สาวลึก! พะเยาถลุงงบพัฒนาข้าว317ล. สนง.เกษตรฯ ควักเงินชดใช้1.3หมื่น เคลียร์คดีสร้างอาคาร
สาวลึก! ผลสอบถลุงงบโครงการผลิตข้าวปลอดภัยพะเยา 317 ล. สตง.พบสำนักงานเกษตรจังหวัด จัดซื้อจัดจ้าง 2 โครงการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ พบก่อสร้างอาคารศูนย์ประสานกำหนดราคากลางสูงเกินมาตรฐานทำราชการเสียหาย 3 .1 ล้าน สุดท้ายยอมควักเงินจ่าย 1.3 หมื่น ชดใช้ค่าเสียหาย เผยเจอปัญหาส่งคืนเงินยืมล่าช้า-ซื้อวัสดุการเกษตร ต้นไม้ แจกปชช.อีกหลักล้าน
โครงการเพิ่มผลิตภาพและคุณภาพการผลิตข้าวปลอดภัย จังหวัดพะเยา วงเงินกว่า 317.62 ล้านบาท ซึ่งได้รับงบประมาณจำนวนมากที่สุด 317.62 ล้านบาท ภายใต้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 848.57 ล้านบาท ที่ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณไม่คุ้มค่า ทั้งการจัดกิจกรรมไม่มีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการจัดซื้อทรัพย์สินไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ส่งผลให้เกิดมูลค่าเสียโอกาสจากกรณีทรัพย์สินไม่มีการ ใช้ประโยชน์ และทรัพย์สินของรัฐที่ยังไม่ก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ ประมาณ 175.77 ล้านบาท ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่สามารถพัฒนาอาชีพ ยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง กำลังถูกจับตามองมากขึ้น
เมื่อปรากฎข้อมูลว่า ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณวงเงินกว่า 38 ล้านบาท ของ สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง อาคาร เครื่องไม้เครื่องมือทางการเกษตร ถูกสตง.ตรวจสอบพบว่า ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนด ขณะที่ในระหว่างการตรวจสอบ สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยาได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐ เป็นจำนวนเงิน 13,258.40 บาท ด้วย (อ่านประกอบ :สตง.รุดสอบโครงการผลิตข้าวปลอดภัยพะเยาใช้จ่ายงบไร้ประสิทธิภาพ เกิดมูลค่าเสียโอกาส175 ล.)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณโครงการเพิ่มผลิตภาพและคุณภาพการผลิตข้าวปลอดภัย จังหวัดพะเยา วงเงินกว่า 317.62 ล้านบาท สตง. ตรวจสอบพบว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างภายใต้โครงการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนด 2 สัญญา มูลค่าตามสัญญา 38,630,000 บาท ดังนี้
1. เบิกจ่ายเงินตามสัญญาจ้างเลขที่ 19/2560 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2560 เป็นค่าก่อสร้างอาคารศูนย์ประสานงานกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตข้าวอินทรีย์และห้องปฏิบัติการด้านอารักขาพืช เป็นเงินทั้งสิ้น 4,070,000.00 บาท ผลการตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการกำหนดราคากลาง กำหนดราคากลางครุภัณฑ์สูงกว่าราคามาตรฐานที่สำนักงบประมาณกำหนดส่งผลทำให้ทางราชการเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 3,120.00 บาท และกำหนดรายละเอียดการคำนวณราคากลาง ตามแบบแสดงรายการปริมาณงานและราคา (แบบ ปร.4) เกินกว่าแบบรูปรายการละเอียด ทำให้ราชการเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10,138.40 บาท ทั้งนี้ในระหว่างการตรวจสอบสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยาได้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐแล้ว เป็นจำนวนเงิน 13,258.40 บาท เบื้องต้น สตง. ได้ทำการแยกรายงานการตรวจสอบส่วนนี้ออกไปอีกหนึ่งสำนวนแล้ว
2. เบิกจ่ายเงินตามสัญญาซื้อขาย เลขที่ 27/2560ลงวันที่ 31กรกฎาคม 2560 จัดซื้อเครื่องย่อยสลายชีวมวล และเรือเก็บผักตบชวาพร้อมอุปกรณ์ประกอบ มูลค่าตามสัญญา 34,560,000.00 บาท ภายใต้กิจกรรมผลิตปุ๋ยชีวภาพจากผักตบชวาเพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวปลอดภัยกำหนดการส่งมอบ ภายในวันที่ 13 เมษายน 2561 แต่จากการตรวจสอบพบว่า เพียงวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินตามสัญญาซื้อขายดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ประสบปัญหาในการตรวจรับพัสดุตามเงื่อนไขสัญญา
