับ "ทีมข่าวอิศรา" ในขณะนั้นว่า ที่ดินผืนนี้ไม่ได้เป็นชื่อของบิดาเธอ เพราะบิดาเป็นเขย แต่ชื่อเจ้าของที่ดินคือมารดา (ยาวาฮี) ลุง และน้า รวม 5 คน
เป็นข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งของฝั่งครอบครัวนายดูนเลาะ ที่ต้องชี้แจงต่อไปหากเดินหน้ายื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ปอเนาะญิฮาด หรือ โรงเรียนญิฮาดวิทยา เมื่อครั้งที่ถูก ปปง.สั่งอายัดทรัพย์
2-3 นางยาวาฮี โชว์เอกสารสิทธิ์ที่ดินว่าเป็นของเธอและญาติๆ
อ่านประกอบ : เยือน "ปอเนาะญิฮาด" เรื่องราวที่มากกว่าข่าวอายัดที่ดิน