- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เปิดปมรุกป่าพรุกะชิง อ.ปะทิว 1,400 ไร่ นักการเมืองชักใยหลังฉาก ขายกลุ่มทุน
เปิดปมรุกป่าพรุกะชิง อ.ปะทิว 1,400 ไร่ นักการเมืองชักใยหลังฉาก ขายกลุ่มทุน
เปิดปม'ขบวนการรุกป่าพรุกะชิง' อ.ปะทิว 1,460 ไร่ กอ.รมน.ชุมพร -ทหาร สอบพบใช้ชาวบ้านปลูกปาล์ม อยู่อาศัยบังหน้า นักการเมืองท้องถิ่นชักใย รอขายกลุ่มทุน โยง ‘ตัวละคร’อ่าวทุ่งทราย จับแล้ว 15 คดี
ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ มิใช่มีแค่บริเวณอ่าวทุ่งทราย หมู่ 3 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดฯ มี นายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการ จ.ชุมพร เป็นประธาน ตามคำสั่งของนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าฯ จ.ชุมพร ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรารายงานก่อนหน้านี้ หากแต่ยังมีปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าพรุกะชิงนับพันไร่ โดยนักการเมืองท้องถิ่นกลุ่มเดิมที่เกี่ยวข้องกับที่แปลงที่ดินสาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย ให้ชาวบ้านไปปลูกปาล์มบังหน้ารอการขายยกแปลงให้กลุ่มทุน (อ่านประกอบ : ยื่น'ดีเอสไอ'สอบปมที่ดินอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว-โผล่อีกรุกป่าพรุกะชิงพันไร่ ตัวละครเดิม)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำความเป็นมาของปมรุกป่าพรุกะชิงมาเสนอ ดังนี้
ป่าพรุกะชิง เป็นป่าพรุน้ำจืดที่ตั้งอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลนอ่าวทุ่งมหา ติดอยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 ตั้งอยู่ท้องที่ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เฉพาะส่วนที่เป็นป่าพรุน้ำจืด มีเนื้อที่ประมาณ 3,400 ไร่ ต่อมา ถูกบุกรุกแผ้วถางทำลาย เปลี่ยนสภาพเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ปัจจุบันไม่เหลือสภาพป่าพรุน้ำจืดที่เคยอุดมสมบูรณ์
การขอคืนผืนป่าตามยุทธการยึดคืนป่าพรุกะชิง ท้องที่ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร 16 กันยายน -16 ตุลาคม 2557
ระหว่างเดือน มิถุนายน – เดือนกรกฎาคม 2557 สถานีฯ และ กอ.รมน.จว.ชุมพร ได้รับการร้องเรียน เรื่อง การบุกรุกแผ้วถางป่า ยึดถือครอบครองป่าพรุกะชิง (บริเวณป่าพรุน้ำจืด) ท้องที่ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร รวมทั้ง ได้รับหนังสืออำเภอปะทิว ด่วนที่สุด ที่ ชพ 0518/1664 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ให้เข้าตรวจสอบป่าพรุกะชิง
กอ.รมน.จว.ชุมพร ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมประชุมในวันที่ 11 กันยายน 2557 ณ ที่ว่าการอำเภอปะทิว เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว และได้จัดทำแผนยุทธการยึดคืนป่าพรุกะชิง พร้อมแผนประกอบกำลัง มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ
1.ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพรุกะชิง และพื้นที่นอกป่าสงวนแห่งชาติบริเวณใกล้เคียง ให้กรมป่าไม้ โดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สามปาก) เป็นหน่วยงานหลัก
2.ในพื้นที่ป่าพรุ (ป่าพรุน้ำจืดพรุกะชิง) ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 15 ธันวาคม 2530 และ 17 ตุลาคม 2543 ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 (ปะทิว-ชุมพร) เป็นหน่วยงานหลัก
โดยอาศัยอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามคำสั่งที่ 64/2557 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2557 ให้หน่วยงานที่มีภารกิจและอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุก ยึดถือครอบครองทำลาย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าฯ ให้ได้ผลอย่างจริงจัง
และคำสั่งที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 ให้ดำเนินการกับนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล และผู้ที่บุกรุกแผ้วถางใหม่ ในวันที่ 16 กันยายน 2557 กอ.รมน.จังหวัดชุมพร ได้สนธิกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ รวม 16 หน่วยงาน เปิดยุทธการยึดคืนผืนป่าพรุกะชิง และเข้าตรวจสอบจับกุมผู้บุกบุกถือครองพื้นที่ดังกล่าว
ผลการดำเนินงานสิ้นสุดตามแผนยุทธการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2557 ในพื้นที่กรมป่าไม้ ดำเนินการตรวจยึดจับกุมได้ 2 คดี (ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิด) เนื้อที่ป่าที่ตรวจยึดรวม 157 ไร่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สามปาก) เป็นผู้กล่าวโทษในพื้นที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการตรวจยึดจับกุมได้ 12 คดี(ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิด) เนื้อที่ป่าที่ตรวจยึดรวม 1,393ไร่ สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 (ปะทิว-ชุมพร) เป็นผู้กล่าวโทษ
