เจาะปมโฉนด 33 แปลงในป่า จ.กระบี่ ผ่าน 10 ปี ยังไม่เพิกถอน - คนทุจริต สบายดี?
เรียงลำดับเวลาปมออกโฉนด 33 แปลงในป่าสงวนฯ จ.กระบี่ เริ่มต้นปี 2548 โยนเผือกร้อน เกี่ยวพัน 5 หน่วยงาน ดีเอสไอ- กรมที่ดิน-กรมป่าไม้-กรมพัฒนาที่ดิน-ป.ป.ช. อีก 1 กมธ.ฯแจม กว่า 10 ปี เอกสารสิทธิ์ยังไม่ถูกเพิกถอน ผู้กระทำผิดยังไม่ถูกลงโทษ?
เป็นเวลากว่า 10 ปี กระบวนการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐและผู้สนับสนุนยังไปไม่ถึงศาลยุติธรรม กรณี การออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ จำนวน 51 แปลงหลังจากมีผู้ร้องเรียนตั้งแต่ปี 2548 และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สอบสวนในปี 2550
ทั้งนี้ 10 ต.ค. 2560 นางแสงระวี บงกชมาศ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ถนนมหาราชซอย 10 ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ได้ร้องเรียนต่อทีมข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศราว่าที่ดินเนื้อที่ 75 ไร่ บริเวณหมู่ 3 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ถูกกลุ่มบุคคลเอาไปออกโฉนดร่วมกับที่ดินแปลงอื่นรวม 51 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 200 ไร่ แต่การดำเนินการตรวจสอบและเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินไม่คืบหน้า
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียงลำดับความเป็นมาและเงื่อนปมกรณีดังกล่าวดังนี้
นางแสงระวี บงกชมาศ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ถนนมหาราชซอย 10 ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ อ้างว่าได้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในปี 2548 ว่า กลุ่มบุคคลร่วมกันอกโฉนดที่ดินทับซ้อนกับที่ดินของตนเอง 6 แปลง
3 ต.ค.2550 คณะกรรมการพิเศษดีเอสไอได้มีมติ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2550 รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ แล้วลงพื้นที่สอบสวน
@ ปี 51 ดีเอสไอส่งเรื่องกรมที่ดินเพิกถอน
26 พ.ย. 2551 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (โดย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีปฏิบัติราชการแทนอธิบดี ส่งเรื่องให้ อธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนโฉนด ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 33 แปลง
20 มี.ค. 2552 ดีเอสไอ ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมเอกสารจำนวน 2,852 แผ่นให้ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 5 คน มี เข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ในการออกโฉนดที่ดิน 33 แปลง
@ป.ป.ช.ตั้ง ‘วิชา’ ปธ.คณะอนุกรรมการไต่สวน
18 ธ.ค.2552 คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยมี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ พล.ท.สมหมาย วงษ์มาก นายบัณฑิต สิริสาลี นายประวิตร บุตรศรี และ นายสุทธิพงษ์ รอดรัตนาทูล เป็นอนุกรรมการ มีเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาจำนวน 6 คน
17 ก.พ.2553 ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวารุจ ศิริวัฒน์) สภาผู้แทนราษฎร ฯ ทำหนังสือส่งถึงอธิบดีกรมที่ดิน ขอให้กรมที่ดิรเร่งรัดการเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวน 33 แปลง เนื้อที่ 100 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา ตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลหนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่างนางและป่าหางนาค และเป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% ขึ้นไป
@กรมที่ดินเมินความเห็นกมธ.สภาฯ
25 มี.ค.2553 นายมงคล อินทสุวรรณ์ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมที่ดิน ทำหนังสือตอบ ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวารุจ ศิริวัฒน์) สภาผู้แทนราษฎร สรุปว่าไม่สามารถดำเนินการเพิกถอนโฉนดได้ เนื่องจาก
1.จากการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลง ปรากฎการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอย่างต่อเนื่อง เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงลงนามรับรองแนวเขตครบ ผู้ปกครองท้องที่รับรองว่าไม่เป็นที่หลวงหวงห้าม หรือที่สาธารณประโยชน์แต่อย่างใด ในระหว่างประกาศแจกโฉนดที่ดินไม่ปรากฎว่ามีการโต้แย้งคัดค้าน และจากการตรวจสอบศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่-พังงา ฉบับลงวันที่ 27 ก.ย.2548 เจ้าหน้าที่ได้รายงานเสนอต่อผู้อำนวยการเดินสำรวจฯเพื่อลงนามในโฉนดที่ดินว่า บริเวณออกโฉนดไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ที่สาธารณประโยชน์ ที่สงวนหวงห้าม หรือทรัพย์สินของแผ่นดินแต่อย่างใด และไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงยังไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้
2.กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมาธิการการที่ดินฯ ว่าสภาพที่ดินของโฉนดทั้ง 33 แปลง เป็นที่เขาหรือภูเขา มีความลาดชันโดยเฉลี่ยเกิน 35% ขึ้นไป ซึ่งตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ข้อ 27 กำหนดพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปไว้เป็นป่าไม่ และประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง กำหนดบริเวณที่หวงห้าม ตามมาตรา 9 (2) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่จากการตรวจสอบเรื่องราวการออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลง ระบุว่า ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35%
จึงเห็นว่า ข้อมูลยังขัดแย้งกันอยู่ และในประเด็นนี้จังหวัดกระบี่ยังไม่ได้แจ้งผลการตรวจสอบให้กรมที่ดินทราบแต่อย่างใด กรมที่ดินจึงได้แจ้งให้จังหวัดกระบี่ ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาที่ดินในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อขอทราบว่าบริเวณที่ออกโฉนดที่ดินทั้ง 33 แปลงดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% หรือไม่ และให้หมายสีแสดงตำแหน่งโฉนดที่ดินลงในแผนที่แสดงพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 35% พร้อมทั้งให้หมายสีแสดงตำแหน่งโฉนดที่ดินและแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้ดำเนินการขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติใหม่แล้ว ลงในสำเนาระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ เพื่อประกอบการพิจารณาของกรมที่ดินด้วยแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ
@อธิบดีตั้ง กก.สอบปี 54
26 ก.ค.2554 อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งที่ 1902/2554 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน สอบสวนการออกโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ เป็นประธานกรรมการ
@ลูกน้องรายงานให้รอกรมพัฒนาที่ดิน วัดความลาดชัน
19 ธ.ค.2554 คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุด นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ รายงานผลการสอบสวนต่ออธิบดีฯว่า โฉนดดังกล่าวมีทั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความลาดชันค่อนข้างสูง บางแปลงอยู่บนที่ราบมีการครอบครองทำประโยชน์โดยการปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน คณะกรรมการการสอบสวนฯ มีความเห็นเป็นเสียงข้างมาก (3 เสียงต่อ 2 เสียง ประธานงดเสียง) ว่าควรให้กรมป่าไม้สรุปรายละเอียดยืนยันว่าโฉนดที่ดินแปลงใดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือแปลงใดอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติเดิม และเห็นควรรอผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ในการลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติเดิมก่อน และควรควรให้กรมที่ดินประสานกรมพัฒนาที่ดินตรวจสอบและเป็นหนังสือว่าโฉนดที่ดินแปลงใดอยู่ในเขตเขา , ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชัดเกิน 35 % เป็นหนังสือจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบ
@ 10 ปีดีเอสไอถามความคืบหน้าอีกรอบ
2 มิ.ย.2560 พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือแจ้ง อธิบดีกรมที่ดิน ว่า นางแสงระวี บงกชมาศ ร้องเรียนว่า เจ้าพนักงานออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบจำนวน 51 แปลง ทับซ้อนที่ดินของนางแสงระวี จำนวน 6 แปลง ดีเอสไอเห็นว่ามิใช่คดีที่เป็นคดีพิเศษ จึงขอให้กรมที่ดินดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่
29 ก.ค.2560 ทำหนังสือแจ้ง นางแสงระวี บงกชมาศ ผู้ร้องเรียนสรุปว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นกรณีกลุ่มบุคคลบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 51 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ในเขตพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งคณะกรรมการพิเศษได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2550 ให้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยพิจารณาเห็นว่าเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2552 และแจ้งให้ให้อธิบดีกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
@กรมที่ดินโยนถามจังหวัดกระบี่อีกทอด
15 ส.ค.2560 กรมที่ดิน (สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ) ทำหนังสือถึง นางแสงระวี บงกชมาศ ผู้ร้องเรียนว่า ได้แจ้งให้จังหวัดกระบี่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว หากจังหวัดแจ้งผลดำเนินการและกรมที่ดินพิจารณาผลเป็นประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป
10 ต.ค. 2560 นางแสงระวี บงกชมาศ ร้องเรียนต่อทีมข่าวพิเศษสำนักข่าวอิศราว่าการดำเนินการตรวจสอบและเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินและการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีความคืบหน้า อยากให้รฐยึดที่ดินคืนเป็นสมบัติสาธารณะ
17 ต.ค.2560 อธิบดีกรมที่ดิน เชิญผู้ร้องเรียนสอบถามข้อเท็จจริง และเดินทางไปสอบถาม ป.ป.ช.
