ดร.ณรัชต์ หวั่นกำไลไฮเทคคุมประพฤติสะดุด เหตุไม่ได้รับงบ
อธิบดีกรมควบคุมความประพฤติแจงโครงการนำร่องกำไลEMอาจโดนเบรกเหตุมีการใช้เครื่องไม่มาก ยันตั้งแต่ใช้มาประสบความสำเร็จถึง90% ย้ำจะเดินหน้าคุยกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง
จากกรณีให้มีการนำร่องใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ Electronic Monitoring : EMไว้ที่ข้อมือ หรือข้อเท้าตลอดเวลาในการคุมความประพฤติและหวังจะลดปัญหาผู้ต้องหาล้นคุก โดยในช่วงแรกมีการเช่ากำไลEM จำนวน 200 ชุด และเช่าใหม่ในช่วงสัญญาที่ 2 จำนวน 3,000 ชุด ด้วยงบประมาณ 75 ล้านบาท และเริ่มใช้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในพื้นที่ 23 จังหวัดแล้วนั้น
ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมความประพฤติ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ถึงการใช้กำไรEM ในช่วงสัญญาที่ 2 ว่า เช่ามา 3,000 ชุดและใช้ไปทั้งสิ้น3,000 ราย การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวถือว่าประสบผลสำเร็จพอสมควรในการควบคุมความประพฤติและแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จถึง90%
ส่วนปัญหาการใช้งานตัวเครื่องมีเพียง 10% เท่านั้นที่เกิดการขัดข้องเนื่องจากปัญหาของตัวระบบ อย่างไรก็ตามทางกรมควบคุมความประพฤติดำเนินการที่จะขอเช่ากำไลEM จากสำนักงบประมาณซึ่งถือเป็นช่วงสัญญาที่ 3 ของปี 2558 แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้การใช้งานอาจจะเกิดปัญหาเรื่องความต่อเนื่อง
สาเหตุที่ไม่ได้รับการอนุมัตินั้น ดร.ณรัชต์ มองว่า ทางสำนักงบอาจจะมองว่ามีการใช้ไม่มากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามทางกรมควบคุมความประพฤติพยายามดำเนินการที่จะทำข้อตกลงของบกลางในการเช่ากำไรEMต่อ อีก 3,000 ชุด
ด้านรศ.ศักดิ์ชัย เลิศพานิชพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หากมีการยกเลิกการทดลองนำร่องใช้กำไลEM ในการคุมประพฤติผู้ต้องหาจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เนื่องจากการประเมินในภาพรวมเมื่อถามผู้ที่ถูกคุมประพฤติสำหรับผู้ที่มีความผิดลหุโทษนั้น ส่วนใหญ่พอใจกับเครื่องมือชนิดนี้เพราะสามารถมีอิสระและทำงานได้ปกติ ดีกว่าการถูกจำกัดพื้นที่ในคุก ทั้งนี้หากมีการยกเลิกและไม่ดำเนินการต่อจริงๆจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่นั้นก็คงไม่มี เนื่องจากตั้งแต่มีการใช้กำไลEM ยังไม่ได้มีการประเมินแบบละเอียดอีกครั้งว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับใดบ้าง เพียงแต่ช่วยลดปริมาณผู้ต้องขังที่จะเข้าไปอยู่ในเรือนจำให้น้อยลงเท่านั้น