บีทีเอส แจงไม่รับบัตรเครดิตเติมเงิน "แรบบิท" เหตุปชช.ใช้ผิดวัตถุประสงค์
BTS แจงเหตุ 1 เมษาฯ ไม่รับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเติมเงินบัตรแรบบิท เนื่องจากมีประชาชนบางกลุ่มใช้เติมเพื่อเอาส่วนลดร้านอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ใช้บริการบีทีเอส
จากกรณีที่บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไปบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการเติมเงินในบัตรแรบบิท ยกเว้นเติมเที่ยวหรือเติมเที่ยวพร้อมเติมเงินนั้น โดยผู้ถือบัตรแรบบิท ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โดยมองว่านโยบายรัฐบาลไทย พยายามลดใช้เงินสดแต่ บีทีเอสกลับทำตรงข้าม รวมทั้งที่ผ่านมาบัตรแรบบิท พยายามวางตัวเองเป็นอีมันนี่ (e-money) ส่งเสริมการตลาดให้คนใช้จ่ายผ่านบัตรได้ ผ่านร้านค้ามากมาย และยังได้ส่วนลด แต่กลับเอามาใช้เป็นเหตุผลที่จะไม่รับเติมเงินผ่านบัตรเครดิต
ในประเด็นดังกล่าว ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา โดยชี้แจงเพียงสั้นๆ ว่า การที่ทางรถไฟฟ้าบีทีเอสไม่รับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการเติมบัตรแรบบิท เพราะมีลูกค้าบางรายที่ไม่ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นประจำ มาใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตเติมเงิน เพียงแค่ต้องการได้ส่วนลดจากร้านอาหารที่ร่วมรายการเท่านั้น เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการจ่ายด้วยบัตรดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการบีทีเอสเท่านั้น
ด้านแหล่งข่าวในบีทีเอส กล่าวว่า เหตุผลหลักที่ ทางบริษัทฯ ยกเลิกการใช้บัตรเครดิตเติมเงินเพราะทางบริษัทฯ ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทบัตรเครดิต จึงต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ข้อมูล ณ ก.พ.ุ60 จำนวนผู้ใช้บริการแรบบิทมีประมาณ 7 ล้านใบ โดยบัตรแรบบิทเริ่มจากการเป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสก่อนจะเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆเสริมเข้าไป เช่น สมัครสมาชิกแรบบิท รีวอร์ดส จะได้รับสิทธิพิเศษทั้งส่วนลด การแลกของรางวัล หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติมจากการสะสมคะแนนจากร้านค้าที่เป็นพันธมิตร รวมถึงการสะสมแต้มเมื่อโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส มีร้านค้าตอบรับในการร่วมให้บริการแล้วราว 4,000 กว่าแห่ง และมีข้อมูลล่าสุดพบว่า มีการทำธุรกรรมผ่านบัตรแรบบิท ถึง 1 ล้านธุรกรรมต่อวัน ร้อยละ 15 เป็นธุรกรรมในกลุ่มรีเทล ร้านค้าปลีก ร้านค้ารายย่อย