ย้อนตำนาน‘ป.เป็ด’อดีตนักการเมืองดังค้ายาข้ามชาติศาลสหรัฐฯสั่งคุก-วัดบรรทัดฐานผู้นำไทย?
“…เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2538 ศาลไทย พิพากษาจำคุกนายทนง 18 ปี และกระทรวงการต่างประเทศแจ้งให้สหรัฐฯรับตัวนายทนงภายใน 3 เดือนมิฉะนั้นศาลไทยจะดำเนินการเอง หลังจากนั้นศาลสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่มารับตัวนายทนง ท้ายที่สุดศาลแคลิฟอร์เนีย พิพากษาจำคุกนายทนง 40 เดือน คุมประพฤติเป็นเวลา 5 ปี และไม่มีการปรับ โดยนายทนงได้ให้การยอมรับว่าระหว่างปี 2529-2530 ได้จัดหากัญชาเพื่อลักลอบนำเข้าชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของสหรัฐฯจริง…”
กำลังเป็นกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู กรณีนักการเมืองชื่อดังของไทย ถูกสื่อชื่อดังต่างประเทศเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดียาเสพติด และศาลเมืองนอกพิพากษาจำคุก ก่อนเนรเทศกลับประเทศไทย ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้ ต้องว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีนักการเมืองชื่อดังของไทย เคยถูกสหรัฐอเมริกา กล่าวหาว่า เป็นตัวการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าสหรัฐฯ จำนวนกว่า 47 ตัน และถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของสหรัฐฯอายัดทรัพย์สิน รวมถึงขอส่งตัวไปดำเนินคดีที่ศาลสหรัฐฯมาแล้ว ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากสื่อมวลชนในอดีตพบว่า ในช่วงปี 2536-2537 สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย (1) นั้น เป็นช่วงเวลารุ่งเรืองของนักธุรกิจชื่อดังอย่างนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ‘เสี่ย ป.เป็ด’ นักธุรกิจระดับพันล้านบาท (ขณะนั้น) โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมชื่อดัง ‘ลิตเติ้ล ดั๊ก’ จ.เชียงราย และเป็น ส.ส.นครพนม 2 สมัย โดยช่วงเวลานั้นสังกัดพรรคชาติไทย
อย่างไรก็ดีเมื่อปี 2537 หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ ดีอีเอ ตั้งข้อกล่าวหากับนายทนง ว่า พัวพันกับการค้ายาเสพติดข้ามชาติมายาวนานถึง 17 ปี
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับขณะนั้น ระบุว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2537 สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำนายทนง ระบุว่าเป็นตัวการค้ายาเสพติดประเภทกัญชาหนักประมาณ 47 ตัน และสั่งการอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐฯรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท รุ่งขึ้นในวันที่ 5 พ.ค. 2537 นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ออกมายืนยันข่าวว่า มี ส.ส. รายหนึ่ง พัวพันกับการค้ายาเสพติดจริงตามที่สหรัฐฯกล่าวหา อย่างไรก็ดีนายทนง แก้ข้อกล่าวหาว่า เป็นการกลั่นแกล้งและถูกจ้องทำลายทางการเมือง และทำลายความน่าเชื่อทางด้านธุรกิจครอบครัวและชาติตระกูล
ถัดมาในวันที่ 6 พ.ค. 2537 สภาผู้แทนราษฎรเปิดประชุมด่วนเพื่อพิจารณาขับนายทนงออกจากสมาชิกพรรคชาติไทย ในขณะที่พรรคชาติไทย ต้นสังกัดนายทนง ยืนยันว่า นายทนง ถูกเกมการเมืองเล่นงาน ถัดมาเพียงวันเดียวในวันที่ 7 พ.ค. 2537 นายทนง ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคชาติไทย เพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหาดังกล่าว รุ่งขึ้นในวันที่ 8 พ.ค. 2537 พรรคชาติไทยตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายทนง พร้อมระบุรายชื่อ ส.ส. ที่พัวพันกับการค้ายาเสพติด
หลังจากนั้นในวันที่ 11 พ.ค. 2537 ศาลท้องถิ่นเขตเหนือในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยพยานหลักฐานระบุว่า นายทนง มีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติดเข้าสหรัฐฯ โดยนายทนง ให้การยอมรับว่า ซื้อบ้านไว้ที่สหรัฐฯจริง ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2537 ทางการสหรัฐฯ ประสานงานกับทางการไทยเพื่อขอให้ส่งตัวนายทนง และภรรยา ไปขึ้นศาลสู้คดีที่สหรัฐฯ
หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2537 ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย เร่งตรวจสอบยอดสินเชื่อที่นายทนง ยังคงค้างไว้โดยด่วน โดยเฉพาะโรงแรมลิตเติ้ลดั๊ก จ.เชียงราย ซึ่งยังคงมีภาระเงินกู้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และหัวหน้าพรรคชาติไทย (นายบรรหาร ศิลปอาชา เพิ่งมารับตำแหน่ง) มีคำสั่งให้นายทนง พ้นสภาพจากการเป็น ส.ส.
