1 มี.ค. ศาลยุติธรรม ดีเดย์ใช้กำไลEM แก้ปัญหาไร้เงินประกัน-ปล่อยตัวชั่วคราว
ศาลยุติธรรมพร้อมใช้กำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) 1 มี.ค.นี้ จับมือกรมคุมประพฤติเชื่อมต่อข้อมูล หวังแก้ปัญหาคนล้นคุก หลบหนี ยากจนไม่มีเงินประกันตัว
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ชั้น 12 ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของบุคคลมาใช้ในการปล่อยชั่วคราวของศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Center) หรือที่เรียกว่า อุปกรณ์ EM มาใช้แทนการวางเงินประกันกรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งมีกำหนดจะเปิดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พร้อมระบบที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 1 มีนาคม 2561 นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนีในชั้นปล่อยชั่วคราว ปัญหาความยากจนไม่มีเงินประกันตัวทำให้คนยากจนถูกควบคุมตัวเกือบทุกกรณี และเสียโอกาสได้รับการปล่อยชั่วคราว ทำให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม และลดปริมาณผู้ต้องขังหรือผู้ต้องโทษในเรือนจำด้วย
ขณะนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมมีศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นศูนย์กลางการควบคุม และมีระบบที่พร้อมตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทาง ซึ่งเปิดดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อใช้กับศาลนำร่องจำนวน 23 ศาล ได้แก่ ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และศาลตามภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 (จังหวัดสระบุรี) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 (จังหวัดสุรินทร์) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 (จังหวัดขอนแก่น) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 (จังหวัดเชียงใหม่) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 (จังหวัดพิษณุโลก) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 (จังหวัดนครศรีธรรมราช) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 (จังหวัดสงขลา) ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลจังหวัดจันทบุรี ศาลจังหวัดพัทยา ศาลจังหวัดนครราชสีมา ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลจังหวัดพิษณุโลก ศาลจังหวัดนครปฐม ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศาลจังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ ภายหลังจากการแถลงข่าว สำนักงานศาลยุติธรรมโดยนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และกรมคุมประพฤติ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและกรมคุมประพฤติ เพื่อนำมาใช้ในการสืบเสาะและพินิจจำเลย การสั่งให้ดำเนินการคุมความประพฤติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในชั้นแรกจะใช้วิธีการรับและส่งไฟล์เอกสารทางอีเมล์ภาครัฐ ส่วนการส่งไฟล์คำสั่งและรับไฟล์ผลการสืบเสาะและพินิจจำเลยกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด จะมีการแลกเปลี่ยนกุญแจระหว่างศาลยุติธรรม กับกรมคุมประพฤติสำหรับการเข้าและถอดรหัสไฟล์เอกสารเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จะเริ่มดำเนินการรับและไฟล์เอกสารระหว่างศาลยุติธรรมรวม 235 แห่ง เช่น ศาลอาญา ศาลอาญาธนบุรี ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ศาลเยาวชนและครอบครัวสาขา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลจังหวัด ศาลแขวง และศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วประเทศ กับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นต้นไป ความร่วมมือนี้ถือเป็น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดีให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงตามนโยบายของนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา