- Home
- Isranews
- 'บิ๊กตู่'วอล์คเอาท์-'พรเพชร'เชิญ'เสรีพิศุทธ์'ออกนอกห้อง ปมไม่ถอนคำพูดกล่าวหาโกงเลือกตั้ง
'บิ๊กตู่'วอล์คเอาท์-'พรเพชร'เชิญ'เสรีพิศุทธ์'ออกนอกห้อง ปมไม่ถอนคำพูดกล่าวหาโกงเลือกตั้ง
เดือดพล่าน! นายกฯวอล์คเอาท์-'พรเพชร' เชิญ 'เสรีพิศุทธ์' ออกนอกห้อง หลังไม่ถอนคำพูดปมกล่าวหา รบ.โกงเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ 'สมพงษ์' ซัดแหลกเข้าสู่อำนาจขาดความชอบธรรม - ‘บิ๊กตู่’เดือดลุกแจงปมแก้ภัยแล้ง-ปัดโมโหใคร ยังยิ้มอยู่ เผยตั้งงบกู้ 2 ล้านล้านแต่จะกู้หรือไม่ก็ได้-ถ้าคิดแบบเดิมอะไรก็เกิดไม่ได้ ขู่มีคดีค้างอีกพันคดี - ‘ปิยบุตร’ กล่าวหา ครม.ใหม่พูดคำถวายสัตย์ไม่ครบ อาจปฏิบัติหน้าที่ไม่สมบูรณ์ ‘ชวน’ เผยถือเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง คนกล่าวหาต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 ที่อาคารทีโอที แจ้งวัฒนะ (รัฐสภาชั่วคราว) มีการประชุมร่วมรัฐสภาระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา เพื่อรับฟังคำแถลงนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้อภิปรายด้วย
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงคิว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายถึงนโยบายรัฐบาล โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นคือ 1.คุณสมบัติ หรือความสามารถของบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น่าจะทำตามนโยบายไม่ได้ 2.คำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 3.คณะรัฐมนตรีทั้งหมดไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
นอกจากนี้ก่อนเริ่มอภิปรายยังถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า นาฬิกาที่ยืมเพื่อนคืนไปหรือยัง เพราะกล้องถ่ายอยู่ ถ้าเห็นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก ก่อนระบุว่า ไม่ได้เสียดสี ตนเป็นน้องท่าน ไม่เป็นไร ตนไม่มีปัญหา แต่คนอื่นตนไม่รับผิดชอบ ท่านช่วยดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน
หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวพาดพิงถึงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมาว่า ฝ่ายรัฐบาลโกง จึงทำให้ชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดการประท้วงเกิดขึ้นในสภา โดยฝ่าย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขอให้ถอนคำพูด ฝ่าย ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องถอน นานประมาณ 30 นาที จนนายพรเพชร วินิจฉัยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ต้องถอนคำพูด แต่ถือว่าเป็นการกล่าวหา
ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นอภิปรายด้วยเสียงแข็งกร้าว ระบุว่า ตนเป็นรุ่นน้อง รู้จักกันมานาน จัดงานสมรสพระราชทานวันเดียวกัน แต่วันนี้ถือว่าท่านไม่เป็นรุ่นพี่ตนอีกต่อไป ท่านไม่เคยให้เกียรติตนเลย จะชักปืนยิงตนตั้งแต่วันก่อน ถ้าท่านยิงท่านก็ติดคุก แต่ตนไม่เคยคุย เหรียญรามาท่านได้ ตนก็ได้ แต่ตนไม่เคยคุย ไม่เคยแอบอ้าง ผลงานต่าง ๆ ผมมีมากมาย ไม่เคยแอบอ้างอำนาจ ผลงานต่าง ๆ มีมากมาย แต่ท่านพูดจาหยาบคาย แอบอ้างอำนาจ ไปทบทวนท่านเองแล้วกัน ก่อนที่จะลุกเดินออกจากห้องประชุมสภาไปทันที
หลังจากนั้นนายพรเพชร ขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอนคำพูดอีกครั้ง แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันคำไหนคำนั้น แม้จะเป็นคำที่ได้ฟังมาจากชาวบ้านก็ตาม นายพรเพชรจึงเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากห้องประชุมสภา
