- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- โอนเงินให้คู่เทียบ2.8 ล.!เปิดข้อกล่าวหาคดีฮั้วซื้อสื่อเรียน39ล. ยุค 'ชนม์สวัสดิ์'
โอนเงินให้คู่เทียบ2.8 ล.!เปิดข้อกล่าวหาคดีฮั้วซื้อสื่อเรียน39ล. ยุค 'ชนม์สวัสดิ์'
".. หลังจากที่บริษัท ดรากอนฯ ได้รับเงินจาก อบจ.สมุทรปราการ แล้ว ได้มีการโอนเงินจำนวน 1.495 ล้านบาท เข้าบัญชีบริษัท ศุภจิรา จำกัด และโอนเงินจำนวน 1.495 ล้านบาท เข้าบัญชีบริษัท ไฮโพรซีดส์ จำกัด ซึ่งมีกรรมการ และผู้ถือหุ้นรายเดียวกับบริษัท เวลโพรวายด์ จำกัด.."
การประกวดราคาซื้อสื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 80 ชุด ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ วงเงิน 40 ล้านบาท ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)สมุทรปราการ ในยุคที่ปรากฎ ชื่อ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สมุทรปราการ กำลังถูกจับตามอง
เมื่อปรากฎข้อมูลในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับคดีนี้เข้าตรวจสอบเป็นทางการ ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2556
สถานะคดีล่าสุดอยู่ระหว่างนำเสนอคณะอนุฯ ไต่สวน กลั่นกรองเรื่อง
ส่วนข้อกล่าวหา มีการระบุรายละเอียดไว้ว่า
"กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ พ.ศ.2542 ในการประกวดราคาซื้อสื่อการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 80 ชุด ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ วงเงิน 40 ล้านบาท ตามประกาศและเอกสารเลขที่ E30/2555 ลว. 11 เม.ย. 55 ที่บริษัท ดรากอนแอนด์สวอน จำกัด เป็นคู่สัญญา ตามสัญญาเลขที่ 46/2555 ลว. 18 พ.ค. 55 วงเงิน 39,986,160 บาท โดย
1. กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตรงกับสินค้าของผู้ผลิต/ผู้นำเข้า/ผู้จัดจำหน่าย เฉพาะราย
2. บริษัทที่มีสิทธิเสนอราคาประมูล จำนวน 3 ราย คือ บริษัท ดรากอนแอน์สวอน จำกัด บริษัท ศุภจิรา จำกัด และบริษัท เวลโพรวายด์ จำกัด รวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องในการให้การสนับสนุนใบรับรอง มอก. มีความสัมพันธ์กัน
และหลังจากที่บริษัท ดรากอนฯ ได้รับเงินจาก อบจ.สมุทรปราการ แล้ว ได้มีการโอนเงินจำนวน 1.495 ล้านบาท เข้าบัญชีบริษัท ศุภจิรา จำกัด และโอนเงินจำนวน 1.495 ล้านบาท เข้าบัญชีบริษัท ไฮโพรซีดส์ จำกัด ซึ่งมีกรรมการ และผู้ถือหุ้นรายเดียวกับบริษัท เวลโพรวายด์ จำกัด"
ข้อกล่าวหาคดีนี้ นับว่ามีความน่าสนใจ และควรต้องรีบทำความจริงให้ปรากฎ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลการประกวดราคาซื้อสื่อการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 80 ชุด วงเงิน 40 ล้านบาท ของ อบจ.สมุทรปราการดังกล่าว พบว่า ในช่วงปลายปี 2555 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จังหวัดสมุทรปราการ เคยทำหนังสือแจ้ง สตง.ส่วนกลาง ว่า ได้ตรวจสอบงบประมาณของ อบจ.สมุทรปราการ ประจำปีงบประมาณ 2555
พบว่า มีการจัดทำโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์การเรียนการสอน จำนวน 2 โครงการ และจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนการอ่าน จำนวน 3 โครงการ รวมเป็นงบประมาณ 195,808,800 บาท ดังนี้
1. โครงการจัดหาชุดการเรียนการสอน Wizer interactive สำหรับเด็กนักเรียนประถมศึกษาจำนวนเงิน 30,010,800 บาท
2. โครงการส่งเสริมรักการอ่าน จำนวน 19,960,000 บาท
3. จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ตามโครงการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ “สมุทรปราการเมืองนักอ่าน” จำนวน 35,570,000 บาท
4. จัดซื้อครุภัณฑ์สื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 39,896,160 บาท
5. โครงการจัดซื้อสื่อการเรียนการสอนให้แก่สถานศึกษาในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 69,889,160 บาท
เบื้องต้น สตง.จังหวัดสมุทรปราการ เห็นว่าการจัดทำโครงการของ อบจ.สมุทรปราการ มีลักษณะคล้ายคลึงกับข้อมูลโครงการที่ สตง.ส่วนกลาง ดำเนินการตรวจสอบอยู่ จึงเห็นสมควรให้ออกหนังสือถึง อบจ.สมุทรปราการ ตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานโครงการเหล่านี้โดยด่วน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ สตง.จังหวัดสมุทรปราการ ได้ออกหนังสือทักท้วงการดำเนินงานโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์สื่อการเรียนการสอน อบจ.สมุทรปราการ แล้ว
