มีสินทรัพย์ 2.3 ล.! สจ.สมบัติ ขายให้‘วราพงษ์’หลักแสน บ.คดีภาษี 500 ล.
ขายจริง!! ปมสรรพากรเรียกเก็บภาษี ‘ไพบูลย์’ลูกจ้าง 500 ล. เปิดงบการเงิน บ.มาแทนเฟอร์นิเจอร์ ก่อน ‘สจ.สมบัติ’ ขายหุ้นให้ ‘วราพงษ์’ เจ้าของ สนง.บัญชี ปี 56 วงเงินหลักแสน รอบปี 2555 มีสินทรัพย์กว่า 2.3 ล. พบเจ้าตัวลงลายมือในแบบนำส่ง 24 ต.ค.56
กรณีกรมสรรพากรเรียกภาษีเงินได้ นายไพบูลย์ ศรีทอง ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท มาแทนเฟอร์นิเจอร์ จำกัด คนล่าสุด เนื่องจากค้างชำระภาษีหลายปีติดต่อกันรวมเป็นเงินเกือบ 500 ล้านบาท ขณะที่เจ้าตัวอ้างว่า เคยเป็นเพียงลูกจ้างรายวันบริษัทนี้เท่านั้น ไม่ทราบว่ามีชื่อเป็นเจ้าของบริษัทฯได้อย่างไร
ประเด็นใครเป็นเจ้าของบริษัทนั้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงายไปแล้วว่า
บริษัท มาแทนเฟอร์นิเจอร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ธ.ค.2537 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจซื้อขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ที่ตั้งเลขที่ 63 หมู่ที่ 2 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี นายสมบัติ สิทธิมงคล (ปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี) เป็นกรรมการผู้ริเริ่มจดทะเบียนและถือหุ้นใหญ่คนแรก (2537-24ต.ค.2556) หลังจากนั้นจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการอีก 3 ครั้ง
นายวราพงษ์ ขาวพราย มีชื่อเป็นกรรมการ และถือหุ้นใหญ่ คนที่สอง ( 24 ต.ค.2556- 3 มิ.ย.2557)
นายไพบูลย์ ศรีทอง มีชื่อกรรมการ และ ถือหุ้นใหญ่ คนที่สาม (3 มิ.ย.2557-9 มิ.ย.2558 )
นายธนเดช ผดุงจิตต์ มีชื่อเป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ คนที่สี่ (9 มิ.ย.2558 –ล่าสุด) แต่นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดปราจีนบุรีได้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเนื่องจากพบว่า ปลอมแปลงเอกสารการประชุมผู้ถือหุ้น ขณะที่นายธนเดชแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดนายไพบูลย์ ศรีทองกับพวก ในข้อร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร
ล่าสุดนายไพบูลย์เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดกลุ่มบุคคลร่วมกันปลอมแปลงเอกสารเอาชื่อนายไพบูลย์เป็นกรรมการจนทำให้เกิดความเสียหายนำไปสู่การถูกสรรพากรเรียกเก็บเงินเกือบ 500 ล้านบาทด้วยเช่นกัน
ด้านนายสมบัติ สทธิมงคล เจ้าของบริษัทคนแรกชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2562 ว่า ขายหุ้นให้นายวราพงษ์ไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อปี 2556 ในราคาหลักแสน จำตัวเลขชัดเจนไม่ได้ (อ่านประกอบ:ขายหุ้นไปหมดปี 56! ส.อบจ.ปราจีน ยันไม่เกี่ยวปมสรรพากรเรียกเก็บภาษี500ล.-ให้ปากคำตร.แล้ว)
สืบเนื่องจากการขายหุ้นของนายสมบัติให้นายวราพงษ์ข้างต้น ลองมาดูข้อมูลในงบการเงินในรอบปี 2555-2556 ในช่วงการซื้อขายกันบ้าง
