เจาะข้อมูล บิ๊ก อสมท ปล่อย‘โฆษณาผี’โผล่คดีไร่ส้ม แต่ไม่สอบสวนเอาผิด?
“…จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้านำโฆษณาผีมาลงในใบคิวโฆษณารวม แต่ไม่มีการสอบสวนว่าโฆษณาผีเป็นรายการที่มีผู้ใดเป็นเจ้าของและมีการนำโฆษณาผีมาออกอากาศในรายการคุยคุ้ยข่าวได้อย่างไร ทั้งที่การสอบสวนจะทำให้พบมูลเหตุแห่งการทุจริต รวมถึงตัวการกระทำความผิดซึ่งรับประโยชน์โดยมิชอบอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการที่ผู้บริหารของ อสมท บกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ …”
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า กรณีโฆษณาเกินเวลาระหว่างบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ถูกคณะทำงาน ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบหลักฐานใหม่ว่า การโฆษณาเกินเวลาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ดำเนินรายการโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา (อดีตพิธีกรชื่อดัง และเจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด) เกิดจากการกระทำของผู้บริหาร อสมท ทั้งสิ้น โดยมีส่วนรู้เห็น และเซ็นอนุมัติใบคิวโฆษณาต่าง ๆ มาโดยตลอด
ขณะที่คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ถูกตั้งมาตรวจสอบ รวมถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กลับตรวจสอบในส่วนของโฆษณาเกินเวลาจากฝั่งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ตรวจสอบในฝั่ง อสมท ทำให้การไต่สวนข้อเท็จจริงในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง คณะทำงาน กมธ.สื่อฯ สนช. จึงสรุปความเห็นเสนอต่อนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.ยุติธรรม สตง. ป.ป.ช. และผู้บริหาร อสมท เพื่อดำเนินการต่อไป (อ่านประกอบ : เปิดข้อมูลเด็ด! มัดบิ๊ก อสมท เซ็นอนุมัติใบคิวแต่ปล่อย? โฆษณาเกินเวลาคดีไร่ส้ม)
เบื้องต้น นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รับทราบรายงานผลดังกล่าวแล้ว และส่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเตรียมเสนอที่ประชุมกรรมการ อสมท ต่อไป ส่วน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าหากมีประเด็นใหม่ ก็พร้อมจะไต่สวนเพิ่มเติมได้ (อ่านประกอบ : รอชง กก.อสมท พิจารณาปม กมธ.สื่อฯ สนช.พบหลักฐานใหม่คดีไร่ส้ม-ป.ป.ช.ยังไม่เห็นเรื่อง)
นอกเหนือจากกรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการโฆษณาเกินเวลาขึ้นแล้ว คณะทำงานฯ ยังพบกรณีมีใบคิวโฆษณาที่ไม่ระบุว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า ‘โฆษณาผี’ เกิดขึ้นด้วย ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานของคณะทำงานฯ ในส่วนของโฆษณาผีให้ทราบ ดังนี้
จากการศึกษาพบว่า นอกจากผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จะละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบรายงานโฆษณาส่วนเกินแล้ว ยังปล่อยปละละเลยโดยไม่สอบสวนการโฆษณาที่มิใช่ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด มาลงในใบคิวโฆษณารวมและแพร่ภาพออกอากาศ
ในรายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีพลตำรวจเอก ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2548 และวันที่ 3 พฤษภาคม 2549 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 เจ้าหน้าที่และธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริต ได้จัดทำใบคิวโฆษณารวมของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ในรายการคุยคุ้ยข่าว โดยแจ้งโฆษณาบางรายการว่าเป็นของโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ครั้นเมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบโฆษณาบางรายการดังกล่าวไม่ใช่รายการโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไร่ส้ม จำกัด แต่เป็นโฆษณาแฝงหรือที่เรียกว่า “โฆษณาผี” มีรายการโฆษณาสินค้าเป็นของบริษัท เบนเฮอร์ แอดเวอร์ไทด์ซิ่ง จำกัด บริษัท ยูนิค แพลนเนอร์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ฮิป ฮิป ฮูเรย์ ครีเอชั่น จำกัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ธุรกิจอาวุโสฝ่ายกฎหมายธุรกิจในขณะเกิดเหตุ ได้ฝากให้เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริต นำไปลงโฆษณาในรายการคุยคุ้ยข่าว อันเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นำรายการโฆษณามาให้เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าลงในใบคิวโฆษณารวมโดยระบุว่าเป็นรายการโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
แต่ในความจริงพบว่าเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริตได้นำสินค้าดังกล่าวไปโฆษณาในรายการคุยคุ้ยข่าว และเป็นผู้รับเงินค่าโฆษณารายการดังกล่าวเป็นของตนเอง ทำให้ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เสียหายไม่ได้รับเงินค่าโฆษณาดังกล่าว คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,130,000 บาท อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่
