แพร่ภาพ-วีดีโอถูกซ่อมผิดด้วย!คำสั่ง ทบ. ฝึกทหารใหม่ห้ามทำร้ายร่างกายเด็ดขาด
เปิดหนังสือคำสั่ง ทบ. กรณีฝึกทหารใหม่ เน้นย้ำให้เริ่มจากเบาไปหนัก ใช้วิธีออกกำลังกายให้เหมาะสม การลงทัณฑ์ห้ามทำร้ายร่างกายเด็ดขาด ฝ่าฝืนลงโทษถึงขั้นไล่ออกราชการ ย้ำชัดห้ามกำลังพลแพร่ภาพนิ่ง-วีดีโออาวุธ การฝึก การลงทัณฑ์ ปรับปรุงลักษณะทหาร หากทำให้ ทบ. เสียชื่อเสียง ผิดตาม พ.ร.บ.วินัยทหารฯ ด้วย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา กองทัพบก ออกหนังสือด่วนมาก ลงนามโดย พล.อ.วีรชัย อินทุโศภณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ทำการแทน ผบ.ทบ. ระบุเนื้อหาเน้นย้ำการปฏิบัติเกี่ยวกับการฝึกทหารใหม่ และการปลดทหารกองประจำการ โดยให้ปลูกฝังอุดมการณ์ทางทหาร ความเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อปลดประจำการไปแล้ว ให้ประกอบอาชีพสุจริต
สำหรับการฝึกทหารใหม่ผลัดที่ 1/2561 ซึ่งเริ่มต้นการฝึกไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมานั้น กองทัพบก เน้นย้ำให้กำหนดมาตรการควบคุมการฝึกให้เป็นไปตามขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก ใช้วิธีการออกกำลังกายให้เหมาะสม ดูแลความเป็นอยู่ให้ถูกสุขลักษณะ สำหรับการลงทัณฑ์จะต้องเป็นไปตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่กระทรวงกลาโหมกำหนดเท่านั้น ห้ามใช้กำลังทำร้ายร่างกาย และการกลั่นแกล้งอันมีลักษณะเป็นการกระทำลามกอนาจาร หากมีการกระทำเกิดขึ้น กองทัพบกจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด โดยจะดำเนินการด้านกำลังพลถึงขั้นปลดออกจากราชการ และจะดำเนินคดีอาญากับกำลังพลที่เกี่ยวข้องด้วย
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงการฝึกทหารใหม่ ที่สภาพอากาศร้อน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อน หรือฮีทสโตรก ให้หน่วยฝึกทหารใหม่ปฏิบัติตามคู่มือการฝึกอย่างเคร่งครัด โดยให้ครูฝึก และผู้ช่วยครูฝึก ติดตามและสังเกตการณ์ผู้เข้ารับการฝึก ที่สำคัญคือจะต้องไม่มีกำลังพลเสียชีวิตจากการบาดเจ็บจากโรคลมร้อนเป็นอันขาด
ขณะเดียวกันได้กำหนดมาตรการชี้แจงทำความเข้าใจ ห้ามกำลังพลเผยแพร่ภาพนิ่ง หรือคลิปวีดีโออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร การฝึก การลงทัณฑ์ และการปรับปรุงลักษณะทหารของทหารกองประจำการในลักษณะที่ไม่เหมาะสมผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยเด็ดขาด ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลให้กองทัพบกเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้ถือว่ากำลังพลที่กระทำการดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันแต่ละหน่วยของกองทัพบกได้จัดตั้งหน่วยฝึกทหารใหม่ ของทหารกองประจำการผลัดที่ 1/2561 ไปแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา โดยใช้ระยะเวลาการฝึกประมาณ 10 สัปดาห์
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก กองพลพัฒนาที่ 4