1.ผลประกอบการของบริษัท จากการตรวจสอบงบการเงินรอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2555 ซึ่ง บริษัท มาแทนเฟอร์นเจอร์ จำกัด นำส่งต่อกรมพัฒาธุรกิจการค้า วันที่ 24 ต.ค.2556 (บริษัทฯนำส่งบการเงินปี 2549-2555 ล่าช้า โดยส่งพร้อมในวันเดียวกันคือวันที่ 24 ต.ค.2556) รายได้ 45,000 บาท (รายได้จากดอกเบี้ยรับ ตั้งแต่ ปี 2549-2555 แจ้งว่ามีรายได้เท่ากัน 45,000 บาท) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 8,048.44 บาท กำไรสุทธิ 36,951.56 บาท มีสินทรัพย์รวม 2,366,409.47 บาท จำแนกเป็นเงินสด 805,446.10 บาท ,เงินให้กู้ยืมระยะสั้น 1,500,000 บาท (ให้กรรมการกู้ยืมโดยไม่มีสัญญา ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คิดดอกเบี้ย 3% ต่อปี) ,สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 60,769.61 บาท ,ที่ดินและอาคารสุทธิ 193.76 บาท และ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 193.76 บาท รายการหนี้สิน แจ้งว่ามีหนี้สิน 95,947.89 บาท (หนี้สินหมุนเวียน) กำไรสะสม 1,270,461.58 บาท (ดูเอกสาร)
2.บริษัทฯนำส่งบการเงินปี 2549-2555 ล่าช้าโดยส่งพร้อมในวันเดียวคือวันที่ 24 ต.ค.2556 ผู้ลงนามในงบการเงินคือนายสมบัติ สิทธิมงคล (ดูเอกสาร)
จากข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ว่า
1.บริษัทฯมีสินทรัพย์มากกว่า 2 ล้านบาท มีหนี้สินเพียง 9 หมื่นกว่าบาท เป็นข้อสังเกตว่า เหตุใดนายสมบัติจึงขายให้นายวราพงษ์ในราคาแค่หลักแสน เป็นราคามิตรภาพอย่างนั้นหรือ? (ถ้ามีซื้อขายเกิดขึ้น สรรพากรอาจต้องไปดูว่ามีการแจ้งรายได้หรือไม่)
2. การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการจากนายสมบัติเป็นนายวราพงษ์ เกิดขึ้นวันที่ 24 ต.ค.2556 (นายสมบัติลงลายมือชื่อวันที่ 22 ต.ค.2556) และ เป็นผู้ส่งงบการเงิน เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2556 (เจ้าหน้าที่ลงรับ) แสดงว่ามีการตกลงซื้อขายก่อน 24 ต.ค.2556 ต่อมาจึงจดทะเบียนโอนหุ้นระหว่างนายสมบัติกับนายวราพงษ์ เมื่อ 25 ต.ค.2556 เท่ากับนายสมบัติเป็นเจ้าของบริษัทถึงก่อนวันที่ 24 ต.ค.2556 ขณะที่งบการเงินในรอบปี 2556 ที่นายวราพงษ์ ขาวพราย กรรมการคนใหม่ นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่ารอบปี 2555 มีสินทรัพย์ 168.8 ล้านบาท น่าสังเกตว่าเป็นจำนวนแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ตัวเลขจึงขัดแย้งกันว่าแท้ที่จริง ในรอบปี 2555 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ 2.3 ล้านบาท หรือ 168.8 ล้านบาท
เป็นเงื่อนปมที่น่าสนใจ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
ขายหุ้นไปหมดปี 56! ส.อบจ.ปราจีน ยันไม่เกี่ยวปมสรรพากรเรียกเก็บภาษี500ล.-ให้ปากคำตร.แล้ว
ครบชุด! ชัดๆ ใครคือกลุ่มบุคคลปั้นเอกสาร เชิด‘ไพบูลย์’นั่ง กก.บริษัท ก่อนโดนภาษี 500 ล.?
รู้ตัวคนทำ!‘ไพบูลย์’แจ้งความ ตร. เอาผิดกลุ่มบุคคลปั้นเอกสาร ปมโดนภาษี 500 ล.
สรรพากรแจงเรียกเก็บภาษี‘ไพบูลย์’ 483 ล. หลัง บ.แจ้งงบฯมีรายได้ 1.8 พันล.
บ.คดีภาษี 800 ล. เป็นคู่สัญญารับเหมา 4.3 ล. ลงบัญชีมีรายได้ 45,000 บาท
เป็นคู่สัญญารัฐแค่ 12 ล.! บ.รับเหมา คดีภาษี 800 ล.
ชัดขึ้น! คนทำบัญชี บ.รับเหมา คดีภาษี 800 ล. เป็น‘หุ้นส่วน’ กก.คนที่สอง
พบแล้ว! กก.หุ้นใหญ่ คนที่ 2 บ.รับเหมาคดีภาษี 800 ล. อยู่ สนง.บัญชี
บ.รับเหมา คดีภาษี 800 ล. ปั้นเอกสารจัดประชุมเปลี่ยนตัว กก.เท็จ
‘ไพบูลย์ ศรีทอง’ผู้ถูกเรียกภาษี 800 ล. ‘ผมไม่ใช่นอมินี’
เจ้าของผู้ก่อตั้ง บ.รับเหมา คดีภาษี 800 ล. ที่แท้เป็นนักการเมือง จ.ปราจีนฯ
เปลี่ยนตัว กก. หุ้นใหญ่ 2 หน หลังถูกสอบภาษี ปมสรรพากรเรียกเก็บชายชาว จ.ปราจีนฯ 800 ล.
บ.ชายวัย 42 ปี จ.ปราจีนฯ ถูกสรรพากรเรียกภาษี 850 ล. แจ้งงบฯปี 58 รายได้ 1.8 พันล.