- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- รายงานฉบับเต็ม! ชงปธ.กสทช. สอบ“ฐากร”ส่อเอื้อ ปย.ให้ทุน“ลูก”เรียนนอก
รายงานฉบับเต็ม! ชงปธ.กสทช. สอบ“ฐากร”ส่อเอื้อ ปย.ให้ทุน“ลูก”เรียนนอก
เปิดรายงานฉบับเต็ม! กก.ติดตามประเมินผล กสทช. ปม “ฐากร” ส่อเอื้อประโยชน์ให้ทุนการศึกษา “บุตรสาว” เรียนต่อต่างประเทศ อ้างมีการวางแผนล่วงหน้า-มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดงบประมาณ-เลือกปฏิบัติ ก่อนชงให้ ป.ป.ช.-คตง. ลุยสอบ
ในการชี้แจงและขอความเป็นธรรมต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของ “ประเสริฐ อภิปุญญา” กรรมการติดตามและประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการวิทยุและโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีถูกคำสั่งตามมาตรา 44 สั่งพักงานนั้น
มีตอนหนึ่งระบุว่า สาเหตุดังกล่าวเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวกับ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการ กสทช. ปัจจุบัน ในช่วงแย่งชิงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.
และด้วยเหตุ “เกาเหลา” ดังกล่าว ทำให้ “ประเสริฐ” ถูกส่งชื่อไปให้ คสช. “ลงดาบ” นั่นเอง
(อ่านประกอบ : “ประเสริฐ”ขอความเป็นธรรมคสช.ยันไม่เคยทุจริตหลังถูกม.44สั่งพักงาน)
ทั้งนี้ “ประเสริฐ” แก้เกมด้วยการ “ปูด” โครงการส่อทุจริตต่าง ๆ ที่มีชื่อของ “ฐากร” ไปเกี่ยวข้อง
โดยมีกรณีที่น่าสนใจคือ มีการระบุถึง การให้ทุนการศึกษาเรียนต่อต่างประเทศระดับปริญญาตรีและโทของสำนักงาน กสทช. ที่ปรากฏชื่อ “บุตรสาว” ของ “ฐากร” เป็นผู้ได้ โดยมีการเลื่อนวันสอบคัดเลือกที่ตรงกับวันสอบของทุนอื่น รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของทุนที่แตกต่างจากมติของ กสทช.
(อ่านประกอบ : ปูดเลขาฯกสทช.ส่อเอื้อปย.ให้ทุน“ลูก” เรียนต่อนอก-จัดซื้อไอแพด 7.5 หมื่น )
ปัจจุบัน “ประเสริฐ” ได้ทำรายงานกรณีดังกล่าวถึง ประธาน กสทช. พิจารณาเรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายงานฉบับเต็มดังกล่าวมาเปิดเผย ดังนี้
เรื่อง รายงานข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาของสำนักงาน กสทช.
เรียน ประธาน กสทช.
ข้าพเจ้าขอรายงานข้อมูลการกระทำที่อาจเข้าข่ายทุจริตมิชอบของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการฯ ในการเอื้อประโยชน์ในการพิจารณาให้ทุนการศึกษา อันอาจเข้าข่ายจงใจปฏิบัติหน้าที่และสร้างความเสียหายให้กับเงินของแผ่นดิน กล่าวคือ
1. คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) มีมติให้มีทุนการศึกษาประจำปี พ.ศ.2553 (ทุนบุคคลทั่วไประดับมัธยมการศึกษา) จำนวน 3 สาขา โดยเป็นการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 และมีการกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครเป็นผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมในการรับทุนเล่าเรียนหลวงประจำปี 2553 และตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดในการรับสมัครสอบคัดเลือกทุนวิวัฒนาไชยยานุสรณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประจำปี 2553 ตามประกาศของ ธปท. ลงวันที่ 15 กันยายน 2552 ซึ่งเข้าใจว่ามีการวางแผนเตรียมการให้บุตรสาวมีสิทธิในการสอบคัดเลือกทุนของสำนักงาน รวมทั้งมีการจำกัดตัวผู้เข้ารับสมัคร
2. สำนักงาน ได้เสนอเรื่องผ่านนายฐากรฯ ในฐานะรองเลขาธิการฯ ที่กำกับดูแลงานด้านบริหาร เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติหลักเกณฑ์การคัดเลือกทุนการศึกษาของสำนักงาน ด้วยการอ้างอิงหลักเกณฑ์ของ ธปท. ซึ่งกำหนดห้ามไม่ให้เป็นบุตรของพนักงาน ธปท. แต่กลับไม่นำข้อกำหนดทั้งหมดของ ธปท. มาเป็นเกณฑ์ในการกำหนด หากแต่เลือกปฏิบัติด้วยการนำหลักเกณฑ์เพียงบางข้อที่เป็นประโยชน์กับตนเองเท่านั้น
3. ประกาศสำนักงานตามข้อ 1 กำหนดให้รับสมัครวันที่ 11-12 มกราคม 2553 ประกาศรายชื่อและสถานที่คัดเลือก วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 และต่อมาได้มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีบุตรสาวของนายฐากรฯ เป็นผู้มีสิทธิรายเดียวที่เข้ารับการคัดเลือกสาขากฎหมาย พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นวันสอบคัดเลือก
4. ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมเพื่อรับทุนการศึกษา โดยมีบุตรสาวของนายฐากรฯ ในวันที่ 24 และ 25 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งตรงกับวันสอบของทุนการศึกษาสำนักงาน
5. นายฐากรฯ ได้ใช้อำนาจในฐานะเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีหน้าที่จัดการทรัพย์ซึ่งเป็นงบประมาณของสำนักงานและเป็นเงินของแผ่นดิน ในการให้ทุนการศึกษาซึ่งประกอบด้วย เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนการเดินทาง ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา ค่าคอมพิวเตอร์ และมีหน้าที่ดูแลกิจการของสำนักงาน ให้เป็นไปตามกฎหมาย ประกาศ ระเบียบและมติของคณะกรรมการ
“ได้อาศัยอำนาจในตำแหน่งโดยไม่สุจริต และมีส่วนได้เสียในการจัดการงบประมาณของสำนักงานในการให้ทุนการศึกษาแก่บุตรสาว โดยกระทำให้เกิดสิทธิ์รับทุนของสำนักงาน อันทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและเลือกปฏิบัติต่อ กสทช.”
นอกจากนี้ “ประเสริฐ” ยังเตรียมส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง “ฐากร” เพื่อขอให้ชี้แจงในกรณีดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายฐากร จาก thaipublica