- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เจาะถุงเงิน"คีรีมายา"โชว์รายได้ล่าสุด 520 ล้าน ก่อนเจอสอบปมรุกที่รัฐ?
เจาะถุงเงิน"คีรีมายา"โชว์รายได้ล่าสุด 520 ล้าน ก่อนเจอสอบปมรุกที่รัฐ?
"...สิ่งที่น่าสนใจที่สุด ในขณะนี้ ก็คือ ปัจจุบันในบรรดาโครงการต่างๆ ของคีรีมายา มี "ลูกค้า" เข้าไปทำธุรกรรมลงทุนซื้อทรัพย์สินในโครงการต่างๆ ทั้งในส่วนของการซื้อที่ดิน ปลูกบ้าน หรือเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟ จำนวนมาก (บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 274,900,000 บาท) และมีการยืนยันข้อมูลวงในว่า สถานะของ"ลูกค้า" มีหลายระดับ ทั้ง นักธุรกิจ หรือเครือญาตินักการเมือง.."
มุ่งสู่ธรรมชาติ...
“หลบหนีความวุ่นวายกับชีวิตในเมือง มายังดินแดนแห่งป่าเขาที่สมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งผืนป่าเขาใหญ่ ในที่ ซึ่งเต็มไปด้วยทิวเขาเขียวขจีน้อยใหญ่สลับซับซ้อนสอดแทรกด้วยทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล เป็นทางเลือกที่คุณสามารถ มาสัมผัสถึงการพักผ่อนในรูปแบบที่ต่างออกไปด้วยการแทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ คีรีมายา”
นี่คือ ประโยคแนะนำตัวของ “คีรีมาย” ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ของ บริษัท คีรีมายา จำกัด http://www.kirimaya.com/residences/about-kirimaya-th.php
ซึ่งกำลังถูกตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ เกี่ยวกับปัญหาที่ดินจำนวนหลายพันไร่ ที่มีไว้ครอบครองในปัจจุบัน
แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า "คีรีมาย"า มีที่มาที่ไปอย่างไร และใครเป็นเจ้าของ ล่าสุดมีรายได้ในทางธุรกิจเท่าไร?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สืบค้นข้อมูลมาให้เห็นกันชัดๆ อีกครั้ง ดังนี้
เริ่มต้นจากฐานข้อมูลเว็บไซต์ คีรีมายา ระบุว่า เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ธันวาคม 2547 เป็นรีสอร์ทระดับหรู ที่เปิดให้บริการเป็นรายแรกในเขาใหญ่ ระยะทางห่างจากกรุงเทพเพียง 2 ชั่วโมง ใครที่มาพัก จะได้สัมผัสกับความสมบูรณ์ ของธรรมชาติ ความสบายจากสปา อาหารที่ถูกปากมากมาย และสนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม ที่ท้าทายออกแบบ โดย "แจ็ค นิคลอส" นักกอล์ฟระดับโลก
จากการสอบถามข้อมูลโครงการฯ ได้รับแจ้งว่า ปัจจุบัน คีรีมายารีสอร์ท มีห้องพักจำนวน 52 ห้อง ห้องสวีท 4 ห้อง และ เต๊นท์ วิลล่า 4 หลัง ราคาที่พัก ชั้น 1 ช่วงวันธรรมดา เริ่มต้นที่ 5,000 บาท ส่วนช่วงสุดสัปดาห์เริ่มต้นที่ 6,000 บาท ส่วนชั้น 2 วันธรรมดาเริ่มต้น 5,500 บาท ช่วงสุดสัปดาห์ 6,500 บาท สำหรับห้อง สวีท 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ช่วงวันธรรมดาเริ่มต้น 9,500 บาท ช่วงสุดสัปดาห์เริ่มต้น 1,2500 บาท
ขณะที่ในเว็บไซต์ยังระบุข้อมูลอีกหลายโครงการ อาทิ
- คีรีมายา เรสซิเดนส์ อัตตา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นริมทะเลสาบ มีทั้งแบบ 3 ห้องนอน และ 4 ห้องนอน ลานด้านนอกพร้อมด้วยสระว่ายน้ำ และ จากุสซี่น้ำร้อน เ
- คีรีมายา เรสซิเดนส์ มิติ โครงการที่ดินตั้งอยู่บนที่ราบเนินเขา ใกล้กับสนามกอล์ฟที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้
-โบฎี พูลวิลล่า (มุตติ มายา) เป็นโครงการในรูปแบบวิลล่าเหล่านี้ได้ถูกสร้างและตกแต่งอย่างลงตัวเพื่อตอบสนองความเป็นส่วนตัว และยังสามารถเข้าร่วมโปรแกรมเช่า ที่คีรีมายาจะเช่าวิลล่าของเจ้าของเพื่อนำกลับไปบริหารเป็นโรงแรม ภายใต้ชื่อ "มุตติ มายา รีสอร์ท" โดยรับประกันรายได้ขั้นต่ำต่อเดือนตลอดระยะเวลาของโปรแกรมเช่า
-คีรีมายา เรสซิเดนส์ โครงการที่ดินเปล่า เพื่อเปิดโอกาสให้เลือกสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง
และล่าสุด ‘อัตตา เดอะ คอนโด เขาใหญ่’ ซึ่งมีทั้งหมด 9 อาคาร อาคารละ 5 ชั้น รวมทั้งหมด 253 ห้อง และมีราคาห้องเริ่มต้นที่ 6,000,000 บาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท คีรีมายา จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2545 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เลขที่ 900 อาคารต้นสน ทาวเวอร์ ชั้น 10 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร ให้บริการห้องพัก ขายอาหารและเครื่องดื่ม
ปรากฎชื่อ นาย ประกาศ ตันติประเสริฐสุข และนาย สมเกียรติ เนติวิบูลย์พร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย สุวัฒน์ ชมากานต์ ถือหุ้นใหญ่สุด
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2556 ระบุว่ามีรายได้รวม 520,207,264.35 บาท
แยกเป็น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 274,900,000 บาท รายได้ค่าห้องพัก 127,946,799.69 บาท รายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 72,446,249.93 บาท รายได้ค่าบริการสนามกอล์ฟ 9,583,245.38 บาท รายได้จากกิจการสปา 5,479,112.44 บาท และรายได้อื่นๆ อีกกว่า 30 ล้านบาท
แต่มีรายจ่ายรวม 467,351,080.31 บาท มีกำไรสุทธิ 20,186,158.57 บาท
ส่วนข้อมูลด้านสินทรัพย์นั้น แจ้งว่ามีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 30,969,944.22 บาท ลูกหนี้การค้า 20,368,241.74 บาท สินค้าคงเหลือ 14,887,562.51 บาท มีต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 287,067,277.56 บาท รวมสินค้าคงเหลือ 301,954,840.07 บาท มีเงินลงทุนระยะยาวในบริษัทร่วม - ราคาทุน 250,000 บาท ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 408,515,400.52 บาท มีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน 224,059,000 บาท เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทอื่น 134,906,339.88 บาท
เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานรัฐ ส่วนกรณีของคีรีมายานั้น พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเนื้อที่ประมาณ 1,696 ไร่ (แบ่งเป็นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง 1,052 ไร่, อยู่ในเขต ส.ป.ก. 644 ไร่) ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินหลายส่วน อาทิ ออกเอกสารสิทธิสืบเนื่องมาจาก น.ค.3 ในเขตของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง และ ออกเอกสารสิทธิที่ดินสืบเนื่องมาจาก น.ค.3 นอกเขตนิคมฯ ไปทับที่ ส.ป.ก.จำนวน 644 ไร่ ซึ่งเป็นการออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ในส่วนการออกเอกสารสิทธิที่ดิน มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ แม้จะถูกมองว่า ชอบด้วยกฎหมาย แต่พื้นที่นิคมฯ นั้น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะออกให้แก่ผู้ที่เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีคุณสมบัติครบถ้วน เมื่อพ้นข้อกำหนดห้ามโอนบุคคลที่ซื้อที่ดินจะต้องทำประโยชน์เฉพาะเพื่อการเกษตรเท่านั้นจะทำอย่างอื่นได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดี ซึ่งกรณีของคีรีมายาได้รับอนุญาตจากอธิบดีเพื่อทำสนามกอล์ฟ แต่ไม่อนุญาตให้ดำเนินการบ้านจัดสรรแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการปรับถมดินทับร่องน้ำสาธารณประโยชน์ 163 ไร่ ทับทางสาธารณประโยชน์อีก 48 ไร่ ซึ่งจะให้ทางคีรีมายานำหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่
ขณะที่ นายอรัฐ เศวตะทัต กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ยืนยันว่า น.ส. 3 ก. ทุกแปลงในโครงการคีรีมายา ทั้งหมด 50 แปลงมีแหล่งที่มา 2 ส่วน แบ่งเป็น 36 แปลงที่บริษัทได้ซื้อทรัพย์สินมา เป็นโครงการสนามกอล์ฟ พร้อมกิจการมาจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2545 และบริษัทฯ ได้รับส่งมอบการครอบครองทำประโยชน์พร้อมเอกสารสิทธิครบถ้วน และอีก 14 แปลงมาจากการเสนอขายที่ดินของบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (BAM) ซึ่งจัดตั้งตามแผนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินของกระทรวงการคลัง
นายอรัฐ ยังระบุด้วยว่า "ที่ดินของคีรีมายาแยกออกจากเขตอุทยานชัดเจน มีแนวถนนกันไฟเป็นขอบเขต และมีหลักเขตอุทยานแยกจากที่ดินรีสอร์ทชัดเจน ยืนยันว่าไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและเขตอุทยาน และไม่เคยก่อสร้างปิดทับลำธารสาธารณะ"
เมื่อทั้งฝ่ายภาครัฐ และเอกชน ต่างยืนยันเหตุผลของแต่ละฝ่ายอย่างหนักแน่นแบบนี้
ผลการชี้ขาดสุดท้ายก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการนำหลักฐานมายืนยัน
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด ในขณะนี้ ก็คือ ปัจจุบันในบรรดาโครงการต่างๆ ของคีรีมายา มี "ลูกค้า" เข้าไปทำธุรกรรมลงทุนซื้อทรัพย์สินในโครงการต่างๆ ทั้งในส่วนของการซื้อที่ดิน ปลูกบ้าน หรือเป็นสมาชิกสนามกอล์ฟ จำนวนมาก (บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 274,900,000 บาท) และมีการยืนยันข้อมูลวงในว่า สถานะของ"ลูกค้า" มีหลายระดับ ทั้ง นักธุรกิจ หรือเครือญาตินักการเมือง
ถ้าหากโครงการนี้มีปัญหาเกิดขึ้น "ชะตากรรม" ของ "บุคคล "เหล่านี้ จะเป็นอย่างไร? น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง