ไร้ยางอายเพื่ออำนาจ?
"....ในด้านมืดของ ครม. พยายามมองมุมบวกให้มากที่สุด พบว่า มีคุณประโยชน์อยู่บ้าง ทำให้เรามองเห็น “จิตเดิมแท้” ของคนบางคน ที่ปากพร่ำแต่เรื่องผลประโยชน์ส่วนรวม การปฏิรูปประเทศ การมองไปข้างหน้าว่า ที่แท้แล้วคนผู้นี้มิได้แตกต่างจากนักการเมืองที่ตนเองดูถูกเหยียดหยามมาตลอด 5 ปีเลย..."
ยังไม่ทันเข้ารับหน้าที่ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยที่ 2 ก็ดังอึงมี่ โดยเฉพาะรัฐมนตรีหลายคนมีประวัติอื้อฉาวทั้งอดีตและปัจจุบัน
มีหลายคนถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไต่สวนอยู่ถึงขั้นตอนที่คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นแล้ว
แต่มีข่าวว่า ระดับ”บิ๊ก”บางคนขัดขวางไม่ให้นำเข้าบรรจุระเบียบวาระของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
เพราะตามกฎหมายใหม่ เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระแล้วต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน จึงมีความพยายามดึงเรื่องไว้ให้นานที่สุดเพื่อมิให้กระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของรัฐมนตรีบางคน
ในด้านมืดของ ครม. พยายามมองมุมบวกให้มากที่สุด พบว่า มีคุณประโยชน์อยู่บ้าง ทำให้เรามองเห็น “จิตเดิมแท้” ของคนบางคน ที่ปากพร่ำแต่เรื่องผลประโยชน์ส่วนรวม การปฏิรูปประเทศ การมองไปข้างหน้าว่า ที่แท้แล้วคนผู้นี้มิได้แตกต่างจากนักการเมืองที่ตนเองดูถูกเหยียดหยามมาตลอด 5 ปีเลย
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อ แม้แต่เรื่องที่ไร้ยางอายที่สุด
ถ้าผู้นำประเทศหนึ่ง ถูกสังคม(โลก)ถามว่า เอาคนที่มีประวัติต้องคดียาเสพติด(เฮโรอีน) จนต้องติดคุกมาร่วม ครม. คิดว่า ผู้นำประเทศนั้นจะตอบว่า อย่างไร
แม้ผู้นำประเทศไม่รู้สึกอับอายขายหน้า แต่ประชาชนในประเทศนั้นคงต้องแทบแทรกแผ่นดินหนี
บรรยากาศการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้ต้องย้อนไปค้นข้อมูลเก่าจนเจอข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศเอเอฟพีเมื่อ 21 ปี มีใจความดังนี้
“ กรุงเทพมหานคร, 9 กันยายน 1998- นายทหารไทยยศระดับกลางจำนวน 18 นาย กำลังถูกสอบสวนกรณีมีความเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการขนส่งเฮโรอีนข้ามชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพไทยกล่าวเมื่อวันพุธ
พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฎฐ์ ผู้บัญชาการทหารสงสุด กล่าวว่า กองทัพได้รับนายทหารเหล่านี้กลับเข้ารับราชการเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว(2539)ในส่วนการสอบสวนครั้งล่าสุดซึ่งส่งผลกระทบต่อกองทัพด้วยเป็นเหตุให้เขาต้องสั่งตรวจสอบประวัตินายทหารที่รับกลับเข้ากองทัพทุกนาย
"ผมได้ส่งรายชื่อนายทหารที่ได้รับการเรียกกลับเข้ากองทัพในช่วงสองปีที่ผ่านมา เพื่อการตรวจสอบประวัติกับตำรวจ" พล.อ.มงคลฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องข้อกล่าวหาการขนส่งเฮโรอีนแต่อย่างใด
พล.อ.มงคลกล่าวว่า เขาหวังที่จะให้การตรวจสอบนายทหารเหล่านี้ ได้เป็นส่วนช่วยการสอบสวนที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่กระทบต่อชื่อเสียงของกองทัพที่สั่งสมมายาวนาน
การเปิดเผยการสอบสวนเฮโรอีนนี้เริ่มต้นมาจากการสอบสวนคดีฆาตกรรมซึ่งเกี่ยวพันกับนายทหารยศร้อยเอก ผู้ซึ่งเคยถูกตัดสินลงโทษจำคุกในประเทศออสเตรเลียข้อหาลักลอบขนยาเสพติด
พล.อ.มงคล ยอมรับว่า กองทัพหละหลวมที่รับนายทหาร... กลับเข้ามารับราชการภายหลังจากที่ถูกไล่ออกถึงสองครั้งและถูกตัดสินว่ากระทำความผิดข้อหาลักลอบขนยาเสพติด
ปัจจุบันนายทหาร...ได้ถูกควบคุมตัวและอยู่ระหว่างถูกพิจารณาคดีในศาลพลเรือนภายหลังจากที่เขาเข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวันจันทร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกายนักวิชาการชายจนถึงแก่ชีวิต
ในช่วงเดือนมิถุนายน ท่ามกลางกระแสที่ต้องการให้กองทัพแสดงความรับผิดชอบ รัฐบาลได้สั่งการให้กองทัพเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารลับที่กองทัพได้รับอนุญาตให้เก็บไว้
ในช่วงก่อนหน้าของปีนี้ กองทัพถูกกล่าวหาจากนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามว่าเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย”
-----------------------------
"..หลังจากคดีฆาตกรรมดังกล่าว คำว่า “ตุ๋ย”
กลายเป็นศัพท์แสลงที่โด่งดังมาก
กรณีที่มีการข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก..."
-----------------------------
จะเห็นได้ว่า ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่างมากในช่วงนั้น แต่นายทหารกลุ่มนี้เป็นใคร เชื่อว่า คงค้นหากันไม่ยากในยุคโซเชียลมีเดีย
บอกใบ้ได้แต่เพียงว่า หลังจากคดีฆาตกรรมดังกล่าว คำว่า “ตุ๋ย” กลายเป็นศัพท์แสลงที่โด่งดังมากกรณีที่มีการข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก
คิดว่า ข่าวต่างประเทศชิ้นนี้คงทำให้ผู้มีอำนาจบางคนมี “หิริโอตัปปะ”ขึ้นมาบ้าง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/