โฉมหน้า‘หนังสือที่หลวง’ฉบับปริศนา 65 ไร่ อ.ปะทิว ไม่แตะที่ดินนักวิชาการดัง

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 14 กันยายน 2559 เวลา 20:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | การทำผิดของเอกชน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ตามไปดูโฉมหน้า นสล. ฉบับ 65 ไร่ปี 39 จนท.ไม่ยอมชี้แนวเขตที่ดินนักวิชาการดังแปลง 36 ไร่ ก่อนตั้ง กก.สอบใหม่ปี 52 ได้ 101 ไร่ ล่าสุดปี 59 กก.สอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นราว 280 ไร่ ปริศนาไฉน!คลาดเคลื่อน 220 ไร่

picbannnn230013 9 16

กรณีปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื้อที่ 565 ไร่ 3 งาน บริเวณอ่าวทุ่งทราย อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดชุมพร ซึ่งมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจ.ชุมพร เป็นประธาน ตามคำสั่งของนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าฯชุมพร ประเด็นที่เป็นข้อสงสัยก็คือ ที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงดังกล่าวมีเนื้อที่เท่าไหร่กันแน่?

ล่าสุดกำลังมีข้อยุติแล้วมีเนื้อที่ประมาณ 280 ไร่ แต่ไม่เกิน 300 ไร่

ประการสำคัญคือครอบคลุมที่ดินของนายพิริยะ ไกรฤกษ์ นักวิชาการชื่อดังซึ่งอ้างสิทธิครอบครองที่ดินกว่า 55 ไร่บนเนินเขาริมอ้าวทุ่งทรายด้วย อย่างไรก็ตามต้องรอผลสรุปข้อเท็จจริงในขั้นสุดท้ายอีกครั้ง

ประเด็นเงื่อนงำก็คือ ไฉน!เมื่อ 20 ปีที่แล้ว กระบวนการรังวัดที่ดินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะแปลงนี้จึง รังวัดได้เพียง 65 ไร่

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอ

21 ส.ค. 2539 เจ้าหน้าที่รังวัด สำนักงานที่ดินชุมพร อ.ปะทิว ดำเนินการรังวัด นสล. นายช่างรังวัด ชื่อ นายกฤษณ์ บัวสมบูรณ์ รังวัดได้เนื้อที่ตามผู้นำชี้ โดยนำชี้เฉพาะพื้นที่ส่วนด้านใต้ 65 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา โดยไม่ได้ชี้แนวเขตที่ดินที่นายนิพล แดงลาศ ขายให้แก่ นักวิชการชื่อดังจำนวน 36 ไร่ ทำให้รูปผังแปลง และเนื้อที่ผิดไปจากเดิมมาก (ดูเอกสาร)

ปี 2552 ได้มีการรังวัดรูปผังแปลงที่สาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทรายใหม่ทั้งแปลง เพื่อขึ้นทะเบียน และการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2550 ผลการรังวัดพบว่าเนื้อที่ที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งแปลงมีจำนวน 101 ไร่ 69 ตารางวา ต่างจากในประกาศในราชกฤษฎีกานุเบกษา เดิม 565 ไร่ 3 งาน น้อยกว่าเดิม 464 ไร่ 2 งาน 31 ตารางวา รังวัด โดยนายช่าง รังวัด ระดับ 6 นายปริญญา จันดี

วันที่ 27 พฤษภาคม 2552 อำเภอปะทิวมีคำสั่ง ที่ 117/2552 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจาก เนื้อที่เดิม 65 ไร่ แต่เนื้อที่จริง วัดทั้งแปลง ได้ 101 ไร่ ปี 2530 คณะกรรมการจัดรูปที่ดินแห่งชาติประกาศไว้ 565 ไร่ เมื่อวัดได้ 65 ไร่ เท่ากับเนื้อที่ขาดไป 464 ไร่

บันทึกถ้อยคำและรังวัดเพื่อหาข้อเท็จจริง ลง 22 มิ.ย. 2552 ว่า ที่ดินมีเนื้อที่ 101 ไร่ ที่ดินมีสภาพเป็นเนินทราย ติดชายทะเล และ มีต้นไม้ขึ้นประปราย ซึ่งที่ดินแปลงนี้มีชื่อว่า อ่าวทุ่งทราย

อำเภอปะทิวสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จริง เมื่อ 30 ก.ค. 2552 ดังนี้

-ทิศเหนือ จดที่ดินครอบครอง ยาว 5 เส้น 10 วา เดิม เป็นทางเดินควาย ปัจจุบันฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินจับจองของนายพรหม แสงเดช ปัจจุบันเป็นของบุคคลอื่น

-ทิศใต้จด ที่มีการครอบครอง ยาว 2 เส้น 2 วา จดที่ดินจับจองของ นายลัด แดงแท้ ปัจจุบันเป็นของบุคคลอื่น

-ทิศตะวัน ออกจดทะเล ยาว 81 เส้น 10 วา จดทะเลตลอดแนว

-ทิศตะวันตก จดที่ดินที่มีการครอบครอง ยาว 76 เส้น 12 วา เดิมจดทางเดินควาย ปัจจุบันจดทางสาธารณะประโยชน์

สรุปความเห็นคณะกรรมการ (ปี 2552)

การรังวัด ได้เนื้อที่และรูปแผนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แต่จากผลการดำเนินการตรวจสอบเอกสารแผนที่ ทะเบียนที่ดิน พยานบุคคล และสภาพพื้นที่จริง คณะกรรมการเห็นว่า เนื้อที่และรูปแผนที่ตามประกาศสงวนหวงห้ามไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ น่าจะเป็นการสงวนหวงห้ามไว้โดยผิดพลาด คลาดเคลื่อน

กรณีนี้ (ถ้าไม่นับปี 2552 หรือการสำรวจครั้งที่สอง ที่ระบุว่าที่ดินแปลงนี้มีจำนวน 101 ไร่) โดยเอาตัวเลขผลตรวจสอบล่าสุดเป็นตัวตั้งคือ 280 ไร่ เทียบกับตัวเลขครั้งก่อนคือ 65 ไร่ เท่ากับสำนักงานที่ดินรังวัดคลาดเคลื่อนไปถึง 220 ไร่

ประการสำคัญ ไม่แตะต้องที่ดินแปลงที่ถูกขายให้นักวิชาการดัง?

เป็นเรื่องปริศนา! อะไรทำให้ผิดพลาด คลาดเคลื่อน ได้มากขนาดนี้?

picgygygyyytttwwww14 9 16