ระทึก!บุกพิสูจน์ บ.หลานสาว“ปู”ไขปมเงินกู้ปริศนา 42.7 ล้าน
นาทีระทึก!บุกพิสูจน์ บ.หลานสาว“แม้ว-ปู”อ้างอยู่ในตึก4 ชั้น ย่านถ.แจ้งวัฒนะ ไขปม“ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์”ปล่อยกู้ปริศนา 42.7 ล้านก่อนเลือกตั้งปี 51 ไร้ป้ายชื่อ“วายชินวัตร” พนักงานรุมซัก-ปัดวุ่น
การที่ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีรับตำแหน่ง ส.ส. เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 และแจ้งพ้นตำแหน่งอีกครั้ง วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ว่า มีเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท วายชินวัตร จำกัด จำนวน 42,700,000 บาท (ในช่วงพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 น.ส.ชินณิชาแจ้งว่า มีเงินให้กู้ยืมเพิ่มอีก 1 รายการ คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ พี่ชาย จำนวน 50,000,000 บาท รวม 2 รายการเป็นเงิน 92,700,000 บาท) กำลังถูกต้องข้อสงสัยว่ามีเงื่อนงำหรือไม่?เนื่องจากบริษัท วายชินวัตร จำกัด มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาท และผลประกอบการ
ปี 2550 มีรายได้ เพียง 2,306,444.72 บาท กำไรสุทธิ 978,513.70 บาท
ปี 2551 รายได้รวม 3,667,664.39 กำไรสุทธิ 262,733.59 บาท
ปี 2552 รายได้รวม 683,079.70 ขาดทุนสุทธิ 42,507,853.43 บาท
ปี 2553 รายได้รวม 3,094.94 บาท ขาดทุนสุทธิ 35,429.40 บาท
ส่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2555 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เดินทางไปตรวจสอบที่อยู่ เลขที่ 99/385 หมู่ที่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งระบุว่าเป็นที่ตั้งของบริษัท วายชินวัตรฯ พบว่าที่ตั้งดังกล่าวอยู่ตรงข้ามกับศาลปกครองอยู่กึ่งกลางระหว่างสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และ สถานีบริการน้ำมันเชลส์ ปรากฏเป็นอาคาร 4 ชั้น โดยด้านหน้ามีป้ายบริษัท ติดอยู่ 5 บริษัท ได้แก่
1.) บริษัท บีซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
2.) บริษัท โฟร์ อลิอันซ์(ประเทศไทย)จำกัด
3.) บริษัท อินนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด
4.) บริษัท เรส เอต จำกัด
5.) บริษัท เบนนิซิส จำกัด
แต่ไม่ปรากฎป้ายชื่อของบริษัท วายชินวัตรฯ ดังกล่าว แต่อย่างใด จากการสอบถามพนักงานที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ว่า น.ส.ชินณิชา อยู่หรือไม่?
พนักงานคนดังกล่าวทำสีหน้างงๆ ก่อนย้อนถามกลับว่า “ คุณเป็นใคร มาพบใคร มีธุระอะไร ”
ผู้สื่อข่าวระบุว่า มาจากสำนักข่าวอิศรา มาขอพบ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เพื่อสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ปล่อยกู้ให้บริษัท วายชินวัตรฯ
พนักงานยังทำหน้างงๆอีกครั้ง พร้อมระบุว่า “ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะไปตามคนข้างในมาให้ ”
ก่อนจะเข้าประตูหลังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไป และหายไปประมาณ 4-5 นาที จึงกลับมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนโดยหญิงสาวคนดังกล่าวถามผู้สื่อข่าวว่า “มีธุระอะไร มาจากที่ไหน ใครส่งมา และ เข้ามาได้อย่างไร อยู่ดีๆก็เดินเข้าประตูมาเลยเหรอ? ”
ผู้สื่อข่าวระบุว่า มาจากสำนักข่าวอิศรา เดินทางมาเอง และเปิดประตูเข้ามา เพื่อมาขอพบ น.ส.ชินณิชา ไม่ทราบว่าอยู่หรือไม่?
หญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่า “ ได้นัดไว้หรือเปล่า ตามหลักมันต้องมีหนังสือมาแจ้งล่วงหน้า อีกอย่างคุณชินณิชา ไม่ค่อยเข้ามาที่นี่”
ก่อนจะย้อนถามผู้สื่อข่าวอีกว่า “มีธุระอะไร ต้องการทราบข้อมูลเรื่องอะไร? ”
ผู้สื่อข่าวระบุว่า ต้องการมาสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ น.ส.ชินณิชา ปล่อยกู้เงินให้กับบริษัท วายชินวัตรฯ จำนวน 42,700,000 บาท
หญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่า “ ตนไม่ทราบ” และได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวเป็นครั้งที่ 2 อีกว่า มาจากที่ไหน ใครส่งมา?
ผู้สื่อข่าวระบุไปเหมือนข้างต้นดังที่กล่าวในครั้งแรก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วที่นี่มีบริษัท วายชินวัตรฯ หรือไม่ ?
หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้ตอบอะไร และได้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ว่า “ เดี๋ยวไปตามพี่อีกคนมาคุย ”
ก่อนจะหายเข้าไปทางประตูหลังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ทั้ง 2 คน
ผู้สื่อข่าวรออยู่ประมาณ 4-5 นาที ก่อนหญิงสาวคนดังกล่าวและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ จะกลับมาพร้อมกัน และได้ระบุว่า “ ให้เขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้สื่อข่าวฝากไว้ ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า พอจะคุยกับใครได้บ้าง ที่สามารถให้ข้อมูลเรื่องเงินกู้ยืม หรือเรื่องงบดุลบริษัทฯ แห่งนี้?
หญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่า “ จริงๆที่นี่ก็มีคนอื่นมาเช่าหลายบริษัทฯอยู่นะ ส่วนถ้าอยากรู้เรื่องข้อมูลอะไรคงต้องมาวันหลัง เพราะวันนี้ไม่มีใครอยู่ ”
อย่างไรก็ตาม กรณีการปล่อยกู้เงิน 42.7 ล้านบาทของน.ส.ชินณิชา น่าสังเกตว่าเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม –ตุลาคม 2550 (ตามหลักฐานตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 7 ฉบับที่ยื่นแสดงต่อ ป.ป.ช.)ซึ่งเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกตรวจสอบคดีร่ำรวยผิดปกติและถูกอายัดเงินจากการขายหุ้นชินคอร์ปกว่า 6 หมื่นล้านบาท และเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปต้นปี 2551