- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เปิดบันทึก'รองปลัด& สตง.' โต้ ทส. ยันไส้ในปรับปรุงแหล่งน้ำ818 ล.ปัญหาเพียบ!
เปิดบันทึก'รองปลัด& สตง.' โต้ ทส. ยันไส้ในปรับปรุงแหล่งน้ำ818 ล.ปัญหาเพียบ!
"..โครงการใน สทภ.9 (พิษณุโลก) ซึ่งมีจำนวนมากถึง 409 โครงการ พบว่าไม่สามารถใช้เป็นแบบที่ทำการก่อสร้างได้ทั้งหมด อีกทั้งยังระบุข้อความในแบบให้ช่างควบคุมงานเสนอรูปแบบ ต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างให้เห็นชอบก่อนผู้รับจ้างจะปฏิบัติงาน ซึ่งเข้าข่ายในลักษณะ Turn key จึงเป็นความเสี่ยงหากจะมีการอนุมัติให้จัดซื้อจัดจ้างให้ทันภายในวันที่ 31 มี.ค.2559.."
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับแจ้งเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ ปี 2559 จำนวน 1,689 แห่ง รวมวงเงินกว่า 818 ล้านบาท ของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีการกระจายงานออกไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่กำลังถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าตรวจสอบ ว่า ในการขั้นการเข้ามารับงานของผู้รับเหมาในโครงการนี้ มีข้าราชการบางกลุ่มไปเรียกเก็บเงินโครงการละ 23 -26 เปอร์เซ็นต์ โดยเรียกเก็บทันที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเก็บ เมื่อส่งงาน ซึ่งรับรู้กันเฉพาะในกลุ่มผู้รับเหมาที่เข้ามารับงาน และเป็นเหตุผลสำคัญที่ขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงานโครงการ เป็นลักษณะการคัดเลือกผู้รับเหมาแบบเจาะจง ขณะที่การกำหนดราคางานโครงการไว้แค่โครงการละ 5 แสนบาท ก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องประกวดราคาทั่วไป
ขณะที่ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ได้เปิดแถลงข่าวยืนยันว่าการดำเนินงานโครงการนี้ไม่มีปัญหาอะไร การดำเนินการไปตามขั้นตอน
ส่วนข้อมูลที่มีการระบุว่า โครงการนี้เคยถูกทักท้วงจากรองปลัด ทส.รายหนึ่งนั้น นายเกษมสันต์ ยอมรับว่า มีการทักท้วงจริง แต่ไม่ได้เป็นการทักท้วงว่าโครงการมีปัญหาทำไม่ได้ เป็นเพียงแค่การเสนอว่า ควรจะมีการออกแบบงานให้เรียบร้อยก่อน ถ้าดำเนินการเรียบร้อยก็ทำได้เท่านั้น ซึ่งต่อมาก็มีการดำเนินการเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนประเด็นเรื่องการกำหนดตัวผู้รับเหมาเข้ามารับงาน ในแต่ละพื้นที่นั้น นายเกษมสันต์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ กรมทรัพยากรน้ำมีการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาไว้อยู่แล้ว การที่ผู้รับเหมาเหล่านี้ จะได้รับงานไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ทราบเป็นเรื่องปฏิบัติในพื้นที่ ต้องไปดูกันอีกครั้ง
(อ่านประกอบ : ปูดเบื้องหลังงานปรับปรุงแหล่งน้ำ 818 ล.หัวคิวพุ่ง 204 ล.-ปลัดทส.ท้าสื่อตรวจสอบ)
ทั้งนี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการทักท้วงการดำเนินงานจากรองปลัด ทส.รายหนึ่ง ซึ่งนายเกษมสันต์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการทักท้วงว่าโครงการมีปัญหาทำไม่ได้ เป็นเพียงแค่การเสนอว่า ควรจะมีการออกแบบงานให้เรียบร้อยก่อน ถ้าดำเนินการเรียบร้อยก็ทำได้เท่านั้น ซึ่งต่อมาก็มีการดำเนินการเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร นั้น
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2559 นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองปลัด ทส. ได้ทำบันทึกถึง ปลัดทส. เพื่อเสนอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ ปี 2559 จำนวน 1,689 แห่ง วงเงิน 818 ล้านบาท
โดยระบุเนื้อหาสำคัญดังนี้
" ตามหนังสือ ที่ ทส 0604.3/773 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ทน. (กรมทรัพยากรน้ำ) เสนอขอความเห็นชอบการอนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบเหลือจ่ายเป็นค่าปรับปรุงแหล่งน้ำที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 10 ล้านบาท รายการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำขนาดเล็ก (มูลค่าแต่ละรายการต่ำกว่า 500,000 บาท) 1,689 แห่ง งบประมาณ 819,230,000 บาท ดำเนินการจ้างโดยวิธีการตกลงราคานั้น