ขณะที่ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สมุทรปราการ ในขณะนั้น ได้ทำหนังสือแจ้งตอบกลับมาที่ สตง. โดยระบุว่า ในการจัดสรรงบประมาณของ อบจ.สมุทรปราการ เพื่อจัดหาสื่อการเรียนการสอนดังกล่าว ได้พิจารณาดำเนินการตามคำขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการศึกษาในระดับต่างๆ เช่นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสมุทรปราการ เขต 1 และ 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยม เขต 6 สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด สำนักงานการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้รวบรวมปัญหาความต้องการโรงเรียนกลุ่มโรงเรียนในสังกัดและพิจารณาถึงความเหมาะสมจำเป็น ความสอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน มาชั้นหนึ่งก่อนแล้ว จึงจัดทำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.สมุทรปราการ
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดและเอกสารที่เกี่ยวข้องของแต่ละโครงการฯ ซึ่งจะรายงานให้สตง.รับทราบโดยด่วนต่อไป” นายชนม์สวัสดิ์ระบุ
ทั้งนี้ การทำหนังสือของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแจ้งให้ สตง.ส่วนกลาง รับทราบเรื่องดังกล่าว เป็นผลมาจากกรณีที่ สตง. ได้รับแจ้งข้อมูลว่า การจัดหาพัสดุอุปกรณ์ตามโครงการปรับปรุงห้องเรียน ASEAN School Online เพื่อให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน ก้าวสู่โรงเรียนมาตรฐานสากล พัฒนานักเรียนสู่ประชาคม ASEAN 2015 (WORLD-CLASS STANDARD SCHOOL & ASEAN CENTER SCHOOL 2015) และโครงการห้อง E-Classroom หรือโครงการห้อง E-Library และห้องเรียนอื่นๆ ที่มีลักษณะหลายรายการรวมกันเป็น 1 ห้องเรียน มีราคาห้องเรียนละประมาณ 5 แสนบาทเศษ, 8 แสนบาทเศษ , 1 ล้านบาท และ 2.5 ล้านบาท รวมทั้งรายการครุภัณฑ์การเรียนรู้ระดับชั้นอนุบาลราคาชุดละ 6 หมื่นบาทเศษ ระดับชั้นประถมศึกษาราคาชุดละหกหมื่นบาทเศษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาราคาชุดละ 7 หมื่นบาทเศษ
มีการหักค่าใช้จ่ายไว้เป็นการล่วงหน้าในอัตราร้อยละ 30 % ของวงเงินแต่ละโครงการ และจ่ายให้กับผู้ประสานงานอีกร้อยละ 5 -15 รวมทั้ง ได้มีการกำหนดตัวผู้ประกอบการ (ผู้ขาย) ไว้เพื่อการนี้แล้ว
โดยเบื้องต้น สตง. ได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และจัดส่งรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับจัดสรรที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการให้ สตง.ภายใน 60 วัน นั้น
(อ่านประกอบ : โครงการปรับปรุงห้องเรียนรับ AEC ส่อทุจริต-หักหัวคิว 45%)
จากนั้น เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องคดีการประกวดราคาซื้อสื่อการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมอง (BBL) สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 80 ชุด วงเงิน 40 ล้านบาท ของ อบจ.สมุทรปราการ ไว้ตรวจสอบเป็นทางการ
และมีการระบุข้อกล่าวหา เรื่องกระบวนการฮั้วจัดซื้อไว้อย่างละเอียด แต่ในส่วนเจ้าหน้าที่ อบจ.สมุทรปราการ ที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ยังไม่ได้มีการระบุชื่อที่ชัดเจนไว้
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเอกชน ทั้ง 4 ราย คือ บริษัท ดรากอนแอน์สวอน จำกัด บริษัท ศุภจิรา จำกัด บริษัท เวลโพรวายด์ จำกัด และบริษัท ไฮโพรซีดส์ จำกัด ที่ถูกระบุว่าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดของสำนักข่าวอิศราพบว่า บริษัทฯ เหล่านี้ ยังประกอบธุรกิจอยู่
ขณะที่ บริษัท เวลโพรวายด์ จำกัด และบริษัท ไฮโพรซีดส์ จำกัด เป็นบริษัทกลุ่มเดียวกัน โดยปรากฎชื่อ น.ส. ศิริพร เหมืองหลิ่ง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งสองบริษัท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนฯ สถานะของบริษัทเอกชนทั้ง 4 รายนี้ จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และมีสิทธิที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ส่วนผลสรุปคดีนี้ของ ป.ป.ช.จะออกมาเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป
โดยเฉพาะบทบาทของ 'เอ๋- ชนม์สวัสดิ์' อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ ในคดีนี้ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขัง ณ เรือนจำกลางสมุทรปราการ จากคดีทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครสมุทรปราการไปแล้ว