บ.ไทยรุ่งเรืองฯ ยอมไกล่เกลี่ยกลุ่มรักษ์น้ำอูน ปมค้าน รง.น้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล
บ.ไทยรุ่งเรือง อุตสาหกรรม จก. ยอมไกล่เกลี่ย ชาวบ้านโคกสะอาด อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ปมยื่นเรื่องร้องเรียน นายก อบต. อุ่มจาน ขอระงับสร้างระบบสาธารณูปโภครองรับโรงงานน้ำตาลทราย-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นกระทบทางสาธารณะ
วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 สมาชิกกลุ่มรักษ์น้ำอูน, เครือข่ายรักษ์ดอนสวรรค์เพื่อไทยสกล, เครือข่ายอินแปง, เครือกลุ่มรักษ์วานร, คณะบาทหลวงจากอัครสังฆมลฑลท่าแร่-หนองแสง และประชาชนชาวสกลนครกว่า 100 คน เดินทางมายังศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อให้กำลังใจสมาชิกกลุ่มรักษ์น้ำอูน 20 คนที่มาตามหมายนัดไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่บริษัท ไทยรุ่งเรือง อุตสาหกรรม จำกัด เจ้าของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในจังหวัดสกลนคร (โจทก์) ได้ยื่นฟ้องร้องนางสาวเดือนเพ็ญ สุดไชยา และพวกรวม 20 คน (จำเลย) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มรักษ์น้ำอูน ชาวบ้านโคกสะอาด ต.อุ่มจาน อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ฐานลงชื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุ่มจาน เมื่อวันที่ 11 พฤจิศกายน 2559 เพื่อขอให้ระงับการดำเนินการบุกเบิกพื้นที่และก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการโรงงานน้ำตาลทรายและโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทางสาธารณะและลำรางสาธารณะ
ทั้งนี้ เมื่อศาลเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าห้องพิจารณา ทนายความฝ่ายโจทก์แถลงว่า โจทก์ยังไม่ได้พูดคุยกับกลุ่มชาวบ้าน และจำเลยทั้ง 20 คนเกี่ยวกับข้อร้องเรียนคัดค้านการตั้งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทของโจทก์ ในบัดนี้จะขอเลื่อนคดีเพื่อไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวกับกลุ่มชาวบ้านก่อนหากตกลงกันได้ก็จะมาแถลงต่อศาลในนัดหน้า ฝ่ายจำเลยไม่ค้าน โดยมีการนัดไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยวประจำศาลจังหวัดสกลนครในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 นี้และศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเหตุอันสมควรให้เลื่อนไปนัดพร้อมวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 เวลา 09.00 น.
นายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความฝ่ายจำเลย กล่าวว่า รูปคดีนั้นไม่น่าลำบากอะไร เพราะชาวบ้านยื่นหนังสือต่อหน่วยงาน อบต. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากต่อไปศาลประทับรับฟ้อง ชาวบ้านคงจะต้องยากลำบาก เพราะต้องหาเงินประกันตัว หรือมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาล
ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ที่มีโครงการพัฒนาต่าง ๆ ชาวบ้านมักจะมีความขัดแย้งกับบริษัทเอกชน เเละเกิดการฟ้องคดีชาวบ้านแบบนี้ โดยผู้ฟ้องไม่ได้หวังผลในการฟ้องคดีมากนัก แต่ต้องการให้เกิดความยากลำบากแก่ชาวบ้านเท่านั้น เพื่อให้เหนื่อยเเละในที่สุดไม่อยากเรียกร้องสิทธิใด ๆ อีกต่อไป เเต่สำหรับกรณีนี้ เท่าที่เห็นชาวบ้านที่ตกเป็นจำเลยทุกคนยังเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ร่วมกันทำว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อคัดค้านโครงการนั้นทำเพื่อให้เกิดความถูกต้อง
ด้านนางสาวเดือนเพ็ญ สุดไชยา หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกฟ้องร้อง กล่าวว่า โครงการก่อสร้างโรงงานตั้งอยู่ห่างจำชุมชนเพียง 2 กม. และอยู่ห่างจากที่นาเพียง 300 เมตร การดำเนินงานในระยะเเรกระบุจะก่อสร้างโรงงานน้ำตาลขนาด 12,500 - 40,000 ตันอ้อยต่อวัน ขณะที่โรงไฟฟ้าชีวมวลที่จะสร้างในบริเวณเดียวกันกำลังการผลิต 48 - 114 เมกะวัตต์ เเต่ภายหลังจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ไม่ให้ความเห็นชอบรายงาน บริษัทฯ จึงลดขนาดโรงงานน้ำตาลลงเหลือแค่ 12,500 ตันอ้อยต่อวัน และโรงไฟฟ้าชีวมวลเหลือแค่ 48 เมกกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไข แต่ถือว่ายังคงมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะมาตั้งริมหมู่บ้าน ดังนั้น ชาวบ้านจึงต้องต่อสู้และพร้อมที่จะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด
อ่านประกอบ:22 พ.ค.ศาลจังหวัดสกลนครนัดไต่สวน บ.ไทยรุ่งเรืองฯ รง.น้ำตาล ยื่นฟ้องกลุ่มรักษ์น้ำอูน