สรุปมติในที่ประชุมรวม 5 ประเด็น
1.สำรวจพื้นที่ป่าพรุจัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลที่เข้าไปทำเกษตรกรรม เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่
2.ให้สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 ร่วมกับอำเภอปะทิว ใช้มาตรการทางปกครอง เพื่อดำเนินการรื้อถอน ทำลายพืชผลอาสิน
3.ห้ามมิให้โค่น/ทำลาย/ทำประการใด ๆ ให้พืชผลอาสินเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม รวมทั้ง มิให้ซื้อขาย แลกเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงสิทธิการ
4.จัดชุดปฏิบัติการควบคุมเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างใกล้ชิดห้ามมิให้บุรุกเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
5.ให้ดำเนินการตรวจยึดจับกุมพื้นที่บุกรุกใหม่ จำนวน 2 แปลง ตามผลการบินตรวจสอบสภาพป่าเมื่อ 10 พฤษภาคม 2558 โดยมอบหมายให้สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 43 (ปะทิว-ชุมพร) และอำเภอปะทิว ดำเนินการตามมติดังกล่าว
วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 สถานีเข้าดำเนินการตรวจยึดแปลงปาล์มน้ำมัน ตามข้อสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ข้อที่ 5 ท้องที่หมู่ 4 ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เนื้อที่ 11.78 ไร่ ไม่พบตัวผู้กระทำผิด พร้อมทั้ง ตรวจยึดแปลงที่ 2 เนื้อที่ 13.30 ไร่
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ท้องที่ หมู่ 4 ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ไม่พบผู้กระทำผิด
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ตรวจยึดเพิ่มเติมอีก 1 คดี ตรวจจับผู้ต้องหา 6 คน เนื้อที่ตรวจยึด 41.41 ไร่ ท้องที่ป่าหมู่ที่ 4 ตำบลปากคลอง
สรุปพื้นที่ป่าพรุกะชิงที่ตรวจยึดรวม 15 คดี เนื้อที่รวมประมาณ 1,460 ไร่ ผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ของกลางจำนวน 15 รายการ
แหล่งข่าวจาก มณฑลทหารบกที่ 44 (มทบ.44) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สถานการณ์พื้นที่ป่าพรุกะชิง พื้นที่ที่ตรวจยึดบางแปลงมีการบุกรุกซ้ำในแปลงเดิมโดยการแผ้วถาง ฉีดยา และบำรุงต้นปาล์ม ส่วนแนวคูที่ขุดไว้เพื่อกันการบุกรุก นั้น มีการถมกลบดินทำทางข้ามเข้าไปในแปลงตรวจยึด และมีแนวโน้มว่า จะมีการบุกรุกซ้ำเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 เข้าตรวจสอบตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่เข้าบุกรุกป่าพรุกะชิง พบผู้บุกรุกที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ จำนวน 81 ครัวเรือน จำนวนผู้บุกรุกที่มีเอกสารสิทธิ์ไปพิสูจน์สิทธิ์ เริ่มสำรวจจนถึงขณะนี้จำนวน 26 ครัวเรือน พบว่า คนยากจนจริง ๆ มี 1 ครัวเรือน และการครอบครองที่ดินโดยส่วนใหญ่ น่าจะเตรียมไว้ สำหรับขายให้นายทุน โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนักการเมืองรายดังกล่าวเชื่อมโยงกับกรณีปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว
แหล่งข่าวเปิดผยว่า อุปสรรคและปัญหา คือ
1.การทำลายต้นปาล์มน้ำมันตามข้อสั่งการข้อที่ 2 ของผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นั้น ดำเนินการไม่ได้เนื่องจาก ติดข้อประเด็นปัญหาด้านกฎหมาย พื้นที่ดังกล่าวมิได้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงไม่สามารถใช้มาตราที่ 25 ดำเนินการรื้อถอนได้
2.ผู้ครอบครองเดิมบางรายไม่ยอมรับระเบียบกฎระเบียบ และเงื่อนไขที่ส่วนราชการกำหนดไว้ รวมทั้ง ขาดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ฉะนั้น แนวทางแก้ไขปัญหา 4 แนวทาง
1.ในพื้นที่ตรวจยึดเป็นพื้นที่ที่กลับคืนสู่สถานะป่าตามกฎหมายโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่สามารถให้
เข้ายึดถือครอบครองซ้ำได้อีก ดังนั้น จึงควรให้ทุกฝ่ายร่วมกันสอดส่องดูแล เพื่อมิให้มีการบุกรุกซ้ำได้อีก
2.ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปฏิบัติตามข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร อย่างเคร่งครัด
3.สถานีไม่สามารถรื้อถอนผลอาสิณในพื้นที่ตรวจยึดได้ จึงได้จัดทำโครงการนำร่องป่าพรุกะชิง
โดยราษฎรมีส่วนร่วมมากขึ้น และได้รับจัดสรรงบประจาณจากสำนักฯ 4 และกรมทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งในปีงบประมาณ 2559
4.จัดทำแนวเขต โดยการปักหลักแสดงแนวเขตป่าพรุกะชิง ระยะทาง 15 กม. จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ และป้ายแสดงแนวเขตในพื้นที่ป่าพรุกะชิง สำรวจสภาพป่าชายเลน จัดทำฐานข้อมูลเนื้อที่ 3400 ไร่ จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน คุ้มครองป่าพรุกะชิง
จากข้อมูลเห็นได้ว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานหลายปีและทำเป็นขบวนการ ต้องติดตามกันต่อไปว่ารัฐบาลจะจัดการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้อย่างไร ?
