ป้าขายของชำยะหริ่งหมดตัว ถูกเผาร้านวอด จ่อย้ายหนีไฟใต้
ตั้งแต่เช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. จนถึงช่วงสายของวันจันทร์ที่ 12 ก.พ.61 เกิดเหตุลอบวางระเบิด ซึ่งมีทั้งระเบิดไปแล้ว และเจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทัน รวมๆ แล้วมากถึง 14 จุดใน 3 อำเภอของ จ.ปัตตานี คือ อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง และ อ.ยะรัง
แม้ส่วนใหญ่จะเป็นระเบิดลูกเล็ก อานุภาพทำลายล้างไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 9 คน
ที่สำคัญยังมีเหตุการณ์แทรกซ้อนที่ยังไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก ก็คือเหตุลอบวางเพลิงเผาร้านขายของชำใน อ.ยะหริ่ง ทำให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงวัย 67 ปี ถึงขั้นหมดตัว ร่ำไห้หมดกำลังใจ และเตรียมย้ายหนีความรุนแรงออกจากพื้นที่
ร้านขายของชำร้านนี้เป็นอาคาร 3 คูหา อยู่ในเขตเทศบาลตำบลยะหริ่ง ถูกวางเพลิงเผาเมื่อเวลาประมาณตี 2 ของวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. ก่อนจะเกิดเหตุระเบิดอีก 3 จุดในตอนเช้า ห่างจากร้านเพียง 100 เมตรเท่านั้น เจ้าของร้านคือ ป้าสุปราณี เพ็ชรวิไล วัย 67 ปี ป้าเล่าว่าเพลิงลุกไหม้เร็วมากจนเก็บข้าวของไม่ทัน ทำให้เงินที่ใช้หมุนเวียนภายในร้าน และสินค้าที่สั่งซื้อมาขาย ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด สูญเสียรายได้นับแสนบาท ทำให้ตอนนี้เรียกได้ว่าหมดตัว
"เราไม่มีอะไรเหลือแล้ว เงินไม่มีจะใช้ เงินในธนาคารก็ต้องไปใช้หนี้เขา เพราะเราไปสั่งสินค้าเขามาทั้งนั้นเลย ก็ต้องไปใช้หนี้เขา เราทำงานไม่เคยเป็นหนี้ใคร ส่วนเงินที่ใช้ประจำวันเอาออกมาไม่ได้เลย เพิ่งไปกดเอทีเอ็มมาหมื่นหนึ่ง เป็นเงินสำรองหมุนเวียนสินค้าที่เราขาย แต่ไฟไหม้หมดเลย เราทำได้แค่นั่งดูไฟไหม้"
ป้าสุปราณี บอกด้วยว่า คนที่มาก่อเหตุไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะในเขตเทศบาลตำบลยะหริ่ง ชาวบ้านทุกศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้ว่าใครทำ แต่คงไม่ต้องการให้เธออยู่ในพื้นที่ต่อไป ทั้งๆ ที่พยายามระวังเต็มที่แล้ว ทำให้รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ และอาจต้องขายกิจการเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่เป็นคนยะหริ่งตั้งแต่กำเนิด แต่อยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
"ร้านเราเคยโดนมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ครั้งแรก ทำให้หมดกำลังใจ หมดแรง ไม่อยากต่อสู้ เหมือนมีคนไม่อยากให้เราอยู่ที่นี่้ ทั้งๆ ที่เราเป็นคนพื้นที่ จริงๆ แล้วคนรอบข้างเราก็ดีทุกคน วันนี้ก็เอาข้าวยำมาให้กิน มีซาลาเปามาให้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าใครทำเรา ต้องอยู่แบบหวาดกลัว เราระวังตัวทุกครั้ง พยายามปิดบ้านเร็วๆ 6 โมงเย็นกว่าๆ ก็ปิดแล้ว เพียงแต่เมื่อวานเป็นวันนัด (หมายถึงมีตลาดนัด) ก็เลยไม่ได้สังเกตว่าอะไรเป็นอะไร ก็หวาดกลัวหวาดผวาตลอด" ป้าสุปราณี เผยความรู้สึกด้วยสีหน้าสิ้นหวัง บางช่วงมีน้ำตาหล่อรื้นในดวงตา
สำหรับเหตุระเบิดป่วนเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. เกิดขึ้นใน 3 อำเภอของ จ.ปัตตานี แยกเป็น อ.สายบุรี พบวัตถุระเบิดแบบ "ไปป์บอมบ์ตั้งเวลา" ที่คนร้ายวางไว้ตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. รวมแล้ว 8 จุด เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ 6 จุด ระเบิดจริง 2 จุด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ส่วนที่ อ.ยะหริ่ง นอกจากเหตุวางเพลิงเผาร้านขายของชำของป้าสุปราณีแล้ว ยังมีเหตุระเบิดอีก 3 จุด ทั้งด้านหน้าและด้านข้างโรงเรียนยะหริ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน หนึ่งในนั้นคือ นายอดุลย์ หมีนเส็น นายอำเภอยะหริ่ง โดนแรงอัดระเบิดช่วงเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ
ขณะที่ อ.ยะรัง เกิดระเบิดขึ้น 3 จุดเช่นกัน โดย 1 ใน 3 จุดถือว่าน่าสนใจ เพราะคนร้ายปั่นจักรยานแบบเสือหมอบแขวนระเบิดไปก่อเหตุ แรงระเบิดทำให้รถจักรยานขาด 2 ท่อน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดค่อนข้างชัดเจนว่าคนร้าย 2 คน ปั่นจักรยานแขวนระเบิด 2 คันไปจอดทิ้งไว้ ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น
สำหรับระเบิดที่แขวนกับจักรยาน อาจเรียกได้ว่าเป็น "ไบค์บอมบ์" ลูกแรกที่เคยเกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาคนร้ายมักซุกระเบิดไว้กับรถจักรยานยนต์ ที่เรียกว่า "มอเตอร์ไซค์บอมบ์" และระเบิดในรถยนต์ หรือ "คาร์บอมบ์" เท่านั้น
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด พบภาพบุคคลต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์แบบซ้อน 3 โดย 2 คนที่นั่งซ้อน สวมหมวกกันน็อคแบบนักปั่นจักรยาน คาดว่าจะเป็นคนปั่นจักรยานแบบเสือหมอบไปวางระเบิด โดยรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้หลบหนี ป้ายทะเบียน กวล 274 ปัตตานี เป็นรถที่เจ้าของแจ้งหายไว้ที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ปีที่แล้ว
เหตุระเบิดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ก.พ. ยังพบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในกล่องเหล็ก ซุกในกระสอบพลาสติกสีขาว วางไว้ในป่า ท้องที่หมู่ 3 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา คาดว่าคนร้ายนำมาซ่อนเพื่อให้เครือข่ายมารับไปก่อเหตุในเขตเมืองยะลา โชคดีเจ้าหน้าที่เก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
-----------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ป้าสุปราณี เพ็ชรวิไล
อ่านประกอบ :
นวัตกรรมไฟใต้? "ไบค์บอมบ์-บึ้มกระเป๋าสตางค์"