- Home
- Isranews
- เอ็กซ์คลูซีฟ:เปิดคำให้การ'นพ.ณรงค์' รับเขียนใบลาออกก่อนเป็นปลัดสธ.-คนบ้านเดียว 'เสี่ยเปี๋ยง'
เอ็กซ์คลูซีฟ:เปิดคำให้การ'นพ.ณรงค์' รับเขียนใบลาออกก่อนเป็นปลัดสธ.-คนบ้านเดียว 'เสี่ยเปี๋ยง'
"... เคยยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งในครั้งแรกแล้ว โดยพยานอธิบายว่าเนื่องจากก่อนที่ตนจะได้รับเสนอชื่อให้เข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเลือกให้เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในขณะนั้น คือ นายวิทยา ได้ขอให้ตนยื่นหนังสือลาออกไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับตำแหน่งเสียอีกเป็นการยื่นตามที่รัฐมนตรีให้ยื่นโดยกรอกข้อความในเอกสารการลาออกจากตำแหน่งไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว..."
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้การต่อศาลในคดีอย่างไร?
คือ ข้อมูลสำคัญอีกชุดหนึ่ง ที่ยังไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับทราบเป็นทางการ ต่อกรณีศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทกลุ่มแพทย์ชนบท จำนวน 9 ราย ประกอบไปด้วย นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์พรเจริญ เจียมบุญศรี นายแพทย์รอชาลี ปัตยะบุตร นายแพทย์บรรพต พินิจจันทร์ และนายแพทย์ปวิตร วณิชชานนท์ กรณีทำหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คัดค้านการกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่ถูกออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงเดือนมิ.ย.2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุถึงพฤติการณ์ นพ.ณรงค์ ว่า “มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งปลัดสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสุขภาพ เดินทางไปฮ่องกงเพื่อไปพบอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อของตำแหน่ง โดยหลีกเลี่ยง เดินทางผ่านโครงการความร่วมมือกับ Hunan Department of Health เมื่อวันที่ 15-21 มิ.ย. 2555 โดยเดินทางจากประเทศไทยถึงกวางโจว แล้วได้เดินทางโดยรถไฟฟ้า เอ็มอาร์ที เข้าฮ่องกงโดยใช้เวลาเพียง 1 ชม. และได้ขออนุมัติให้เจ้าของบริษัทด้านจิตเวชเดินทางไปพร้อมกับคณะเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง ซึ่งสวนทางกับหลักธรรมาธิบาล ที่มักกล่าวอ้างต่อสาธารณชนเสมอ ส่อเจตนาทุจริตและได้มีการออกนอกเส้นทาง โดยไม่ได้ขออนุมัติปลัดกระทรวงสาธารณสุขก่อน" ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ฯ ก็มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เนื่องจากเห็นว่าคำอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้นตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว (อ่านประกอบ : ศาลอุทธรณ์ยืนหมอชนบทไม่หมิ่นอดีตปลัด สธ.-ยื่นร้อง’บิ๊กตู่’บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ'-บ.ยาออกค่าใช้จ่าย, เผยโฉมหนังสือหมอชนบทร้อง'บิ๊กตู่' สอบอดีตปลัดสธ.บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ'-เจ้าตัวยังไม่ชี้แจง, เปิดคำพิพากษา2ศาล หมอชนบทไม่หมิ่นอดีตปลัดสธ.-ปมยื่นร้อง’บิ๊กตู่’บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ')
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบคำให้การของ นพ.ณรงค์ ต่อศาลในคดีนี้ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีถูกระบุว่า เดินทางไปฮ่องกงพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว มาเปรียบเทียบข้อมูลที่ปรากฎในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฯ พบว่ามีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
@ ประเด็นที่หนึ่ง เรื่องการเดินทางไปงานที่ประเทศจีน
- เนื้อหาคำพิพาษาศาลอุทธรณ์ ระบุถึงเรื่องเดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับอดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อขอตำแหน่ง โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านโครงการความร่วมมือกับ Hunan Provincial Department of Health เมื่อวันที่ 15-21 มิ.ย.2555 โดยเดินทางจากประเทศไทยถึงกวางโจว แล้วได้เดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT เข้าฮ่องกงโดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง และได้ขออนุมัติให้เจ้าของบริษัทยาด้านจิตเวชเดินทางไปพร้อมคณะเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง ซึ่งจำเลยที่ 1 ระบุว่า ทราบข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิตรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า เดิมที่ผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิตรายนี้ จะต้องเดินทางไปเมืองหูหนานในโครงการดังกล่าว แต่เมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง โจทก์ที่ครั้งแรกเลือกเดินทางไปเมืองฮาบินได้มาขอแลกการเดินทางโดยไม่ทราบเหตุผล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิตรายนี้ จึงเกิดความสงสัย และได้สอบถามคณะเดินทางเมื่อมีการเดินทางกลับมา ทราบว่า โจทก์เดินทางออกนอกเส้นทางและไม่ได้เข้าร่วมสัมมนาที่เมืองหูหนาน โดยให้นายแพทย์อีกรายหนึ่ง เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในนามประเทศไทยแทน ขณะที่คณะที่เดินทางไปกับโจทก์มีการไปดื่มไปตีกอล์ฟ เจ้าหน้าที่จีนเห็นว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบที่จะต้องจ่ายเงินให้ จึงให้เจ้าของบริษัทยาด้านจิตเวช เป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในจีน
นพ.ณรงค์ ให้การต่อศาลว่า การเดินทางไปประเทศจีนของคณะตนเอง ไปประชุมกับคณะแพทย์เมืองหูหนานโพวิลชียล โดยออกเดินทางจากประเทศไทยในวันที่ 16 มิ.ย.2555 กลับก่อนกำหนดโดยกลับวันที่ 21 มิ.ย.2555 แต่ช่วงที่อยู่ในระหว่างการเจรจาหรือประชุมกับคณะแพทย์ เมืองหูหนานนั้น เป็นไปตามหมายกำหนดการที่มีอยู่ แต่จำไม่ได้ว่าไปที่ใดบ้างและพักที่ใดบ้าง นอกจากนี้ ยังจำหัวหน้าคณะเดินทางฝ่ายจีนที่เข้าร่วมเจรจากับตนเองไม่ได้ ตำแหน่งอะไรก็จำไม่ได้ โดยเป็นการประชุมร่วมกันในด้านจิตเวชและเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านจิตเวช การศึกษา การแลกเปลี่ยนร่วมกัน ถึงแนวทางการทำงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวช โดยตนเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในนามฝ่ายไทย และต้องมีการสรุปเป็นรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเมื่อกลับมาที่ประเทศไทย โดยสามารถขอเอกสารการร่วมประชุมดังกล่าวได้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารสุข แต่รายงานระบุว่า นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์วรจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ในขณะนั้น ที่ร่วมคณะเดินทางไปด้วย เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์แทนฝ่ายไทย
นพ.ณรงค์ ยังให้การว่า ในการเดินทางไปหูหนานประเทศจีนเพื่อร่วมประชุมหรือดูงานดังกล่าวนั้น ความจริงแล้วกลุ่มของตน จะต้องเดินทางไปที่เมืองฮาบิน ของประเทศจีน แต่ตนขอแลกกับนายแพทยทวี ตั้งเสรี โดยขอแลกมาที่เมืองหูหนานแทน ส่วนผู้อนุมัติการเดินทาง คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับ นายบุศรินทร์ วนาสวัสดิ์ เจ้าของบริษัทด้านจิตเวช ที่ถูกระบุว่าเดินทางไปพร้อมคณะเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างเดินทาง
นพ.ณรงค์ ให้การว่า มีนายบุศรินทร์ วนาสวัสดิ์ ปรากฎชื่อร่วมคณะทำงานเดินทางไปจีนด้วย แต่ยืนยันว่า ไม่รู้จัก นายบุศรินทร์ และจำไม่ได้ว่าได้สอบถามนายบุศรินทร์ หรือไม่ว่าเดินทางไปทำอะไร และไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจยาด้านจิตเวชซึ่งมีขนาดใหญ่หรือไม่
นพ.ณรงค์ ยังให้การยืนยันว่า นายบุศรินทร์ ไม่ได้เป็นผู้ช่วยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าตีกอล์ฟให้ตนในการเดินทางดังกล่าว
@ ประเด็นสอง เรื่องการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข
- เนื้อหาคำพิพาษาศาลอุทธรณ์ ระบุถึงข้อมูล นพ.ณรงค์ ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงฯ ได้เขียนใบลาออกให้นายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไว้ 2 ฉบับ ต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่จำเลยบางรายได้รับทราบจาก นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีสิทธิได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ว่า นายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดคุยกับนายแพทย์พรเทพ ว่า จำใจต้องตั้งโจทก์ แต่มีเงื่อนไขว่า ให้โจทก์เขียนใบลาออกไว้ 2 ฉบับ ต่อมาโจทก์ได้รับการแต่งตั้งจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข และต่อมา จำเลยรายหนึ่ง ได้ไปเยี่ยมนายแพทย์ประเสริิฐ หลุยเจริญ สามีของนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายประเสริฐ ได้เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่โจทก์ ได้เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีการแนะนำโดยบุคคลชื่อ 'เสี่ยเปี๋ยง' (หมายเหตุ : เสี่ยเปี๋ยง คือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด จำเลยในคดีระบายข้าวจีทูจี) ซึ่งเป็นคนจังหวัดพิจิตร บ้านเดียวกับโจทก์ และสนิทกับอดีตนายกฯ
นอกจากนี้ พยานจำเลย คือ นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ และเป็นสมาชิกชมรมแพทย์ชนบท เบิกความว่า ได้กินข้าวกับโจทก์หลายครั้ง และได้ถามโจทก์ว่า ใครสนับสนุนให้ได้ตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข โจทก์บอกว่าต้องเขียนในหนังสืองานศพเท่านั้น
นพ.ณรงค์ ให้การว่า ทราบล่วงหน้าแล้วว่า จะได้รับตำแหน่งดังกล่าวก่อนวันประกาศเนื่องจากจะต้องมีการเสนอชื่อตนเองเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณาอนุมัติแล้วจึงมีการแถลงข่าวให้ทราบก่อนที่จะมีคำสั่งประกาศตามนั้น โดยตนเองจำระยะเวลาที่ทราบล่วงหน้าไม่ได้ว่านานเท่าใด ทราบจากการติดตามข่าวมติครม.
นพ.ณรงค์ ยังให้การว่า ก่อนที่จะได้รับแต่งตั้ง จำไม่ได้ว่าเคยพูดกับใครหรือไม่ว่าจะได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวง และจำไม่ได้ว่ามีคนถามว่า ได้เป็นปลัดกระทรวงเพราะเหตุใด และจำไม่ได้ว่าตอบไปว่า "จะบันทึกไว้ในหลุมศพว่าใครเป็นคนช่วยให้เป็นปลัดหรือไม่ จำไม่ได้ว่า ผู้ถามคือ นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิหรือไม่ข้าฯ จำไม่ได้"
นพ.ณรงค์ ยังให้การว่า ไม่ทราบว่า จะมีข่าวว่านายวิทยา ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอชื่อนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข แทนนายแพทย์ไพจิตร วราชิต ตามที่ทนายจำเลยถามหรือไม่
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเองได้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะอธิบดีกรมสุขภาพจิต เพื่อเข้ารับคัดเลือกดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนประเด็นเรื่องการเขียนใบลาออกให้นายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไว้ 2 ฉบับ นั้น นพ.ณรงค์ ให้การว่า เคยยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งในครั้งแรกแล้ว โดยพยานอธิบายว่าเนื่องจากก่อนที่ตนจะได้รับเสนอชื่อให้เข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเลือกให้เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในขณะนั้น คือ นายวิทยา ได้ขอให้ตนยื่นหนังสือลาออกไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับตำแหน่งเสียอีกเป็นการยื่นตามที่รัฐมนตรีให้ยื่นโดยกรอกข้อความในเอกสารการลาออกจากตำแหน่งไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง เสี่ยเปี๋ยง หรือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร นั้น นพ.ณรงค์ ให้การว่า รู้จักกับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่เปี่ยง ซึ่งเป็นคนจังหวัดพิจิตร บ้านเดียวกับตน และทราบจากข่าวว่า เป็นบุคคลคนสนิทของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในคำให้การของ นพ.ณรงค์ ยังมีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหลายประเด็น รวมถึงความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น อาทิ เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ได้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจการปกครองจากนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ และคณะกรรมการปฏิรูปด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และยังสำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นเดียวกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่ร่วมทำการปฏิบัติกับพล.อ.ประยุทธ์
นพ.ณรงค์ ยังให้การว่า เคยได้รับนกหวีดทองคำ จากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำกลุ่ม กปปส. ที่ต่อต้านรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มดังกล่าว แต่ทางทีม กปปส. มาเยี่ยมข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มาพบตนเป็นการส่วนตัว กปปส. ไปเยี่ยมข้าราชการทุกกระทรวงไม่ได้เจาะจงมาหาตนเพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
อ่านประกอบ :
ศาลอุทธรณ์ยืนหมอชนบทไม่หมิ่นอดีตปลัด สธ.-ยื่นร้อง’บิ๊กตู่’บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ'-บ.ยาออกค่าใช้จ่าย
เผยโฉมหนังสือหมอชนบทร้อง'บิ๊กตู่' สอบอดีตปลัดสธ.บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ'-เจ้าตัวยังไม่ชี้แจง
เปิดคำพิพากษา2ศาล หมอชนบทไม่หมิ่นอดีตปลัดสธ.-ปมยื่นร้อง’บิ๊กตู่’บินขอเก้าอี้ 'ทักษิณ'
เผยยอด12คน ร่วมคณะ 'นพ.ณรงค์' ไปจีน ก่อนถูกร้องปมขอเก้าอี้'ทักษิณ'-ยันมีชื่อเจ้าของบ.ยา