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2537 ศาลสหรัฐฯรับฟ้องพร้อมเปลี่ยนสถานะนายทนงจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลย หลังจากนั้นนายเจมส์ เฮอร์ริก เอลส์ ผู้ต้องสงสัยคดีค้ายาเสพติดร่วมกับนายทนง ถูกตำรวจสหรัฐฯจับกุมที่สนามบินซานฟรานซิสโก
ถัดมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2537 ศาลไทย มีคำสั่งไม่ส่งตัวนายทนงให้กับศาลสหรัฐฯ และจะขอเป็นผู้ตัดสินคดีในเบื้องต้นเอง หากพบว่ามีความผิดจริงจะพิจารณาส่งตัวตามกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน และต้นปี 2538 ศาลอาญาออกหมายจับนายทนง และยื่นคำร้องให้ควบคุมตัวไว้ในระหว่างการไต่สวนคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ต่อมาเดือน ก.พ. 2538 ศาลออกหมายจับนายทนง เพื่อส่งตัวให้ศาลสหรัฐฯ แต่มีกระแสข่าวว่านายทนง หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งวันที่ 10 ก.พ. 2538 ได้เข้ามอบตัว และสู้คดี โดยยื่นหลักทรัพย์ 5 ล้านบาทขอประกันตัว แต่ศาลไม่ได้ให้ประกัน โดยนายทนงขอยื่นประกันตัวถึง 3 ครั้ง แต่ไร้ผล กระทั่ง 3 มี.ค. 2538 นายทนงยื่นประกันตัวเป็นครั้งที่ 4 และศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนั้นนายทนงขอสู้คดีในศาลไทย โดยอ้างว่า แหล่งขายกัญชาไปสหรัฐฯ อยู่ที่ประเทศไทย
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2538 ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งขอให้ส่งตัวนายทนง ไปยังสหรัฐฯอีกครั้ง แต่นายทนงปฏิเสธการขึ้นศาลที่สหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
กระทั่งถึงจุดสิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2538 ศาลไทย พิพากษาจำคุกนายทนง 18 ปี และกระทรวงการต่างประเทศแจ้งให้สหรัฐฯรับตัวนายทนงภายใน 3 เดือนมิฉะนั้นศาลไทยจะดำเนินการเอง หลังจากนั้นศาลสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่มารับตัวนายทนง ท้ายที่สุดศาลแคลิฟอร์เนีย พิพากษาจำคุกนายทนง 40 เดือน คุมประพฤติเป็นเวลา 5 ปี และไม่มีการปรับ โดยนายทนงได้ให้การยอมรับว่าระหว่างปี 2529-2530 ได้จัดหากัญชาเพื่อลักลอบนำเข้าชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของสหรัฐฯจริง
ปิดฉาก ‘เสี่ย ป.เป็ด’ อดีตนักการเมือง-นักธุรกิจพันล้านบาทไปโดยปริยาย ?
นอกเหนือจากคดียาเสพติดแล้ว นายทนง ยังถูกธนาคารหลายแห่งฟ้องกรณีเบี้ยวหนี้เงินกู้วงเงินนับพันล้านบาท กระทั่งธุรกิจหลายแห่งล้มละลาย โดยจากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2562 พบว่า นายทนง เคยเป็นกรรมการบริษัท/หุ้นส่วนผู้จัดการอย่างน้อย 21 แห่ง ทุกแห่งแจ้งสถานะว่า ร้าง หรือล้มละลายไปทั้งหมดแล้ว
กลับมาที่ปัจจุบัน มีการกล่าวหานักการเมืองไทยชื่อดังพัวพันกับการค้ายาเสพติดอีกครั้ง ท้ายที่สุดคงต้องรอ ‘วัดใจ’ นายกรัฐมนตรีว่า ดำเนินการอย่างไรต่อไป ?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ต้องคำพิพากษาคดียาเสพติดใน ตปท.หลุดจากตำแหน่งหรือไม่?
คำต่อคำ 'ธรรมนัส' แจงปมสื่อออสเตรเลียเสนอข่าวติดคุก 4 ปี มีโครงข่ายอยู่เบื้องหลัง?