อ่านประกอบ :
ไทม์ไลน์ 'มหากาพย์'ปมรุกที่สาธารณะ อ.ปะทิว กลุ่มทุนผูกโยง ขรก. ซ่อนเงื่อน 20 ปี
เปิดตัวนายก อบต.ผู้ขายที่ดิน อ.ปะทิว ให้ ‘พิริยะ’ เป็น กก.สอบปมรุกที่สาธารณะด้วย
เปิดหนังสือขอความเป็นธรรม 'พิริยะ' เจ้าของบ้านเนินเขา ปะทิว ถูก ทับที่ 46 ไร่
ยื่น'ดีเอสไอ'สอบปมที่ดินอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว-โผล่อีกรุกป่าพรุกะชิงพันไร่ ตัวละครเดิม
โฉมหน้า‘หนังสือที่หลวง’ฉบับปริศนา 65 ไร่ อ.ปะทิว ไม่แตะที่ดินนักวิชาการดัง
ส่อเค้าปิดฉาก!กก.สรุปเบื้องต้น‘บ้านเนินเขา’นักวิชาการดังอยู่ในที่สาธารณะ 280 ไร่
‘ที่สาธารณะ’ อ่าวทุ่งทราย 565 ไร่ หดปริศนา!เหลือ 65 ไร่ - บ.เครือทุนยักษ์โผล่เช่า
ดูชัดๆ ภาพถ่ายทางอากาศ ที่ดินเนินเขา นักวิชาการตระกูลดัง! ‘รุก-ไม่รุก’ที่สาธารณะ
เปิดบันทึก‘นายอำเภอ’ ที่ดินอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว หาย 464 ไร่! ‘รังวัด’คลาดเคลื่อน
โผล่อีกแปลง!ที่ดิน อ.ปะทิว ‘นักวิชาการดัง’ ทำสัญญาซื้อจากนายก อบต. 36 ไร่ 3 ล.
เปิดข้อมูล‘ที่ดินสาธารณะ’ อ.ปะทิว 4 แปลง 3,249 ไร่ ไฉน!สอบแค่แปลงเดียว
ทวง565 ไร่! กก.สอบปมรุกอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว นัดลงพื้นที่-ปูดอ้างชื่อบิ๊กทบ.-รัฐบาล
เปิดคำสั่งตั้ง กก.สอบปมรุกที่สาธารณะ อ.ปะทิว-ทหารแฉบ้าน 5 หลัง‘นักวิชาการดัง’
ชัด!คำพิพากษาศาล ปค.สูงสุด โฉนดบนเขา‘นักวิชาการดัง’ส.ค.1บินไกล500ม.
พลิกข้อต่อสู้‘นักวิชาการดัง’ในศาล ปค.สูงสุด ซื้อที่ดินสุจริต สร้างบ้านพัก-ห้องสมุด15ล.
ผู้ว่าฯ ชุมพรรับตั้ง กก.สอบบ้านหรูบนเขา‘นักวิชาการสกุลดัง’ไม่ชัวร์อยู่ในที่หลวง
จนท.ที่ดินแจงไม่มีผล ปย.!ปมบ้านหรูบนเขา‘นักวิชาการ’ตระกูลดัง ยังไม่ถูกรื้อถอน
เปิดคำพิพากษาศาล ปค.สูงสุด โฉนดบ้านหรูบนเขา18ไร่‘นักวิชาการดัง’ใช้‘ส.ค.1บิน’