- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- โชว์หลักฐานตั้งบ."ราเกซ"จำนองที่เขาใหญ่บีบีซี ก่อน"คีรีมายา"เซ้งต่อ 265 ล.
โชว์หลักฐานตั้งบ."ราเกซ"จำนองที่เขาใหญ่บีบีซี ก่อน"คีรีมายา"เซ้งต่อ 265 ล.
"..บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด คือ ชื่อเดิมของ บริษัท คีรีมายา จำกัด แจ้งเปลี่ยนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 หลังจากที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2545 ขณะที่การเข้าซื้อที่ดินดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากบริษัทจัดตั้งแล้ว แค่ประมาณ 1 เดือน เท่านั้น หมายความว่า บริษัทฯ อาจจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินจำนวนนี้ดีพอสมควร และมีการเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปซื้อที่ดินส่วนนี้อยู่แล้ว? .."
ผ่านพ้นไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว สำหรับปฏิบัติการทวงคืนที่ดินรัฐจาก "คีรีมายา เขาใหญ่" ของหน่วยงานรัฐหลายแห่งที่ร่วมสนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลอยู่ในขณะนี้
ขณะที่ตัวแทนในฝ่ายของโครงการ ก็ยืนยันเสียงแข็งว่า เรื่องนี้ไม่มีการทำผิดกฎหมายอะไร ไม่มีการบุกรุกอะไร เพราะการได้มาซึ่งที่ดินจำนวน 1,696 ไร่ ของโครงการเป็นไปอย่างถูกต้อง
(อ่านประกอบ : ถึงคิว! ปฏิบัติการทวงคืนที่ดินรัฐ จาก"คีรีมายา เขาใหญ่")
"ที่ดินของคีรีมายาฯ ซึ่งมาตั้งแต่ยังเป็น น.ส.3 ก. จำนวน 50 แปลง โดย 36 แปลง ได้มาตั้งแต่เป็นสนามกอล์ฟในปี 2545 จากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี อีก 14 แปลง ได้จากการเสนอขายที่ดินของบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (BAM) จึงเป็นข้อสรุปว่า ที่ดินทั้งหมดได้มาจากหน่วยงานรัฐทั้งสิ้น ไม่มีการซื้อที่ดินจากบุคคลหรือชาวบ้านเลยแม้แต่ตารางวาเดียว ซึ่งต่อมาก็มีการนำ น.ส.3 ก. ไปขอออกโฉนดที่ดิน พร้อมจำหน่ายให้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับบุคคลภายนอกเรื่อยมา"
เป็นคำยืนยันของ นายอรัฐ เศวตะทัต กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการ บริษัท คีรีมายา จำกัด ระหว่างที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นำโดย พ.ต.อ. ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัด ยธ. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลที่คีรีมายา เมื่อวันที่ 28 เม.ย.58 ที่ผ่านมา
สอดคล้องกับข้อมูลของกรมบังคับคดี ที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลการขายทอดตลาดทรัพย์สินในช่วงปี 2545 ซึ่งเป็นที่ดิน น.ส.3 ก.บริเวณ ต.หมู่สี อ.ปากช่อง ถนนธนะรัตน์ จ.นครราชสีมา จำนวน 36 แปลง เนื้อที่ 763 ไร่ 1 งาน 81 ตารางวา โดยขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2545 มีธนาคารนครธนเป็นเจ้าหนี้ มีบริษัท เขาใหญ่เนอเชอรัลปาร์ค จำกัด เป็นลูกหนี้
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ว่า ชุดปฏิบัติการฯ ยังเชื่อว่า ที่ดินจำนวน 36 แปลง แต่เดิมไม่น่าจะที่ออกเอกสารสิทธิได้ เพราะมีการตรวจอบพบข้อมูลว่า มีคนบางกลุ่มเข้าไปใช้ชื่อชาวบ้านถือครอง ก่อนจะโอนขายกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินให้กับ บริษัทเขาใหญ่เนอเชอรัลฯ (นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจ เกี่ยวกับขนาดพื้นที่ของโครงการ ที่ดูเหมือนจะมากกว่าพื้นที่ในเอกสารสิทธิ์อีกด้วย)
ก่อนที่บริษัท เขาใหญ่เนอเชอรัลฯ แห่งนี้ จะนำที่ดินไปจำนองกับธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี เพื่อกู้ยืมเงิน
ขณะที่บริษัท เขาใหญ่เนอเชอรัลฯ ปัจจุบันได้ล้มละลายไปแล้ว ปรากฎชื่อ นายราเกซ สักเสนา ที่ปรึกษาบีบีซี รวมเป็นกรรมการอยู่ด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
ส่วนบริษัทที่ประมูลชื้อ คือ บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด ในราคา 265,680,000 บาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2545
โดยปรากฎชื่อ นางสาวสำเริง ใจโชติ เป็นผู้รับมอบอำนาจ (ดูเอกสารประกอบ)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด คือ ชื่อเดิมของ บริษัท คีรีมายา จำกัด แจ้งเปลี่ยนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 หลังจากที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2545
ขณะที่การเข้าซื้อที่ดินดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากบริษัทจัดตั้งแล้ว แค่ประมาณ 1 เดือน เท่านั้น
หมายความว่า บริษัทฯ อาจจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินจำนวนนี้ดีพอสมควร และมีการเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปซื้อที่ดินส่วนนี้อยู่แล้ว?
ดังนั้น คำถามที่น่าสนใจ นอกเหนือจากประเด็นเรื่องที่มาของดินแล้ว ในกรณีนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบ อาจจะต้องย้อนกลับไปดูข้อมูลเรื่องราคาซื้อที่ดินต่อมาจากกรมบังคับคดี 265,680,000 บาท ว่า สมเหตุสมผลหรือไม่ เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเด็น !
(อ่านประกอบ : เจาะถุงเงิน"คีรีมายา"โชว์รายได้ล่าสุด 520 ล้าน ก่อนเจอสอบปมรุกที่รัฐ?)
ขณะที่ข้อมูล "ลูกค้า" โครงการคีรีมายา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ
เพราะภายหลังจากที่ สำนักข่าวอิศรา ได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้น ไปว่า ปัจจุบันในบรรดาโครงการต่างๆ ของคีรีมายา มี "ลูกค้า" เข้าไปทำธุรกรรมลงทุนซื้อทรัพย์สินในโครงการต่างๆ ทั้งในส่วนของการซื้อที่ดิน ปลูกบ้าน หรือเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟ จำนวนมาก (บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 274,900,000 บาท) และมีการยืนยันข้อมูลวงในว่า สถานะของ"ลูกค้า" มีหลายระดับ ทั้ง นักธุรกิจ หรือเครือญาตินักการเมือง
ถ้าหากโครงการนี้มีปัญหาเกิดขึ้น "ชะตากรรม" ของ "บุคคล "เหล่านี้ จะเป็นอย่างไร?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลที่เชื่อถือได้จากแหล่งข่าวในโครงการคีรีมายา ว่า ลูกค้าของโครงการ มี 4-5 คนที่มีนามสกุลเดียวกับผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
"บางคน" ใครเห็นชื่อแล้ว.. เชื่อว่า คงต้องถึงขนาดร้อง "โอ้โห" กันเลยทีเดียว!