ช่วงเช้า นายชวน ระบุว่า รัฐสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย และวันนี้ที่มีการแถลงนโยบายถือว่าฝ่ายนิติบัญญัติ ปฏิบัติภารกิจร่วมกับรัฐบาล คือฝ่ายบริหาร ที่เป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยเช่นเดียวกัน และฝ่ายนิติบัญญัติต้องพิจารณานโยบาย และตรวจสอบ รวมถึงต้องรับฟัง ต้องเป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมาย กฎเกณฑ์กติกา ทำให้ประชาชนติดตามบทบาทของสมาชิก หวังอย่างยิ่งว่าสภาจะได้รับการยอมรับน่าเชื่อถือ
ต่อมา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ขอหารือประธานรัฐสภาว่า ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์นั้น พูดไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ดังนั้น ถือว่าเข้ารับหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ก่อนมาแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 และถ้อยคำที่ขาดหายไปสำคัญมาก คือคำว่า “ยึดถือและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ” ถ้าไม่มีคำนี้ ไม่ยึดถือรัฐธรรมนูญอย่างนั้นหรือ
อย่างไรก็ดีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้คัดค้านว่า คลิปวีดีโอที่เผยแพร่ สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องพูดครบถ้วนทั้งประโยค การใช้เอกสารใด ๆ หรือการกล่าวถึงคลิปใด ๆ ประธานรัฐสภาต้องตรวจสอบก่อนจึงจะให้สามารถอ้างอิงถึงหลักฐานต่าง ๆ ก่อน นายชวน ระบุว่า ตนไม่มีคลิป และไม่เห็นคลิปเช่นกัน แต่ผู้พูดต้องรับผิดชอบคำพูดเอง เนื่องจากเป็นข้อกล่าวหารุนแรงมาก
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมีการกล่าวเสริมนอกเหนือจากเอกสารที่ส่งมาให้รัฐสภาหลายประเด็น เช่น ระบุว่า “ดูโทรทัศน์ทุกวัน จดไว้หลายหน้ากระดาษว่าใครพูดถึงตนบ้าง นำเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ในสภาส่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการเสนอนโยบายใดในนามรัฐบาลใหม่ หรืออะไรคือรัฐบาลเดิม หลายคนมองว่าไม่เหมือนที่พูดกันไว้ แต่ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาลต่างอยู่ในนี้ทั้งสิ้น อยู่ที่ต้องหาวิธีการปฏิบัติ” หรือการระบุว่า “มีหลายคนไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นต้น โดยมีเสียงโห่ในสภาเป็นระยะ
ต่อมานายชวน หลีกภัย ท้วงติง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ขอให้พูดตามนโยบายที่ส่งมาให้รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอขยายนิดหน่อย หลังจากนั้นมี ส.ส. พรรคฝ่ายค้านหลายรายประท้วง เช่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นต้น ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตามเอกสารแถลงนโยบายที่ส่งให้รัฐสภา ทำให้นายชวน ต้องพูดย้ำอีกครั้งว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตามเอกสารแถลงนโยบายที่ส่งมาให้รัฐสภา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตามเอกสารที่แถลงนโยบายต่อไป
@'วันนอร์' เผยเบื้องหลังคำพูด 'บิ๊กตู่' วันรัฐประหารปี'57 "ใครอย่าคิดสู้ผม สู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเตรียมเรื่องนี้มา 3 ปีแล้ว"
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ แถลงนโยบายต่อรัฐสภาจบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ นายชวน หลีกภัย ได้เปิดโอกาสให้สมาชิก ส.ส. และ ส.ว. อภิปรายนโยบายของคณะรัฐมนตรี เบื้องต้นนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปฝ่ายรัฐบาล ชี้แจงเรื่องกำหนดเวลาในการอภิปราย แบ่งเป็น 2 วัน รวม 30 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านได้เวลา 13 ชั่วโมงครึ่ง
โดยฝ่ายค้านที่อภิปรายคนแรก ได้แก่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวสรุปถึงนโยบายของรัฐบาลว่า การเข้าสู่อำนาจขาดความชอบธรรม ใช้รัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาโดยพวกพ้อง เอื้อประโยชน์ในการสืบทอด ผลักดันคุณสมบัติมาดำรงตำแหน่ง ล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ เมินเฉยต่อการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น บิดเบือนกลไกกฎหมายเอื้อพวกผ้อง อันนี้อาจแรงไปที่บอกว่า โกหกประชาชนและนานาชาติ แต่เป็นข้อเท็จจริงคือ ท่านบอกพี่น้องประชาชน ต่างชาติว่า จะนำเข้าสู่ประชาธิปไตย แต่ขณะนี้เป็นประชาธิปไตยอะไร มันเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม หรือครึ่งเผด็จการเท่านั้นเอง รวมถึงขาดความเหมาะสมตั้งใจที่ทำ รวมถึงนโยบายเหล่านี้เกี่ยวกับงบประมาณ ท่านจะทำนู่นทำนี่อะไรต่าง ๆ แต่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ต้องชี้แจงว่า ท่านนำเม็ดเงินนี้มาจากตรงไหน อย่างไร ที่จะทำได้ ไม่เห็นในนโยบายไม่เห็นตัวเลขอะไรเลย
ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ว่า ในวันดังกล่าวตนบังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตอนหนึ่งช่วงยึดอำนาจว่า "ใครอย่าคิดสู้ผม สู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีกว่า" ประโยคนี้ผมข้องใจมาจนบัดนี้ ขอถามวันนี้ว่า เตรียมการมา 3 ปีกว่า หมายความว่าอย่างไร ถ้านับย้อนหลังไปจากปี 2557 เวลา 3 ปีกว่าคือเตรียมการมาช่วงปี 2554-2555 ซึ่งขณะนี้เพิ่งมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็มีการเตรียมการเรื่องนี้กันแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลย ไม่คิดว่าจะได้ยินนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ ตนจะพูด และอธิบายอะไรอีกบางประการที่ตรวจสอบว่า เป็นของจริง และมีการเตรียมการมาอย่างละเอียดด้วย
(ภาพจาก thaigov)
@‘บิ๊กตู่’เดือดลุกแจงปมแก้ภัยแล้ง-ปัดโมโหใคร ยังยิ้มอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสียงดัง ชี้แจงถึงประเด็นการถูก ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายพาดพิงในประเด็นเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลตอนหนึ่งว่า เรื่องแรกกรณีการแก้ปัญหาภัยแล้ง และระบบบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ แบ่งเป็นน้ำที่ใช้ด้านอุปโภคบริโภค ด้านการเกษตร ด้านการอุตสาหกรรม และด้านรักษาระบบนิเวศ มีเอกสารชัดเจน เป็นรายละเอียดที่ปฏิบัติ ไม่ใช่พูดอย่างเดียว รวมถึงแผนแม่บททุกอย่าง มาขอศึกษาดูได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังแก้ไขด้วยการพัฒนาเพิ่มเติมแหล่งน้ำต่อไป ทั้งการประสานเรื่องนำน้ำในแม่น้ำโขง หรือแม่น้ำในพม่าที่เป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ทุกอย่าง ตอนนี้ส่งน้ำจนเกินขนาด เพราะประชาชนเดือดร้อน ทำให้น้ำต่ำกว่ามาตรฐาน หากส่งมากกว่านี้จะทำให้น้ำอุปโภคบริโภคไม่มี ดังนั้นติติงอย่างเดียว ไม่ได้สร้างสรรค์เลย นอกจากนี้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฝนหลวง บินทำการแล้วกว่า 5,000 ชั่วโมง 3,000 กว่าเที่ยว ใส่สารเคมีหนักกว่า 5,000 ตัน กระจายทั่วประเทศ ตรงไหนมีเมฆก็ปล่อย ไม่มีเมฆก็อย่าบินสิ้นเปลือง ถ้าน้ำมาก็ปล่อยอีก แต่ท้ายที่สุดถ้าปล่อยหมด ปัญหาน้ำประปาต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่รู้จะเอาน้ำจากไหนมาให้เหมือนกัน
@เผยตั้งงบกู้ 2 ล้านล้านแต่จะกู้หรือไม่ก็ได้-ถ้าคิดแบบเดิมอะไรก็เกิดไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีนำเงินงบประมาณมาดำเนินนโยบายตอนหนึ่งว่า งบประมาณมาจากไหน ตอบตนที ก็มาจากภาษีประชาชน รายได้จัดเก็บ 2 ล้านล้านบาทเอาไว้ตั้งงบขาดดุล ส่วนจะกู้หรือไม่กู้ก็ได้ ถ้าจำเป็นต้องกู้มาลงทุนก็ต้องกู้ ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลตัวเลขประมาณนี้ รัฐบาลใครไม่รู้เหมือนกัน จัดเก็บเท่านี้ทำไมไม่เกิดถนน ไม่เกิด EEC หายไปไหน ตอบตนให้ได้ เพราะงบใกล้เคียงกัน 2 ล้านล้านบาท ส่วนเรื่องหนี้ เป็นหนี้ที่เกิดรายได้ จากรัฐบาลที่ร่วมลงทุนกับประชาชน เอกชนมีความเสี่ยงรัฐบาลต้องดูแลสิทธิประโยชน์ ถ้าคิดแบบเดิมอะไรก็เกิดไม่ได้ ส่วนประเด็น GDP น้อย ต้องดูว่าฐานเศรษฐกิจไทยกว้างแค่ไหน อุตสาหกรรมใหญ่แค่ไหน ถ้าเทียบกับประเทศที่เติบโตตอนนี้ ก็เหมือนเราเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนี้มีหลายประเทศสนใจมาลงทุนที่ไทย มีหลายบริษัทย้ายการผลิตมาไทย ทำไมเขารักประเทศไทย บางคนไม่รักประเทศไทย เขาสงสัยกับตนแบบนี้
@ขู่มีคดีค้างอีกพันคดี เตรียมตัวไว้ เรื่องอะไรไม่รู้
ต่อมา ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ ขัดข้อบังคับการประชุม เนื่องจากการกล่าวถ้อยคำในรัฐสภา ต้องกล่าวกับประธานรัฐสภาเท่านั้น ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประธานรัฐสภาอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องขอโทษ ระบุว่า อาจเคยชิน เผอิญพูดให้ได้ยินไปด้วย ไม่รู้จะทำยังไง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่ว่า ไปทำอะไรมาบ้าง กู้แล้วเกิดรายได้หรือไม่ วันนี้ไม่อยากจะก้าวล่วง คดีค้างอยู่อีก 1 พันกว่าคดี เตรียมตัวไว้ละกัน เรื่องอะไรไม่รู้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ เตรียมหลายอย่าง พูดคุยเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน อาเซียน G20 แม้พูดกับเขาไม่เก่ง หลายคนบอกพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง แต่มีล่าม 15 คน บางคนพูดเก่งแล้วไร้สาระ ก็ไม่เกิดประโยชน์
@ยันหนี้ครัวเรือนสูงเพราะใช้จ่ายไม่คุ้มค่า-ลั่นใครพูดเศรษฐกิจพอเพียงเท่ากับสอนให้คนจนจำคำพูดไว้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงประเด็นหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงตอนหนึ่งว่า หนี้ครัวเรือนที่สูงเนื่องจากมีการใช้จ่ายไม่คุ้มค่า ฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะลูกหลาน แต่เขาอยากมีจะทำยังไง ต้องแก้ว่าทำยังไงให้เพิ่มรายได้เขา แต่มันพันกันไปทั้งหมด ทั้งนี้การใช้ชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้สอนให้คนยากจน มีคนพูด ใครไม่รู้ จำตัวเองให้ได้ด้วย การใช้เศรษฐกิจพอเพียงสอนให้คนยากจนใช่ไหม ใช่รึเปล่า ตอบให้ได้ การที่มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย คนละเรื่องกับการประหยัด ตีความให้เข้าใจด้วย
ส่วนกรณีบัตรประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนแรกเริ่มโดยธนาคารแห่งเดียว ต่อมามีหลายธนาคารมาร่วมด้วย และการซื้อไม่ใช่ซื้อแค่ธงฟ้า ซื้อจากร้านใดก็ได้ที่มีเครื่องอ่านบัตร วันหลังลองให้บัตรไปซักใบไหม ถ้าร้านกล้วยแขก ซื้อเครื่องอ่านบัตรก็ซื้อกล้วยแขกได้เหมือนกัน เขาเรียกระบบ E-Wallet ไม่ซื้อของก็มีเงินอยู่ในบัตร กรุณาตามสิ่งที่มีมา 5 ปีด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงด้วยว่า ที่ชี้แจงไม่ได้โมโหใคร และไม่เก่งเรื่องการพูด เพราะตนเป็นมนุษย์ ใครพูดเก่งก็เรื่องของท่าน เสียงดังไปรึเปล่าก็ไม่รู้ นี่สุภาพเรียบร้อย ยิ้มอยู่
“พูดไม่ได้โมโหใครเลย พูดอยากให้เข้าใจ คิดละเอียด เอกสารกองท่วมตัวจนหาไม่เจอแล้ว เยอะมากที่พูดมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
น้อมนําพระปฐมบรมราชโองการร.10 บริหารปท.! นโยบายรบ.'บิ๊กตู่'เสร็จแล้ว มุ่งปราบทุจริตด้วย
โชว์ 12 นโยบายด่วน‘รบ.บิ๊กตู่’ หนุนแก้ รธน.-ยกเครื่องระบบยุติธรรม-สางปัญหาทุจริต