นอกจากนั้น ในรายการผลสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริงที่พลตำรวจเอก ประทิน สันติประภพ เป็นประธานมีข้อเสนอแนะให้บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เรียกเงินค่าโฆษณาผีจากเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้า และผู้อำนวยการสำนักกลยุทธ์การตลาดในขณะนั้น จำนวน 1,130,000 บาท แต่กระทั่งปัจจุบัน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้ดำเนินคดีแก่ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้า และผู้บริหารสำนักกลยุทธ์การตลาดดังกล่าวแต่อย่างใด
จึงมีความเห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้านำโฆษณาผีมาลงในใบคิวโฆษณารวม แต่ไม่มีการสอบสวนว่าโฆษณาผีเป็นรายการที่มีผู้ใดเป็นเจ้าของและมีการนำโฆษณาผีมาออกอากาศในรายการคุยคุ้ยข่าวได้อย่างไร ทั้งที่การสอบสวนจะทำให้พบมูลเหตุแห่งการทุจริต รวมถึงตัวการกระทำความผิดซึ่งรับประโยชน์โดยมิชอบอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการที่ผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ จึงเห็นสมควรให้นำผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่พลตำรวจเอก ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน มาพิจารณาและดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวให้ครบถ้วน ทั้งนี้ ยังเห็นว่าสมควรดำเนินการตรวจสอบเรื่องโฆษณาผีต่อไปและหากพบว่ามีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันคณะทำงานฯ ยังตรวจสอบพบพยานหลักฐานสำคัญเรื่องบัญชีเงินฝากของเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้า ซึ่งถูกกล่าวหาอ้างว่ากระทำการทุจริต ไม่ได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากอย่างครบถ้วน ทำให้ผลการสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้ทั้งหมด ผิดต่อหลักธรรมาภิบาล และหลักนิติธรรม
จากการศึกษาพบว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุ เดือนมกราคม 2548 ถึงเดือนธันวาคม 2549 มีเงินฝากและเช็คที่สั่งจ่ายให้เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริต ที่มิใช่ของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด อีก 46 รายการ รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 3,100,000 บาท แต่กลับมีการตรวจสอบเพียงธุรกรรมการฝากเช็คเพียง 7 ฉบับ ของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ซึ่งจำนวนเงินสั่งจ่ายตามเช็คแต่ละฉบับมีหน่วยเป็นตัวเลขทศนิยม รวมเป็นเงิน 730,000 บาทเศษ ส่วนเงินและเช็คที่ฝากเข้าบัญชีจำนวน 46 ครั้ง จำนวนเงินแต่ละครั้งเป็นตัวเลขถ้วน กลับไม่มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินแต่อย่างใด
เมื่อพิจารณาจากการที่เจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการนำรายการโฆษณาผีที่ไม่ปรากฏเจ้าของจำนวนหลายรายการมาออกอากาศในรายการคุยคุ้ยข่าว ผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในขณะเกิดเหตุ ย่อมมีหน้าที่ต้องตรวจสอบความผิดปกติของรายการเดินบัญชีเงินฝากของเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้า ซึ่งมีการนำเงินจำนวนสูงผิดปกติเข้าฝากในระหว่างช่วงเวลาเกิดเหตุ เนื่องจากการสอบสวนดังกล่าวอาจนำไปสู่การพบเห็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตเรื่องรายการโฆษณาผี แต่ผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ก็หากระทำไม่ ส่อแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินงาน ความไม่สุจริตใจในการดำเนินกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความสงสัยว่าผู้บริหารของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จักต้องกระทำตามกฎหมาย
คณะทำงานจึงเห็นว่า สมควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาของเงินฝากในบัญชีของเจ้าหน้าที่ธุรการฝ่ายสนับสนุนและบริการลูกค้าซึ่งถูกกล่าวอ้างว่ากระทำการทุจริตในช่วงระหว่างเวลาเกิดเหตุให้ครบถ้วน หากมีการตรวจสอบพบที่มาของเงินอันเกิดจากการกระทำโดยทุจริตให้ดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยเร็วและให้อยู่ภายในกำหนดอายุความ เพื่อประโยชน์ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ต่อไป
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยตรวจสอบพบว่า ผู้ถือหุ้นบริษัท เบนเฮอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด มีความเชื่อมโยงกับ เจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายกฎหมายธุรกิจ อสมท รายหนึ่ง (อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่ บริษัทเครือญาติคน อสมท โยง“โฆษณาผี”คดีไร่ส้ม 138 ล้าน)
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2562 สำนักข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท เบนเฮอร์ แอดเวอร์ไทด์ซิ่ง จำกัด ยังดำเนินกิจการอยู่ ส่วน บริษัท ยูนิค แพลนเนอร์ กรุ๊ป จำกัด เลิกกิจการไปแล้ว (เสร็จการชำระบัญชี) ส่วนบริษัท ฮิปฮิปฮูเรย์ครีเอชั่น จำกัด ไม่พบข้อมูล
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ส่อเจตนาทุจริตร้ายแรง!พฤติการณ์บิ๊ก อสมท ‘จงใจตลอดมา’ โฆษณาเกินเวลาคดีไร่ส้ม?
กมธ.สื่อฯพบหลักฐานใหม่คดีไร่ส้ม อสมท โฆษณาเกินเวลาด้วย-บิ๊กพัวพันอื้อไม่เคยถูกสอบ
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก http://www.shuanghor.co.th