19 ต.ค. 2560 นางแสงระวี เข้าพบกับ พ.ต.ท.มนตรี บุญยโยธิน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ อีกครั้ง
จากข้อมูลเห็นได้ว่า นับจากปี 2550-2560 กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอย่างน้อย 5 แห่ง (รวมหน่วยงานอื่นที่ถูกอ้าง) คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมพัฒนาที่ดิน และ ป.ป.ช. โดยมี คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เข้ามาร่วมสอบด้วยในช่วงปี 2553 จนถึงขณะนี้โฉนดที่ดินที่ดีเอสไอชี้ว่าออกโดยมิชอบยังไม่ถูกเพิกถอน และ ไม่มีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้องถูก ป.ป.ช.ชี้มูลเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐแล้วหรือไม่ กี่คน ใครบ้าง และหน่วยงานต้นสังกัดลงโทษหรือไม่อย่าง?
ยืดเยื้อ ยาวนาน เป็นมหากาพย์ ความเป็นธรรมยังคงต้องซื้อด้วยเวลากันต่อไป?
อ่านประกอบ:
โชว์หนังสือรองอธิบดี หัก‘ดีเอสไอ-กมธ.สภาฯ’ไม่เพิกถอนโฉนด จ.กระบี่ 33 แปลง
ดูเพลินๆ ภาพถ่ายดาวเทียมที่ดิน อดีต ส.ส.-นักธุรกิจ จ.กระบี่ ‘สีเขียว’พรึบเต็มแปลง
เปิดผลสอบโฉนด จ.กระบี่ 51 แปลง ฉบับกรมที่ดิน ชัด อดีต ส.ส.อยู่ในป่าสงวน
อดีต ส.ส.ปชป.รับที่ดินกระบี่ 2 ไร่ถูกดีเอสไอสอบเป็นของตัวเอง-ร่วมหุ้นเพื่อนซื้อหลายแปลง
‘ให้ระวังตัวเองดีๆ’อธิบดีกรมที่ดินสั่ง‘ผู้ร้อง’หลังรู้ชื่อขาใหญ่ออกโฉนดในป่า จ.กระบี่
เปิดชื่อ 23 คนยื่นออกโฉนด 33 แปลงบนเขา จ.กระบี่ สกุลดัง-อดีต ส.ส.ปชป.เจ้าของ
วิวสวย ป่าสมบูรณ์! ‘อิศรา’ลงพื้นที่ บ้านทับแขก จ.กระบี่ ออกโฉนดบนเขา 51 แปลง
เปิดผลสอบดีเอสไอมัดโฉนด 31 แปลง จ.กระบี่ อยู่บนเขา- ซี 7 กับพวก 5 คนส่อทุจริต
ฮุบที่ดินริมหาด จ.กระบี่ ออกโฉนด 200 ไร่ 1,000 ล. ร้องคดีไม่คืบ - 5 จนท.เอี่ยว