บัญชีทรัพย์สิน 5.4 ล.‘พีระวิทย์’ไม่พบแจ้งหนี้เงินกู้ยืม 1 ล.จาก‘พิเชษฐ’
ทรัพย์สิน 5.4 ล. ‘พีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค’ ส.ส. 3 วัน พรรคไทรักธรรม ไม่พบแจ้งหนี้สินเป็นเงินกู้ยืมจาก ‘พิเชษฐ’ หน.ประชาธรรมไทย 1 ล้าน หลังเจ้าตัวรับเป็นการยืมเงินมาลงทุนทำธุรกิจตลาด ก่อน ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต. สอบแล้ว
จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีอ้างว่าได้รับหลักฐานการโอนเงินของนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ทำธุรกรรมผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาสะพานใหม่ ดอนเมือง โดยการฝากโอนเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ผ่านระบบบัญชีไปยังบัญชีออมทรัพย์ของนายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมานั้น (อ้างอิงข่าวจาก แนวหน้าออนไลน์ : https://www.naewna.com/politic/450885)
เบื้องต้น สื่อหลายสำนักรายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายพีระวิทย์ ถึงกรณีนี้ว่า นายพิเชษฐ โอนเงิน 1 ล้านบาทให้จริงตามที่นายศรีสุวรรณยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบ แต่เป็นเงินที่ขอยืมนายพิเชษฐมาทำธุรกิจตลาดที่ จ.สระบุรี โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า (ปัจจุบันเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์) เพิ่งมาเปิดให้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตนกับนายพิเชษฐสนิทกันมานานแล้ว และเคยยืมเงินจากนายพิเชษฐหลายครั้ง ตั้งแต่ 2 แสนบาทถึงล้านบาทเศษ (อ้างอิงข่าวจากแนวหน้าออนไลน์ : https://www.naewna.com/politic/450960)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค พบว่า แจ้งสถานะว่าโสด โดยกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 5,482,635 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 100,216 บาท แจ้งรายได้ 100,000 บาท จากการค้าขายที่บ้าน และมีค่านายหน้าขายที่ดิน แต่ระบุว่า รายได้ไม่แน่นอน มีรายจ่าย 2.7 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3 แสนบาท ค่าใช้จ่ายในพรรค (ฐานะหัวหน้า) 2.4 ล้านบาท
ส่วนกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,759,305 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 100,216 บาท แจ้งรายได้ 100,000 บาท จากการค้าขายที่บ้าน และมีค่านายหน้าขายที่ดิน แต่ระบุว่า รายได้ไม่แน่นอน มีรายจ่าย 2.7 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3 แสนบาท ค่าใช้จ่ายในพรรค (ฐานะหัวหน้า) 2.4 ล้านบาท
ทรัพย์สินที่ลดลงไปคือ บัญชีเงินฝากของนายพีระวิทย์ กรณีเข้ารับตำแหน่งมี 3 บัญชี รวมเงิน 1,995,635 บาท ส่วนกรณีพ้นจากตำแหน่ง มี 3 บัญชีเช่นกัน แต่วงเงิน 1,272,305 บาท หรือลดลงจำนวน 723,330 บาท (การแจ้งบัญชีทรัพย์สินห่างกัน 3 วัน)
ในส่วนหนี้สินของนายพีระวิทย์ ทั้งกรณีเข้ารับตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่ง พบว่า เป็นหนี้ธนาคารกรุงไทย เงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แค่รายการเดียว ทำสัญญาเมื่อปี 2542 วงเงิน 100,216 บาท ไม่พบว่ามีหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมเงินจากนายพิเชษฐ แต่อย่างใด (นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ตามเอกสารโอนเงินดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 1 เม.ย. 2562 ก่อนการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพีระวิทย์ จาก แนวหน้าออนไลน์