ปูดเบื้องหลังงานปรับปรุงแหล่งน้ำ 818 ล.หัวคิวพุ่ง 204 ล.-ปลัดทส.ท้าสื่อตรวจสอบ
ปูดเบื้องหลังงานปรับปรุงแหล่งน้ำ 818 ล้าน ผู้รับเหมาถูกเรียกเก็บเงิน 23 -26 เปอร์เซ็นต์/โครงการ ระบุจ่ายก่อนทันที 15เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเก็บเมื่อส่งงาน คาดเบ็ดเสร็จรัฐสูญ 204 ล้าน -ด้าน ปลัดทส.ยืนข้อมูล สตง.ถึงมือ รมว.แล้ว มอบให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำรับเรื่องต่อแล้ว ท้าสื่อลงพื้นที่ตรวจสอบงานจริง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้าล่าสุดการโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ ปี 2559 จำนวน 1,689 แห่ง รวมวงเงินกว่า 818 ล้านบาท ของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีการกระจายงานออกไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่กำลังถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าตรวจสอบ ภายหลังปรากฎข้อมูลว่า การดำเนินงานโครงการมีลักษณะเร่งรีบมากเกินไป ขณะที่รายชื่อผู้รับเหมาที่เข้ามารับงานในแต่ละจังหวัดก็มีไม่กี่ราย บางรายได้รับงานไปมากถึงกว่า 10 สัญญา ว่า ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า การดำเนินงานโครงการนี้ ส่อว่าจะมีปัญหาเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบของราชการบางกลุ่มเกิดขึ้น
"มีการยืนยันข้อมูลจากผู้รับเหมาบางรายในพื้นที่ว่า ในขั้นตอนการเข้ามารับงานนี้ จะมีการเรียกเก็บเงินโครงการละ 23 -26 เปอร์เซ็นต์ โดยเรียกเก็บทันที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเก็บ เมื่อส่งงาน ซึ่งรับรู้กันเฉพาะในกลุ่มผู้รับเหมาที่เข้ามารับงาน และเป็นเหตุผลสำคัญที่ขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงานโครงการ เป็นลักษณะการคัดเลือกผู้รับเหมาแบบเจาะจง ขณะที่การกำหนดราคางานโครงการไว้แค่โครงการละ 5 แสนบาท ก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องประกวดราคาทั่วไป"
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า โครงการนี้ หากปล่อยให้ดำเนินการต่อไป จะสร้างความเสียหายให้กับงบประมาณราชการจำนวนมาก เพราะหากคำนวณงานในโครงการทั้งหมด จำนวน1,689 แห่ง ใช้วงเงินกว่า 818 ล้านบาท เรียกเก็บเงินโครงการละ 23 -26 เปอร์เซ็นต์ จะคิดเป็นเงินเปอร์เซ็นต์ประมาณ 204,000,000 บาท คือจำนวนเงินที่ประเทศชาติต้องสูญเสียไป
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ในช่วงเริ่มต้นโครงการฯ นี้ เคยถูกทักท้วงจากรองปลัดกระทรวงฯ รายหนึ่ง ว่า มีความไม่ถูกต้องชัดเจน เพียงพอต่อการจัดท้าโครงการ เช่น แบบแปลน ปริมาณงาน และประมาณราคาไม่สอดคล้องกัน แต่ผู้บริหารระดับสูงของกรมทรัพยากรน้ำ ได้ทำหนังสื่อถึงปลัดกระทรวงฯ เพื่อชี้แจงข้อสังเกตของรองปลัดกระทรวง จึงทำให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปด้วย ล่าสุดทราบว่า มีผู้นำข้อมูลไปร้องเรียนต่อ สตง.ให้เข้ามาตรวจสอบเป็นทางการแล้ว
ขณะที่ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การดำเนินงานโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 1,689 แห่ง ดังกล่าว ทางสตง. ได้ส่งหนังสือมาถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางรมว. ได้ส่งเรื่องมาที่ตน และตนก็ได้ส่งเรื่องต่อไปยังกรมทรัพยากรน้ำให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนรายละเอียดในขั้นตอนการดำเนินงานคงต้องไปสอบถามกับทางอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่า เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรมากนัก แต่เท่าที่ทราบอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ก็มีการเปิดแถลงข่าวไปแล้ว และยืนยันว่าการดำเนินงานโครงการนี้ไม่มีปัญหาอะไร การดำเนินการไปตามขั้นตอน
ส่วนข้อมูลที่มีการระบุว่า โครงการนี้เคยถูกทักท้วงจากรองปลัดกระทรวงรายหนึ่งนั้น นายเกษมสันต์ ยอมรับว่า มีการทักท้วงจริง แต่ไม่ได้เป็นการทักท้วงว่าโครงการมีปัญหาทำไม่ได้ เป็นเพียงแค่การเสนอว่า ควรจะมีการออกแบบงานให้เรียบร้อยก่อน ถ้าดำเนินการเรียบร้อยก็ทำได้เท่านั้น ซึ่งต่อมาก็มีการดำเนินการเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนประเด็นเรื่องการกำหนดตัวผู้รับเหมาเข้ามารับงาน ในแต่ละพื้นที่นั้น นายเกษมสันต์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ กรมทรัพยากรน้ำมีการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาไว้อยู่แล้ว การที่ผู้รับเหมาเหล่านี้ จะได้รับงานไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมไม่ทราบเป็นเรื่องปฏิบัติในพื้นที่ ต้องไปดูกันอีกครั้ง
"ส่วนเรื่องที่ระบุว่ามีการเรียกรับเงินเปอร์เซ็นต์อะไรนั้น ผมอยากให้สื่อมวลชนลงไปตรวจสอบข้อมูลของจริงในพื้นที่เองเลย ว่าเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ ไม่ใช่มาพูดเพียงแค่ว่าเขาว่ามาแบบนั้น ว่ามาแบบนี้ ซึ่งไม่มีอะไรยืนยันเลย และทางกรมทรัพยากรน้ำ ก็ยืนยันอยู่แล้วว่าการดำเนินงานไม่มีปัญหาอะไร และในอดีตที่ผ่านมาก็มีหลายโครงการที่เคยเป็นข่าวว่า โครงการมีปัญหาแต่สุดท้ายแล้วไม่มีปัญหาอะไร สื่อก็เงียบไป ไม่นำเสนอข้อมูลอีกด้านว่ามันไม่มีปัญหาอะไร แบบนี้ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ต้องเขียนชี้แจงให้ด้วย " ปลัด ทส.ระบุ
อ่านประกอบ :
เปิดช่องตกลงงานก่อนทำสัญญา! สตง.จี้ทส.ทบทวนปรับปรุงแหล่งน้ำทั่วปท. 818ล.
งานปรับปรุงแหล่งน้ำทั่วปท. 818ล. พิรุธแรง! ผู้รับเหมารายเดียวคว้า20สัญญา