กล่าวคือ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุตรวจรับพัสดุ โดยพิจารณาตามข้อกำหนดของสัญญาซื้อขาย ซึ่งมีเอกสารแนบท้ายอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาคือรายละเอียดสาระสำคัญร่างขอบเขตของงาน (TOR) ซึ่งผู้ขายปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ดังกล่าว ปัจจุบันสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยาอยู่ระหว่างหารือเพื่อหาข้อยุติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น ที่ทำให้ราชการเสียโอกาสการใช้ประโยชน์เครื่องย่อยสลายชีวมวล และเรือเก็บผักตบชวาพร้อมอุปกรณ์ จากการดำเนินงานล่าช้าดังกล่าว
แหล่งข่าวจาก สตง. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง 2 กรณีนี้ สตง.จะมีการจัดทำรายงานแยกส่วนการตรวจสอบออกไปอีกหนึ่งสำนวน แล้วส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพื่อนำไปใช้ประกอบการตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายเงินในการดำเนินงานโครงการนี้ นอกเหนือจากรายงานผลการตรวจสอบส่วนอื่นที่จัดส่งไปแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณของ สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา สตง. พบข้อสังเกตใน 2 ประเด็น ที่อาจส่งผลทำให้ราชการเกิดความเสียหายได้ คือ การจัดทำเอกสารสัญญายืมเงินระหว่างสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา กับสำนักงานจังหวัดพะเยา 12 สัญญา จำนวนเงินรวม 2,138,680.00 บาท ไม่มีการจัดทำสัญญายืมเงินระหว่างกัน และไม่มีการจัดทำสัญญายืมเงินระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินกิจกรรมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา แต่พบว่า เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินกิจกรรม จัดทำสัญญายืมเงินโดยตรงกับสำนักงาน จังหวัดพะเยา ทั้ง 12 สัญญา และจากการตรวจสอบวันที่ส่งมอบหลักฐานการเบิกจ่ายเงินและส่งคืนเงินสดเพื่อชดใช้เงินยืมพบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ยืมเงินส่งคืนเงินยืมล่าช้า โดยยืมเงินเกินกว่า 60 วัน 9 สัญญา จำนวนเงินยืมทั้งสิ้น 1,952,180.00 บาท โดยรายการส่งใช้เป็นหลักฐานใบสำคัญจ่ายเงินจำนวน 1,890,430.00 บาท และส่งคืนเงินสด จำนวน 61,750.00 บาท ซึ่งสัญญายืมเงินมีระยะเวลายืมเงิน ตั้งแต่ 61 วัน ถึง 260 วัน ทั้งนี้การส่งคืนเงินยืมล่าช้า ไม่เป็นไปตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่กค0406.3/ว 17 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2553 อาจทำให้ราชการเสียหายได้
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา ดำเนินกิจกรรมโดยจัดซื้อวัสดุทางการเกษตร ต้นไม้ และปัจจัยการผลิต แจกจ่ายให้แก่ประชาชน กลุ่มอาชีพ โดยตรง 3 กิจกรรม เบิกจ่ายเป็นเงินทั้งสิ้น 2,976,948.00 บาท แต่จากการตรวจสอบสังเกตการณ์การใช้ประโยชน์ พบว่าวัสดุ อุปกรณ์ รวมถึงปัจจัยการผลิตที่กลุ่มได้รับสนับสนุนถูกนำไปใช้อย่างไม่ยั่งยืน กล่าวคือ นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไป/สมาชิกภายในกลุ่ม ใช้เพื่อการเรียนการสอนภายในโรงเรียน นำไปขายให้กับสมาชิกภายในกลุ่ม และนำไปประกอบกิจการของกลุ่ม แต่ยังไม่มีผลกำไรด้วย
" การที่สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยาส่งคืนเงินยืมล่าช้า จำนวน 1,952,180.00 บาท ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อาจเป็นช่องทางให้มีการนำเงินของทางราชการไปใช้ส่วนบุคคล และอาจเป็นผลทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย ส่วนการดำเนินกิจกรรมในลักษณะการจัดซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนโดยตรง ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณจำนวน 2,976,948.00 บาท ถูกนำไปใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ยั่งยืน ซึ่งสตง.จะมีการส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปตรวจสอบต่อไปด้วย" แหล่งข่าวจากสตง.ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สตง.ลุยสอบไส้ในถลุงงบข้าวปลอดภัยพะเยา317 ล.-ควัก 2 แสน จ้างทำเพจ10 อัน ใช้ได้แค่ 6
สตง.รุดสอบโครงการผลิตข้าวปลอดภัยพะเยาใช้จ่ายงบไร้ประสิทธิภาพ เกิดมูลค่าเสียโอกาส175 ล.