จากการสุ่มตรวจพบว่า มีแบบและรายละเอียดที่ไม่สามารถใช้เป็นเอกสารประกอบการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากขาดรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของวิศวกรรม และไม่มีความชัดเจน อาทิเช่น ไม่มีค่าระดับอ้างอิง ไม่มีค่าระบุเพื่อวางตำแหน่งโครงการให้สอดคล้องกับแบบปริมาณงานในแบบไม่สอดคล้องกับภูมิประเทศจริง ปริมาณงานไม่สอดคล้องกับแบบและประมาณการ โดยเฉพาะโครงการใน สทภ.9 (พิษณุโลก) ซึ่งมีจำนวนมากถึง 409 โครงการ พบว่าไม่สามารถใช้เป็นแบบที่ทำการก่อสร้างได้ทั้งหมด อีกทั้งยังระบุข้อความในแบบให้ช่างควบคุมงานเสนอรูปแบบ ต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างให้เห็นชอบก่อนผู้รับจ้างจะปฏิบัติงาน ซึ่งเข้าข่ายในลักษณะ Turn key จึงเป็นความเสี่ยงหากจะมีการอนุมัติให้จัดซื้อจัดจ้างให้ทันภายในวันที่ 31 มี.ค.2559 ทั้งนี้มีเพียง สทภ. 3 (อุดรธานี) มีจำนวน 79 โครงการที่มีแบบและประมาณการเป็นไปตามหลักวิศวกรรมสามารถใช้เป็นเอกสารประกอบการจัดซื้อจัดจ้างได้
ดังนั้น จึงขอเสนอความเห็นดังนี้
1.ให้ ทน. โดย ผอ.สทภ.ที่มีโครงการในพื้นที่แก้ไขแบบให้มีความถูกต้องของแบบโดยใช้ตัวอย่างของ สทภ. 3 พร้อมทั้งตรวจสอบแบบกับพื้นที่จริงและถ่ายภาพ ตำแหน่งสถานที่จริงก่อนมีการก่อสร้าง เพื่อใช้เปรียบเทียบให้เห็นผลการดำเนินการและรายให้ ทส.ทราบให้ครบถ้วน
2. กำชับให้ ทน.ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยเคร่งครัด ตั้งแต่การแต่งตั้งช่างคุมงาน และคณะกรรมการตรวจการจ้างๆ พร้อมรายงานผลให้ทส.ทราบ ภายใน 15 วันเมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ
3. เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นเดียวกับ ทบ.จึงเห็นควรให้นำโครงการเข้าสู่คณะกรรมการร่วมป้องกันและปราบปรามการทุจริต กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดมาตรการในเชิงป้องกัน และติดตามให้เกิดความโปร่งใส่ (ดูหนังสือประกอบ)
ขณะที่ แหล่งข่าวระดับจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ได้รับรายงานการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่สตง.ภาคต่างๆ พบว่า การดำเนินงานโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ ปี 2559 จำนวน 1,689 แห่ง รวมวงเงินกว่า 818 ล้านบาท ของกรมทรัพยากรน้ำ มีปัญหาในขั้นตอนปฏิบัติอย่างมาก บางพื้นที่มีการให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานก่อนทำสัญญา ขณะที่ผลงานที่ออกมาก็ไม่ต้องตามแบบที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงของ ทน. และทส. ถึงไม่รับทราบปัญหาข้อมูลเหล่านี้ และยังยืนยันว่าขั้นตอนการดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ
แหล่งข่าวจาก สตง.ยังระบุด้วยว่า สำหรับบันทึกข้อความทักท้วงโครงการจากรองปลัดทส. รายหนึ่ง ในเรื่องความไม่พร้อมของโครงการ โดยเฉพาะแบบงานแปลนงานในหลายพื้นที่ สตง.ได้รับมาประกอบการตรวจสอบโครงการนี้แล้ว ซึ่งบันทึกข้อความฉบับนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ชี้ให้เห็นว่าโครงการนี้ มีข้อพิรุธอยู่ตรงไหนบ้าง
และตั้งข้อสังเกตว่า "ถ้ามีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาตามเสนอข้อเสนอดังกล่าวแล้ว ทำไม สตง.ยังตรวจสอบพบปัญหาเกิดขึ้นอีก ในหลายพื้นที่?"
แหล่งข่าวจาก สตง.ยังย้ำด้วยว่า "ในเร็วๆ นี้ น่าจะมีการสรุปผลการตรวจสอบบางพื้นที่ออกมาได้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างเป็นทางการ และน่าจะมีคนบางกลุ่มที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกับปัญหาความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นด้วย"
(อ่านประกอบ :เปิดช่องตกลงงานก่อนทำสัญญา! สตง.จี้ทส.ทบทวนปรับปรุงแหล่งน้ำทั่วปท. 818ล.)
ส่วนเมื่อถึงตอนนั้น ผู้บริหารระดับสูงของ ทส. และ ทน. จะออกมาชี้แจงให้ตอบกับสังคมว่า อย่างไร
เพราะว่าปัญหาทุกอย่าง จะได้มีการทักท้วงไปแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนเริ่มดำเนินโครงการ และผู้บริหารทส.ทุกระดับ ก็ดูเหมือนจะรับทราบเรื่องทั้งหมดแล้วด้วย
แล้วทำไมในขั้นตอนปฎิบัติงานถึงยังมีปัญหาขึ้นได้อีก!
อ่านประกอบ :
ปูดเบื้องหลังงานปรับปรุงแหล่งน้ำ 818 ล.หัวคิวพุ่ง 204 ล.-ปลัดทส.ท้าสื่อตรวจสอบ
เปิดช่องตกลงงานก่อนทำสัญญา! สตง.จี้ทส.ทบทวนปรับปรุงแหล่งน้ำทั่วปท. 818ล.
งานปรับปรุงแหล่งน้ำทั่วปท. 818ล. พิรุธแรง! ผู้รับเหมารายเดียวคว้า20สัญญา