- Home
- Isranews
- ปูดเงินลงขัน29ล.เหลือ8หมื่น! คนในตลาดประชารัฐนนท์ ร้องสอบซื้อจ้าง มีเงินทอน1ล.ตัดสูทแจกกก.
ปูดเงินลงขัน29ล.เหลือ8หมื่น! คนในตลาดประชารัฐนนท์ ร้องสอบซื้อจ้าง มีเงินทอน1ล.ตัดสูทแจกกก.
ตลาดประชารัฐนนท์ ระอุ! ตัวแทนกองทุนฝ่ายค้าน เปิดฉากงัดข้อมูลถล่มหนัก ปูดผ่านไป 1 ปี เงินลงขันกว่า 29 ล้าน เหลืออยู่จริงแค่ 8 หมื่นเศษ สาวลึกพบหลักฐานข้อมูลไม่โปร่งใสเพียบ บ.คนสทบ. รับงานก่อสร้างได้เงินจริง 21 ล. เผยมีปัญหาโอนเงินกลับ 1 ล้าน ตัดสูทให้กก.คนละชุดด้วย ส่งหลักฐานสตง.สอบแล้ว ด้านฝั่งบริหารฯ ยันขั้นตอนดำเนินงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ชี้ปัญหาการเมืองภายใน มีคนจ้องใส่ร้ายให้ข้อมูลลบสื่อ ด้านตัวแทนเอกชนแจงจ่ายเงินคืน1 ล้าน -ตัดสูท แค่ให้ความช่วยเหลือ
ความคืบหน้าล่าสุดกรณี สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ร่วมกับทีมงานเพจต้องแฉ https://www.facebook.com/mustshareofficial/ ตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวน 28 ล้านบาท ซึ่งมีที่มาจากเงินที่รัฐบาลจัดสรรให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) นำไปจัดสรรต่อให้กับกองทุนหมู่บ้านแต่ละกองทุน ก่อนที่กองทุนจะนำเงินมาลงทุนร่วมกัน โดยโครงการปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกองทุนจำนวน 58 แห่ง ลงขันรวมลงทุนแห่งละ 5 แสนบาท
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2561 มีตัวแทนกองทุนในจำนวน 58 แห่ง ที่ลงขันรวมลงทุนแห่งละ 5 แสนบาท จัดทำโครงการปรับปรุงตลาดประชารัฐ จ.นนทบุรี ดังกล่าว ได้เข้าร้องเรียนสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานโครงการนี้เป็นทางการ พร้อมนำเอกสารหลักฐานจำนวนหนึ่งมามอบให้เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง
โดยตัวแทนกองทุนรายนี้ ระบุว่า จุดเริ่มต้นปัญหาการดำเนินงานโครงการปรับปรุงตลาดประชารัฐจ.นนทบุรี เกิดขึ้นจากตัวแทนกองทุนบางส่วน เริ่มมีความสงสัยการใช้จ่ายเงินของคณะกรรมการบริหารโครงการ หลังจากได้รับทราบข้อมูลว่า ปัจจุบันผ่านมาเพียงแค่ 1 ปี เงินทุนที่ร่วมลงขันกันจำนวน 29 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 8.2 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งเดิมที่มี 58 กองทุน ลงขันเงินกองทุนละ 5 แสน วงเงินรวมอยู่ที่ 28 ล้าน แต่ต่อมาพบว่ามีอีก 2 กองทุนลงขันเงินเพิ่มอีก 1 ล้าน ทำให้วงเงินลงขันทั้งหมดอยู่ที่ 29 ล้านบาท แต่เมื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องการใช้จ่ายเงินต่างๆ กลับไม่ได้รับคำชี้แจง จึงทำให้เริ่มมีการตรจสอบข้อมูลกันเองภายใน และพบข้อพิรุธการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก
ตัวแทนกองทุนรายนี้ กล่าวอีกว่า ในส่วนข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นั้น จากการตรวจสอบพบว่า มีการแยกงานออกเป็นส่วนๆ โดยในส่วนงานก่อสร้างปรับปรุงตลาด ที่บริษัท กฎหมายเมืองทอง จำกัด ที่มีข้าราชการใน สทบ. เป็นเจ้าของ ได้รับงานไป นอกจากงานว่าจ้างตามสัญญาจำนวน 14 ล้านกว่าบาท แล้ว ยังได้รับงานก่อสร้างเพิ่มเติมไปอีก 7.5 ล้านบาท รวมค่าทาสีอีก 1 ล้านบาท และทราบมาว่าภายหลังจากที่บริษัทได้รับงานไปแล้ว บริษัทมีการจ่ายเงินคืนให้กับคณะกรรมการบริหารโครงการ จำนวน 1 ล้านบาท และยังตัดชุดสูทให้กับคณะกรรมการอีกคนละ 1 ชุด ด้วย ส่วนการจัดซื้อรถราง จำนวน 4 คัน เพื่อใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม พบว่า ตั้งราคาจัดซื้อไว้คันละ 5.2 แสนบาท มีเอกชนรายหนึ่งเข้ามารับงาน นี่ยังไม่นับรวมการใช้จ่ายเงินส่วนอื่น ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้จ่ายเงินไปจำนวนมาก แต่งานที่ได้รับไม่คุ้มค่าด้วย
"ที่ผ่านมา เราได้นำเอกสารหลักฐานไปยื่นเรื่องต่อหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 3 จว.นครปฐม ให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบัน สตง.ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมีเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ และทราบมาว่า มีคนบางกลุ่มพยายามที่จะทำเอกสารหลักฐานรายงานการประชุมเท็จ ไปชี้แจงกับสตง.ด้วย จึงอยากให้อิศราช่วยเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกแรงหนึ่ง"
ด้าน นายเอกศิษฐ์ ศรวิเศษ ประธานโครงการตลาดประชารัฐอำเภอปากเกร็ดของดีวิถีนนท์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า การดำเนินงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นความตั้งใจของชุมชนในการจัดทำโครงการร่วมกัน การดำเนินงานทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการจัดทำเอกสารหลักฐานยืนยันข้อมูลไว้ชัดเจนถูกต้องครบถ้วน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตนมองว่า น่าจะเป็นปัญหาการเมืองภายในของคณะกรรมการกันเอง มีคนไม่หวังดี ออกมาเคลื่อนไหวให้ข้อมูลด้านลบโจมตี
"ในข้อเท็จจริงผมกับคณะกรรมการบางส่วน เราเตรียมแผนงานพัฒนาตลาดไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการตลาดมากขึ้น ทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อให้การดำเนินงานโครงการตามนโยบายของรัฐ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าประสบความสำเร็จ แต่ขณะนี้ติดขัดปัญหาเรื่องการถูกตรวจสอบจาก สตง. ทำให้งานต้องหยุดชะงักไป ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการส่งเอกสารหลักฐานให้ สตง.ไปแล้วทั้งหมด เชื่อว่าถ้าผ่านปัญหาอุปสรรคตรงนี้ไปได้ การดำเนินงานตลาดจะกลับมาประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน"
ขณะที่ตัวแทนจากบริษัท กฎหมายเมืองทอง จำกัด ติดต่อชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศรา เพิ่มเติมว่า กรณีที่ปรากฎข้อมูลว่า บริษัทฯ ได้ทำหนังสือขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% จำนวนเงิน 75,750 บาท จากคณะกรรมการบริการโครงการนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า เหตุผลที่บริษัทต้องทำหนังสือถึงคณะกรรมการบริหารโครงการตลาดเพื่อคืนเงินภาษี เป็นเพราะในการจ่ายเงินค่างวดก่อสร้างงานที่ผ่านมา ทางผู้ว่าจ้างได้หักเงินภาษีจำนวนนี้เอาไว้เอง เนื่องจากในช่วงนั้นยังมีปัญหาเรื่องความชัดเจนเรื่องการจ่ายภาษีในการดำเนินงานของกองทุนต่างๆ ร่วมถึง สทบ.ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่บริษัทต้องปิดบัญชีงบดุล ทำให้เกิดปัญหาเรื่องข้อมูลภาษีของบริษัท จึงต้องทำเรื่องถึงคณะกรรมการเพื่อขอคืนเงินภาษีจำนวนนี้คืน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาทางบัญชีของบริษัท
ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการได้รับงานว่าจ้างส่วนที่เพิ่มขึ้นมาอีก 7.5 ล้านบาท นั้น ตัวแทนบริษัท กฎหมายเมืองทอง จำกัด ชี้แจงว่า งานส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาทุกรายการเป็นความต้องการของผู้ว่าจ้าง ที่ต้องการให้บริษัททำงานเพิ่ม เพราะงานบางส่วนไม่มีอยู่ในแบบตั้งแต่ต้น แต่ในขั้นตอนการดำเนินงานบริษัทได้มีการจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายแจ้งให้ผู้ว่าจ้างนำเข้าที่ประชุมพิจารณาก่อนทุกครั้ง ส่วนค่าทาสีอีก 1 ล้านบาท ก็นับรวมอยู่ในวงเงินจำนวน 7ล้านกว่าบาทด้วย เหตุที่มีราคาเแพง เพราะถูกกำหนดให้ใช้สีทีโอเอซึ่งมีราคาสูงเท่านั้น และกระบวนการทาสีก็มีหลายขั้นตอน
"ส่วนการที่บริษัทจ่ายเงินให้กับคณะกรรมการจำนวน 1 ล้านบาท รวมถึงการตัดชุดสูทให้กรรมการคนละ 1 ชุด หลังได้รับงาน นั้น เป็นความหวังดีของบริษัท ที่เห็นว่า คณะกรรมการแต่ละคนที่มาทำงานนี้ มีค่าจ่ายใช้จำนวนมาก เวลามาประชุมต้องมีค่ารถ จึงอยากให้การช่วยเหลือ กรรมการบางคนเขาเดือดร้อนจริงๆ ส่วนชุดสูท ก็เป็นการให้ความช่วยเหลือเช่นกัน เนื่องจากในช่วงการจัดงานเปิดตลาดมีผู้ใหญ่ มีรัฐมนตรีมาร่วมเปิดเงิน แต่คณะกรรมการไม่มีชุดที่เหมาะใส่ ทางบริษัทจึงช่วยเหลือช่วยสนับสนุนให้ก็เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องการว่าจ้างงาน"
ตัวแทนบริษัท กฎหมายเมืองทอง จำกัด ยืนยันว่า "การเข้ามารับงานปรับปรุงก่อสร้างตลาดประชารัฐจังหวัดนนทบุรีครั้งนี้ ทางบริษัทไม่ได้กำไรอะไรเลย มีแต่จะขาดทุนด้วยซ้ำ เนื่องจากระยะเวลาในการดำเนินงานมีแค่ 100 กว่าวัน ทำให้เราต้องเอาเวลางานก่อสร้างโครงการอื่นมาทุ่มให้ตรงนี้หมด ทำให้บางงานที่รับไว้ต้องเสียค่าปรับด้วย เป็นภาระที่บริษัทต้องรับผิดชอบเพิ่มเติม แต่เราก็ยอมเพราะตั้งใจช่วยเหลืองานตามนโยบายของรัฐบาล อยากให้ออกมาดีที่สุด"
อ่านประกอบ :
ตลาดประชารัฐนนท์งานเข้า! สตง.ลุยสอบใช้เงินหลวง28 ล.ไม่คุ้มค่า-เรียกผู้เกี่ยวข้องให้ปากคำ
จริงหรือ? ที่แท้บริษัทคน สทบ. ได้งานก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐนนท์ 28 ล.
ย้ายออกไปแล้ว2ด.! บุกพิสูจน์ บริษัทคน สทบ.? คว้างานก่อสร้างปรับปรุงตลาดประชารัฐนนท์28ล.
ชัดแล้ว! บ.ก่อสร้างตลาดประชารัฐนนท์ เจ้าของคน สทบ.- ตัวแทนยันแข่งงานตามขั้นตอนโปร่งใส